สวัสดีครับคุณต้อง รถสวยมาก ความสูงก็ดูสมส่วนพอดี เท่าที่อ่านดูรายละเอียด พอคาดคะเนได้ว่าคุณต้องเปลี่ยนโตงเตงกับโช็คอัพ
โดยที่แหนบยังใช้ของเดิมที่ติดมากับรถ


ซึ่งถ้าเป็นแหนบดั้งเดิมที่ติดมากับรถ จะเป็นแหนบที่ค่อนไปทางอ่อนหน่อย พอเจอกับโช็คที่ค่อนข้างหนืดและแข็ง
การทำงานเลยไม่เป็นทีมเวิร์ค คล้ายคนเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้คนสองคนช่วยกันจับเลื่อยคนละด้าน ทั้งสองคน
จะต้องโยก-ดึง ในจังหวะที่สัมพันธ์กัน ฉันใดฉันนั้น ระยะช่วงเวลาการดีดคืนตัวของแหนบจะต้องสัมพันธ์กับการทำงาน
ของโช็คอัพ ในระยะเวลาที่เหมาะสม เหมือนลิ้นกับฟันเลย หรือเหมือนการปฎิบัติการบางอย่างที่ทุกคนชอบ ฮิฮิ ...

ภาพบนแสดงการทำงานของโช็คอัพ หรือ คอลย์สปริง(แหนบก็ถือว่าเป็นสปริงอีกแบบหนึ่ง)
เมื่อแหนบถูกกดหรือกระแทกลงโช็คอัพก็จะถูกกดตัวลงเหมือนกันจากนั้นแหนบจะดีดตัวคืน
โช็คอัพจะทำการต้านแรงดีดหรือการคืึันตัวของแหนบ ให้ค่อยๆคืน เพื่อรักษาตัวถังรถไม่ให้
ดีดตัวเร็ว หรือ กระโดดเด้ง ตามแรงสปริงตัวของแหนบ ที่เค้าเรียกว่าแหนบทำการซับแรง
ไว้ หรือ การเก็บอาการไว้

ภาพบนนี้น่าคิดนะครับว่าหากมีแรงกระแทกซำ้ลงไปอีกแหนบจะทำงานอย่างไร และ โช็คจะทำงานอย่างไร

ตามความคิดของผมคิดว่าส่วนสำคัญมี 3 จุดด้วยกันคือ
1.ความยาวของโช็คอัพ รวมถึงระยะการทำงานของโช็คอัพ
2.ความสูงของโตงเตงที่ยกมีผลต่อการทำงานของแหนบ และ ช่วงระยะการทำงานของโช็ค
3.ความอ่อนแข็งและระยะการให้ตัว(ดีดตัว)ของแหนบ เหมาะสมกับความสูงของโตงเตงและระยะการทำงานของโช็ค

สำคัญที่น่าเป็นห่วงในการยกระดับความสูงขึ้นมาอย่างหนึ่งคือ แขนจากลูกหมากที่ต่อไปยังกระปุกพวงมาลัย
ถ้าระดับต่างกันมากทำให้เกิดการงัดตัว อาจทำให้ลูกหมากสึกและเสียหายเร็วขึ้น การแก้ปัญหาในระดับมุมที่ต่างกัน
มากเค้าก็ใช้ S-LINK มาแทนตัวเดิมเป็นการปรับมุมให้เหมาะสม

เดาเอานะครับว่าแหนบอาจไม่เหมาะสมกับโช็คอัพที่ใช้ และระดับความสูงที่ยกโดยโตงเตง
ถ้าเป็นผมชอบทำอะไรแบบลูกทุ่งง่ายๆ (อยากได้ดีแต่ไม่ค่อยมีสตางค์) คงใช้วิธีเช็คระดับต่ำสุด
ชองโช็คอัพก่อน(ป้องกันโช็คยันด้วย) เพื่อหาระยะปกติที่โช็คอัพอยู่ และ เมื่อมีแรงกระแทกลงมา
ระยะทำงานของโช็คอัพจะมีแค่ไหน
ต่อมาหาระดับความโค้งของแหนบว่ามีระยะการยุบตัวและดีดตัวเท่าไหร่
สุดท้ายก็มาลองทำโตงเตงให้ได้ระยะที่เหมาะสม อาจไม่ถูกต้องตามสูตร แต่น่าจะเป็นวิธีการที่เสียเงิน
น้อยที่สุดในเบื้องต้นก่อน ก่อนที่จะซื้อแหนบใหม่ หรือ โช็คอัพใหม่ เพราะมันเป็นการปรับช่วงการทำงาน
ของแหนบและโช็คอัพได้ระดับหนึ่ง แต่ความอ่อนแข็งของโช็คและแหนบเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ

