![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
---|
ADSLADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) คือ เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงบนข่ายสายทองแดงหรือคู่สายโทรศัพท์ ADSL เป็นเทคโนโลยีในตระกูล xDSL โดยมีลักษณะสำคัญคืออัตราความเร็วในการรับ ข้อมูล (Downstream) และอัตราการเร็วในการส่งข้อมูล (Upstream) ไม่เท่ากัน โดยมีอัตรารับข้อมูลสูงสุดที่ 8 Mbps และอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 1 Mbps โดยระดับความเร็วในการ รับ - ส่ง ข้อมูลจะขึ้นอยู่กับ ระยะทาง และคุณภาพของคู่สายนั้นๆ
เทคโนโลยี ADSL ใช้เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณ โดยการแบ่งย่านความถี่บนคู่สายทองแดงออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงความถี่โทรศัพท์ (POTS) จึงทำให้สามารถส่งข้อมูลและใช้โทรศัพท์ได้ในเวลาเดียวกัน ADSL ถูกพัฒนาให้ใช้ TCP/IP Protocol เป็นหลักซึ่งเป็น Protocol ที่ใช้บนเครือข่าย Internet ทำให้ ADSL สามารถรองรับ Application ในด้าน Multimedia ได้เป็นอย่างดี
การทำงานของ ADSL โมเด็มเกิดขึ้นระหว่างชุมสายโทรศัพท์ (Central Office) โดยผู้ให้บริการต้องติดต้องอุปกรณ์รวมสัญญาณเรียกว่า DSLAM (DSL Access Multiplexer) ในทุกชุมสายที่ให้บริการ ซึ่งจะทำหน้าที่รวมสัญญาณจากผู้ใช้งานในชุมสายโทรศัพท์นั้นๆ จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งผ่านเครือข่ายดิจิตอลความเร็วสูง ไปยังศูนย์กลางของผู้ให้บริการ และจากนั้นผู้ให้บริการ ADSL จะเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการข้อมูล (Service Provider) เช่น ISPs หรือเครือข่ายขององค์กรที่ต้องการ
ประโยชน์ของ ADSL
อุปกรณ์ที่จำเป็นในการติดตั้ง ADSL
1. ADSL Modem โดยเราอาจจะซื้อเป็น ADSL Modem ที่มี Router ในตัวก็ได้ 2. ADSL Splitter 3. สายโทรศัพท์ 4. สาย LAN (LAN Cable)
ADSL ทำงานอย่างไรสามารถรับส่งสัญญาณเสียงและข้อมูลเดินทางไปพร้อมๆกันด้วยคู่สายเพียงเส้นเดียว ซึ้งการ upstream และ downstream เป็นแบบ Asymmetric ( upstream คือ การส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต เช่น การ upload file, การคลิ๊ก mouse เป็นต้น ส่วน downstream หมายถึงการดึงข้อมูลจากระบบอินเตอร์เน็ต เช่น การ download ,การเปิดเวป เป็นต้น ) ซึ่งในที่นี้เราจะกล่าวถึงเฉพาะ ADSL จะเห็นว่า Asymmetric นั้นอัตราการรับส่งข้อมูลไม่เท่ากันซึ่งหมายความว่า การ Upstream กับ Downstream จะไม่เท่ากัน ส่วน Symmetric นั้นอัตราการรับส่งข้อมูลเท่ากันทั้งขารับและขาส่ง นั้นก็หมายความว่า Upstream เท่ากับ Downstream การเชื่อมต่อแบบ Modem นั้นสามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดแค่ 33 kbps และ รับข้อมูลได้สูงสุด 56 kbps ส่วน ISDN นั้น สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุดแค่ 64/128 kbps สุดท้าย ADSL Modem สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดแค่ 640K kbps และ รับข้อมูลได้สูงสุด 8000 kbps ซึ่งหากเทียบกันแล้ว ADSL นั้นสามารถรับส่งข้อมูลได้ดีที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพคู่สายที่ใช้งาน
