การหานก (Bird Finding) |
หัดใช้กล้องส่องทางไกล เพราะนักดูนกใหม่ๆ มักจะมีปัญหาเห็นนกด้วยตาเปล่าแล้ว แต่พอยกกล้องขึ้นส่องดู กลับหานกไม่เจอ วิธีแก้ไขก็คือต้องหัดใช้กล้องให้คล่องก่อน เราสามารถหัดใช้กล้องได้แม้จะไม่ได้ไปดูนก เช่นอยู่ที่บ้าน เราก็ลองมองไปที่วัตถุสักชิ้นหนึ่ง กิ่งไม้สักกิ่งหนึ่ง แล้วลองยกกล้องขึ้นส่องดู พยายามค้นหาและปรับโฟกัสภาพให้เร็วที่สุด พยายามซ้อมจนสามารถยกกล้องแล้วเล็งไปที่วัตถุนั้นได้ทันทีและสามารถปรับโฟกัสได้ใน 1 วินาที เพราะการออกไปดูนกในสนามนั้น นกบางชนิดมีเวลาให้เราดูไม่ถึง 2 วินาทีด้วยซ้ำ ดังนั้นความรวดเร็วของการใช้กล้องจึงสำคัญมาก อีกเทคนิคหนึ่งคือ ขณะที่เรามองด้วยตาเปล่านั้น พยายามหาจุดเด่นของสิ่งที่นกเกาะอยู่ ปลายกิ่งไม้ ดอกไม้ เป็นต้น เมื่อยกกล้องขึ้นส่องแล้ว ก็รีบหาจุดเด่นนั้น ก่อนที่จะเลื่อนกล้องไปยังจุดที่นกเกาะอยู่ อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ คือ | |
การปรับโฟกัสไว้ล่วงหน้า เมื่อเราดูนกเสร็จ ส่วนใหญ่มักจะปล่อยตำแหน่งโฟกัสไว้ที่ตำแหน่งสุดท้าย ถ้านกตัวสุดท้ายเราดูใกล้ๆ แล้วเราเจอนกตัวต่อไปซึ่งอยู่ไกล เมื่อเรายกกล้องขึ้นส่อง ภาพที่เห็นจะเบลอจนดูไม่รู้เรื่อง เนื่องจากภาพหลุดโฟกัสไปมาก เราต้องมาเสียเวลาปรับโฟกัสอยู่นาน ดังนั้นเราควรจะปรับโฟกัสทิ้งไว้ที่ระยะราว 10 เมตรไว้ตลอดเวลา เมื่อเราเจอนกตัวต่อไป เราก็จะไม่เสียเวลาโฟกัสนาน และภาพที่ได้เห็นเมื่อยกกล้องส่องดูครั้งแรก จะยังพอมองออกว่าเป็นภาพอะไร ทำให้หานกได้ง่ายขึ้นครับ | |
ใช้สัมผัส อันนี้ค่อนข้างยาก เพราะแต่ละคนมีประสาทสัมผัสต่างกัน บางคนหูดี บางคนตาดี แต่ก็พยายามใช้สัมผัสที่เราแต่ละคนมีอยู่ให้มากที่สุด สำหรับเทคนิคในการใช้ประสาทสัมผัส ก็คือสังเกตสิ่งที่แปลกปลอมครับ เริ่มด้วยการใช้สายตา เราต้องสังเกตว่ามีอะไรแปลกๆ ไหม เช่น ไม่มีลมพัดแต่กลับเห็นใบไม้หรือกิ่งไม้ไหว ก็น่าสงสัยว่าต้องมีสัตว์อยู่ตรงนั้น หรือจะเป็นการสังเกตเห็นกิ่งไม้ที่ดูแปลกตาเพราะกิ่งไม้เปล่ากับกิ่งไม้ที่มีนกเกาะจะแตกต่างกัน แม้แต่การสังเกตสิ่งแวดล้อมอย่างพืชพรรณต่างๆ ก็มีส่วน เช่นเจอต้นกล้วย ก็มีโอกาสพบนกปลีกล้วย พบดอกไม้ที่นกชอบกิน ก็ลองเฝ้าอยู่สักพัก อาจจะมีนกกินปลีมาดูดน้ำหนาวก็ได้ นอกจากพืชแล้วยังมีสิ่งที่ให้สังเกตอีก เช่น โพรงรัง ลำธาร ต้นไทรที่ออกลูก หนองน้ำที่มีแมลงมากๆ ล้วนแต่เป็นแหล่งอาหารของนก จึงมีโอกาสที่มันจะมาแวะเวียนอยู่เสมอ ต่อไปก็เรื่องการใช้หูฟัง หลักๆ ก็คงเป็นเสียงร้องของนก เช่น ถ้าเราได้ยินเสียงนกพญาไฟ เราก็ต้องพยายามส่องหาบนยอดไม้ แต่ถ้าได้ยินเสียงนกกินแมลงก็ต้องพยายามส่องหาตามพื้น แต่เราคงจะไม่สามารถจำเสียงนกได้หมด การหาทิศทางของเสียงก็สำคัญ ต้องหัดหาทิศทางของเสียงให้ได้ก่อนซึ่งจะได้จากประสบการณ์ ถ้าเราดูนกบ่อยๆ ก็จะหาทิศทางของเสียงได้เก่งขึ้น มีเทคนิคอันหนึ่งสำหรับการหาทิศทางของเสียง ก็คือหลับตาครับ แล้วจึงค่อยๆ ฟังว่าเสียงมาจากทางไหน อีกสิ่งหนึ่งสำหรับการใช้ประสาทหูก็คือ การฟังเสียงแปลกปลอม เช่นเสียงใบไม้ เสียงคุ้ยเขี่ยใบไม้ เสียงกระพือปีก นี่ก็เป็นเสียงที่เราควรสังเกตไว้เวลาที่เราออกไปดูนกครับ |
|
|