และอีกแนวทางหนึ่งอาจใช้วิธีเสริมแหนบเข้าไปที่คู่หน้าก่อน เพราะเท่าที่คุณต้องเล่ามาเหมือนกับ
เจออาการชก(อย่างแรง)ของคู่หน้าเมื่อขึ้นเนินหรือลงเนิน หรือ ลงหลุม เพื่อให้ด้านหน้าแข็งขึ้นมาอีก
หน่อย แล้วลองดูก่อน แต่เห็นราคาแค่เล่นกับแหนบเดิมสองพันกว่า ทำไม่หนักจังเลยครับ ผมให้อู่ทำ
เปลี่ยนแหนบเข้าออก และถ่ายน้ำมันเฟือง น้ำมันเกียร์ คิดราคา 750 บาท และคิดค่าเสริมและดัดแหนบ
โดยเครื่องไฮโดรลิค อีก 150 บาท รวมเป็น 900 บาท เอาเป็นว่าค่าแรงงานในเมืองกรุงอาจสูงแน่นอน
แพงที่สุดสำหรับการถอดและดัดและติดตั้งคืนน่าจะประมาณไม่เกิน 1,000 บาท ไม่รวมค่าแผ่นแหนบ
ที่นำมาเสริมเข้า จากนั้นถึงไปเล่นด้านหลัง ในวันเดียวกันจะได้ไม่เสียค่าแรงบ่อย แต่ถ้าทำเฉพาะด้านหน้า
แล้วลองขับดูถ้าจบเป็นที่พอใจ คู่หลังก็ไม่ต้องทำก็อาจจะประหยัดเงินไปอีกครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจต้องเช็คราคาแหนบใหม่ก่อนมามีกี่รุ่นและราคา ที่พอรับได้ก่อนเพื่อเป็นแนวทางใน
การพิจารณา ในการปรับปรุงเจ้าซูที่น่ารักต่อไป (ไม่อยากให้เสียเงินเป็นก้อนๆหลายครั้ง) ส่วนโช็คอัพ
ผมว่ารอไว้เล่นทีหลังดีกว่า เพราะดูจากรูปแล้วน่าใช้ดี และคุณต้องไม่ได้ไป Off Road ที่ไหนคงน่าจะ
ยังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ครับ ลองคิดดูครับว่าจะวางแผนในการสยบเจ้าซูอย่างไร อย่างไรเสียผมก็ยินดี
เป็นคู่คิดแบบไม่ค่อยรู้เหมือนกัน ถือว่าช่วยกันเดาช่วยกันมั่วแล้วกันนะครับ

ด้วยความห่วงใยสุขภาพเจ้าซู มิได้ห่วงใยคุณต้องสุขภาพคุณต้อง แต่ห่วงใยกระเป๋าเงินคุณต้องมากกว่า

ฉบับที่สอง(ต่อ)
สวัสดีครับคุณต้อง
พอดีเปิดอ่านเมล์ที่ตอบคุณต้องรู้สึกว่าตอบกว้างๆไป อาจทำให้คุณต้องสับสนได้ ขอสรุปแนวทางดังนี้ครับ

1.ยอมเสียเงินก้อนใหญ่ โดยเปลี่ยนแหนบเปลี่ยนโช้คอัพ เอายี่ห้อที่จับคู่กันได้ลงตัว เพื่อให้ได้ความนุ่มตามต้องการ
โดยใช้ข้อมูลจากรถคันที่เค้าทำมาแล้ว ได้ผลตามที่เราต้องการ ข้อนี้คิดว่าคุณต้องคงยังไม่เอาแน่ครับ
ยังไงซื้อหวยรัฐบาลไว้บ้างเผื่อได้ใช้ข้อนี้