สัญญาณเสียงที่ใช้มี Bandwidth ( ความกว้างของ Pulse ) แค่ 4 KHz เท่านั้นส่วนความถี่ที่เหลือนั้นไม่ได้นำไปใช้งาน ( Potentially available ) ดังนั้นจึงมีความคิดนำความถี่ที่เหลือไปใช้งาน ความถี่เพื่อใช้แบ่ง Upstream และ DownStream อีกด้วยโดยความถี่ Downstream จะอยู่ในช่างความถี่ 138 KHz - 1.1 MHz ส่วน Upstream นั้นจะใช้ช่วงความถี่ 26 KHz - 138 KHz แต่โดยปกติแล้วจะไม่ใช้ความถี่ที่สูงจนเกินไปเพราะความถี่ยิ่งสูงก็จะทำให้เกิดการ Drop ของสัญญาณมีมากขึ้น ในส่วนของ Service Provider มีส่วนประกอบด้วย DSLAM,BRAS และ ISP ซึ่งในส่วนของ DSLAM และBRAS เป็นส่วนรับผิดชอบของผู้ให้บริการโทรศัพท์ จะเห็นได้ว่า PC เชื่อมต่อกับ Modem จากนั้น Modem ก็เชื่อมต่อกับ Splitter ซึ่งจะเป็นตัวแยกสญญาณโทรศัพท์กับข้อมูล (โดยการกรองความถี่ต่ำออกนั้นก็คือ Voice นั้นเอง ) จากนั้นก็เชื่อมต่อไปยัง Service provider ( Service provider หมายถึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เช่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์และ ISP ) เมื่อสายสัญญาณโทรศัพท์เข้ามาที่ชุมสายโทรศัพท์ตัวก็จะผ่านตัว Splitter เพื่อแยกสัญญาณ PSTN เข้าชุมสายโทรศพท์ ส่วนสัญญาณข้อมูลจากเข้าสู่อุปกรณ์ DSLAM เพื่อรวบรวม USER แต่ละ User ส่งให้อุปกรณ์ BRAS โดยส่งผ่านระบบ ATM จากนั้น BRAS จะตรวจสอบว่าแต่ละ USER เป็นของ ISP รายใด แล้วจึงส่งข้อมูลให้ ISP รายนั้นต่อไปเพื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตต่อไป ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ ADSL เพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ไฟล์ข้อมูลต่างๆก็มีขนาดใหญ่ขึ้น การับส่งจึงต้องมีการพัฒนาให้ทันกัน เช่น การชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงก็ต้องมีอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงด้วย ปัจจุบันก็มีหลากหลายบริษัทที่ให้บริการในด้านนี้ เพราะฉะนั้น เราก็สามารถขอรับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จากผู้ให้บริการได้ตามความพึงพอใจของแต่ละคนกันเลย การติดตั้ง ADSL จากตู้ Node1. DSLAM เป็นตัวรวมสัญญาณ internet เข้ากับคู่สายโทรศัพท์บ้านเดิม เป็นการนำสัญญาณ internet ให้ได้คุณภาพที่ดีขึ้น (ยิ่งใกล้บ้านใครก็ยิ่งสามารถได้ bandwidth สูง และเช่นกัน ยิ่งบ้านใครห่างไกลตู้มาก สัญญาณ internet ก็อ่อนลง bandwidth ก็ต่ำลง) 2.สายดร็อปไวร์ (Drop Wire) ใช้ในการเดินสายโทรศัพท์ภายนอกอาคาร ทนแดดทนฝน 3.กล่องกันฟ้าผ่า (FUSELESS TELEPHONE STATION PROTECTOR) ติดไว้กับผนังหน้าตัวอาคาร หน้าบ้าน ถ้าฟ้าผ่าแรงดันจะไหลข้ามลงสายกราวด์ลงดิน ภาพแสดงการต่อใช้งานจริง |