2.คงโช้คอัพเดิมไว้เพราะดูแล้วน่าจะดีอยู่ ทีนี้ลองใช้วิธีหาแหนบเก่าๆ มาตัดมาเสริม หรือ ดัด ทำดูหลายๆ
รูปแบบร่วมกับแหนบที่มีอยู่ปัจจุบัน เพื่อปรับให้เข้ากับโช้คอัพที่มีอยู่ อาจต้องใช้การทดลองหลายรอบพอสมควร
จนกว่าจะได้ผลตามที่ต้องการ จริงๆแล้วการถอดเปลี่ยนเสริมแหนบ ไม่ได้ยากมาก ขอเพียงมีขาหยั่งซักสองตัว หรืออื่นๆ
ที่คิดว่าแข็งแรง ถ้าได้ลองทำแล้วจะรู้ว่าไม่ยากเลยครับ แต่อย่าไปดูแบบช่างบางอู่นะครับ มีแม่แรงกี่ตัวขนมาใช้ให้หมด
ทั้งตอกทั้งงัด ทั้งทุบ กว่าจะเอาออก เอาเข้าได้ ดูแล้วเหมือนยากจริงๆ บางทีผมเห็นแล้วอยากจะบอก แต่กลัวถูกดีด
ออกจากอู่เลยเฉยไว้ จริงผมก็ไม่ได้ไปเรียนวิธีเปลี่ยนแหนบจากไหนหรอกนะ ที่เคยเรียนจะเป็นด้านทฤษฎีล้วนๆ
ปฎิบัติเล็กน้อยเท่านั้น ผมเห็นในเวบของต่างประเทศเค้ามีภาพประกอบการทำช่วงล่าง เห็นวิธีขึ้นแม่แรงของเค้า
เลยลักจำมา ได้ผลจริงๆแต่สำหรับการดัดแหนบต้องจ้างโรงกลึงที่มีเครื่องไฮโดรลิคดัดให้ หรือจ้างร้านเกี่ยวกับแหนบดัดให้
้แล้วเอามาประกอบเข้าเอง หากใช้วิธีตามข้อสองนี้ ถ้าไม่ได้ทำเอง ต้องจ้างให้อู่ทำ อาจทำให้เสียค่าแรงหลายรอบ แต่ถ้ามีอู่ที่รู้จัก
หาจังหวะที่เค้าว่างๆงาน ก็คงจะประหยัดไปได้อีกโขครับ

3.ซื้อแหนบใหม่มาทั้งชุดที่ราคาไม่แพง คิดว่าคงเป็นแหนบของสามมิตร (กระทิงแดง) รุ่นยก 3 นิ้ว หรือยี่ห้ออื่นๆ
ที่ราคาไม่แพงมาก เอามาเปลี่ยนดู แล้วใช้งานดูระยะหนึ่งให้นานหน่อยอาจเป็นเดือน จากนั้นพยายามจับผิด
ว่าอ่อน ไป แข็งไป กระด้างไป หรือ แข็งนิดๆ อ่อนไปนิด จับความรู้สึกให้ได้ จากนั้นก็ค่อยมาใช้วิธีถอดแหนบ
บางตัวออก หรือ เสริมแหนบบางตัวเข้า เพื่อให้ได้ผลตามที่เราต้องการ

เพราะเรื่องแหนบกับโช้คอัพเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กันอย่างมากกับด้านเทคนิค รวมถึงความรู้สึกของผู้ใช้รถด้วย
จริงๆแล้วยังมีอุปกรณ์ตัวอื่นที่ต้องทำงานสัมพันธ์กับแหนบและโช้คอัพ เช่น โตงเตง หรือแม้แต่ เหล็กกันโคลงเอง
ยังต้องจัดให้เหมาะสมกันทั้งระบบเลยตามหลักการแล้วถ้าเรามีข้อมูลทางเทคนิคที่วัดเป็นตัวเลขจริงๆ ของทั้งแหนบ
ทั้งโช้คอัพ แล้วเขียนโปรแกรมให้คำนวณค่าความสูงที่เหมาะสม หรือ กำหนดความสูงแล้วหาค่าว่าควรใช้แหนบรุ่นไหน
โช้คอัพรุ่นไหน เบอร์อะไร โดยคำนวณร่วมกับแรงที่กำหนดให้กระทำต่อแหนบ เพราะแหนบสปริงมีหน้าที่ดูดซับอาการ
สั่นสะเทือน ส่วนโช้คอัพรับหน้าที่หน่วง หรือหยุดอาการเต้นของแหนบสปริง
ถ้ามีข้อมูลหลักๆเหล่านี้ในแหนบหลายๆรุ่นหลายยี่ห้อ รวมโช้คอัพด้วยคงจะดีไม่น้อย แต่เสียดายบรรดาผู้ผลิต
ดูเหมือนกับจงใจให้ผู้บริโภคใช้วิธีซื้อแล้วลอง แล้วซื้อใหม่ ก็เลยกลายเป็นธุรกิจที่ทำมาหากินกันอย่างทุกวันนี้
มาถึงตรงนี้ผมเริ่มเห็นธุรกิจอีกแบบขึ้นมาลางๆแล้วล่ะ เอ๊ก ๆๆๆ โชคดีครับ

เสริมอีกนิดนะครับ
เรื่องเกี่ยวกับแรงดันลมของยางที่ใช้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการแสดงอาการนิ่มหรือแข็งของรถได้อย่างมาก
เหมือนกัน ระดับแรงดันต่างไปเพียงสองปอนด์ก็จับความรู้สึกได้ ยิ่งบางคนมีความรู้สึกไวมากแค่ปอนด็เดียวก็สึกแล้ว
ทั้งนี้เพราะยางแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นอาจให้ผลออกมาที่ระดับความดันเดียวกันต่างกันได้ ต้องทำการทดลองดูหลายๆ
ระดับ จนเป็นที่พอใจของผู้ใช้รถ ก็ยึดแรงดันลมนะตรงนั้นเลยสำหรับยางที่ใช้ แต่อาจต้องเพิ่มเมื่อเดินทางไกล
และมีการบรรทุกสัมภาระต่าง ตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

ฉบับที่สาม(ต่อ)
วันนี้ปวดเนื้อปวดตัวอาการหวัดเริ่มเล่นงานเลยพักผ่อนซักวัน แต่ก็อดไม่ได้มานั่งอ่านอีเมล์ พอดีนึกได้ว่าทุกครั้งที่ตอบคุณต้อง
มักจะตอบแบบกว้างๆ (เซฟตัวเอง นิ) พออ่านดูอีกทีเหมือนให้คุณต้องไปมั่วเอง มันยังๆอยู่ ก็เลยสรุปวิธีแก้ไขแบบให้กระชับ
เข้าหน่อย แต่ยังไม่ฟันธงนะครับ เริ่มเลย

ถ้าแหนบอ่อนมาก ทายว่าแหนบทั้งหมดของคุณต้องใช้อยู่อ่อนไปแน่ๆ พอเจอะอะไรนิดๆหน่อยๆ ตัวถังรถจะไหวตัวยวบยาบทันท
ี เหมือนติดของหนักไว้นบปลายสปริงอ่อนๆ มีแรงสะเทือนเล็กน้อย ไอ้สิ่งที่ติดบนปลายสปริงก็จะดิ้นทันที ถ้าเปลี่ยนเป็นสปริงที่แข็งขึ้น ต้องใช้แรงกระทำมากขึ้นจึงจะมีผลให้ของที่อยู่บนปลายสปริงดิ้น ในลักษณะนี้คือแหนบต้องอยู่ในสภาพที่พอดีหรือต้องค่อนไปทาง
แข็งนิด (แต่เชื่อว่าแหนบที่คุณต้องใช้อ่อนแน่) ทีนี้เมื่อแหนบแข็งขึ้นและมีความโค้งมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคืออาการดีดตัวอย่างรุนแรงขึ้น
และอาจดีดได้อีกหลายครั้งด้วย หากโช้คอัพต้านแรงดีดไม่ได้หรือเอาไม่อยู่ ทีนี้ก็ต้องเลือกโช้คอัพที่หนึดในระยะยืดตัวมากขึ้นและมี
ระยะการทำงานในช่วงยืดตัวมากขึ้น ปัญหามีอยู่ว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็หมายความว่าต้องทำการเปลี่ยนทั้งระบบคือแหนบและโช้คอัพเลย
ซึ่งสมมุติว่าตอนนี้เราจะประหยัดโช้คอัพล่ะ เราก็ต้องมาเล่นแหนบ ทีนี้ก็มาถึงคำถามต่อล่ะครับว่าเล่นแหนบอย่างไร

ตอนนี้เราต้องมาลุ้นกันก่อนล่ะครับว่าไอ้เจ้าโช้คอัพของเรามันมีค่าความหนืดแค่ไหนมีช่วงระยะการทำงานแค่ไหน
ตรงนี้ต้องวัดดวงกันแล้ว แต่ไหนๆ ดูแหนบแล้วไม่ประทับใจ ใจต้องการเปลี่ยนอยู่แล้ว หากไปซื้อแหนบที่อ่อนมาอีกก็ต้อง
ไปยุ่งยากเสริมใต้แหนบหลักอีกแผ่น หรือต้องไปดัด ใช้ได้ไม่นานก็เซ็ตตัวและล้าคืนเหมือนเดิม ถ้าเจอแหนบที่แข็งขึ้นก็
อาจทำให้การปรับแต่งง่ายหน่อย ทีนี้มาถึงวิธีการปรับให้แหนบนุ่มลดอาการกระด้างลง กันล่ะ
1.ใช้วิธีถอดแหนบบรรทุกตัวล่างออก ถ้าเป็นแหนบรุ่น 4 แผ่นขึ้นไปก็เล่นง่ายหน่อย แต่ถ้ารุ่น 3 แผ่นก็อาจจะอ่อนวูบทันที
หรืออาจจะดีก็ได้ขึ้นอยู่กับค่าความแข็งของแหนบที่เหลืออยู่ ว่าพอรับไหวหรือไม่ จะเห็นว่าแหนบชุดแต่งที่เค้าทำขายบาง
เจ้ามีแผ่นน้อยมาก แต่แข็งแรง ไม่อ่อนตัวง่ายเกินไป มีแรงรับและดีด เหมาะสม เพราะเค้าใช้เหล็กที่มีคุณภาพดีมาก
2.ตัดปลายแหนบบรรทุกตัวหนาล่างออก อาจใช้แหนบของเดิม(เอามาเฉพาะแผ่นบรรทุก)มาตัด และเก็บตัวของใหม่ไว้
(หากต้องการเอาของใหม่กลับคืน) วิธีนี้มีผลในการลดอาการกระด้างลงได้เหมือนกัน
3.ตัดปลายแหนบตัวรอง(แผ่นที่สองจากบนสุด)ออก เพื่อลดอาการกระด้าง และทำให้นุ่มได้ ตรงนี้มีผลอย่างมากต่อความนุ่ม
และลดอาการกระด้างลงได้มาก แต่คงต้องใช้วิธีลองแบบข้อสอง เพียงแต่ค่าความแข็งและแรงสปริงของแหนบเดิมจะยังดีหรือไม่ วิธีการนี้วัดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าตัดแหนบตัวทดลอง(แผ่นแหนบตัวรองของเก่า) เท่าไหร่แล้วดี แล้วมาตัดแผ่นใหม่ตาม
ตรงนี้ต้องทดลองเอาแล้วล่ะครับ

ทั้งหมดก็หมดแค่นี้ครับ จากนั้นก็เป็นเรื่องของโช้คอัพแล้วล่ะครับ ผมเห็นของเวบต่างประเทศมีขายเฉพาะเป็นแผ่นเลย
โดยเฉพาะแผ่นหลักและแผ่นรอง แต่การใช้แหนบลูกผสมอาจทำให้ค่าการทำงานทั้งสี่ตัวไม่เท่ากันได้ ถ้าเป็นรถคันละเฉียด
ล้านขึ้นก็รีเรียสหน่อย แต่สำหรับผมไม่ซีเรียสครับ เพราะขอให้ดีกว่าเดิมก็พอแล้ว ทั้งหมดนี้ให้ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง
แบบคนเบี้ยน้อยนะครับ ได้ผลอย่างไรก็เล่าให้ฟังด้วยนะครับ

 
ภาพแรกนี่แสดงว่ารถต้องคุณต้องเป็ร SUZUKI ของแท้แน่นอนเพราะกันชนหลังตก ล้อเล่นนะครับ
 

โช็คอัพดีแปลกตาดีนะครับ
 

แหนบแถวตรงเรียงหนึ่งเหมือนรถผมเลย
 
ตามวงกลมในภาพคือจุดที่ใช้อัดจาระบีครับ ควรใช้จาระบีล้อ หรือจาระบีทนความร้อน
 
บางรุ่นจะมีหัวสำหรับอัดจาระบีอยู่ 1 จุด ตามลูกศรชี้ อาจจะอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง
บางรุ่นจะไม่มีที่สำหรับอัดจาระบีเลย อย่างรถของคุณต้องเป็นต้น
 
ตำแหน่งหัวอัดจาระบีอีกที่ (ถ้ามี)
 
มุมเพลาของรถคุณต้องยังดูดีเป็นปกติ แต่เจ้าสองล้อที่จอดอยู่ดูใหม่ดีนะ
 
แหนบดูการจัดเรียงรูปร่างและตำแหน่งสวยดี ระยะโค้งขณะรับน้ำหนักรถยังอยู่ในสภาพ
พร้อมรับใช้คุณต้องอีกนาน
 
ระยะห่างระหว่างก้นแคร้งน้ำมันเครื่องกับเสื้อเพลา ห่างดีเพราะยกสูง รถของผมดูชิดกัน
มากเลย จนก้นแคร้งน้ำมันเครื่องเป็นรอยกระแทก แต่ดูมุมนี้ความโค้งของโช็คอัพหน้า
ดูสวยใช้ได้ หรืออาจเป็นเพราะมุมภาพหลอกตา
     
Hosted by www.Geocities.ws

1