มอก.
18000
บทนำ สภาพสังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมอุตสาหกรรมมากขึ้น
มีการใช้แรงงานที่ต้องเสี่ยงต่ออันตรายมากขึ้น
ความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ใช้แรงงานในการทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและใส่ใจตลอดเวลาเพราะ ผลจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน
หรือผลของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
นอกจากจะก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ตนเองแล้ว ยังส่งผลกระทบ ไปถึง
บุตร ภรรยา พ่อแม่พี่น้องอีกด้วย
ซึ่งเป็นความสูญเสียที่เกินกว่าที่คาดคิดหรือเรียกกลับคืนมาได้
บางครั้งอุบัติเหตุยัง ทิ้งร่องรอยของความขมขื่นเอาไว้อีกตลอดชีวิต
เช่น ความพิการ ความเจ็บปวดทรมาน บางธุรกิจอุตสาหกรรม
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อาจหมายถึงความสิ้นเนื้อประดาตัวไม่เพียงแต่ขององค์กร
ยังมีผลต่อสภาพแวดล้อมและสังคมโดยรอบอีกด้วย เช่น ไฟไหม้ โรงงานระเบิด
พนักงานและชุมชนโดยรอบได้รับสารอันตราย
ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงแรงงานและ สวัสดิการสังคมได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้
จึงได้มอบหมายให้
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกำหนดอนุกรมมาตรฐาน ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
(มอก.18000) ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานต่างๆนำไปปฏิบัติ
ทั้งนี้มิได้มีจุดมุ่งหมายเพียงการแก้ไขปัญหาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
แต่ยังครอบคลุมถึงแนวทาง ในการป้องกันมิให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ
และอุบัติเหตุต่างๆต่อผู้ปฏิบัติงานและสังคมโดยรอบทั้งในองค์กรเองและภายนอก องค์กรหรือชุมชนใกล้เคียง มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ตามอนุกรมมาตรฐาน มอก.-18000
นอกจากจะกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงานอาชีวอนามัย
และความปลอดภัยในองค์กร
ยังใช้เป็นข้อกำหนดในการตรวจประเมินของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)เพื่อให้การรับรองระบบการจัดการ อาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
(Occupational health and safety management system standards)
ตามอนุกรมมาตรฐาน มอก.18000 นี้ กำหนดขึ้นโดยใช้ BS 8800 : 1996 Guide
to occupational health and safety (OH&S) management systems
เป็นแนวทางโดยมีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นให้องค์กรใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดทำระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยและพัฒนาปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อนุกรมมาตรฐาน
มอก.18000 แบ่งออกเป็น 2 เล่ม ดังนี้ 1.
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัด
การอาชีวอนามัยและความปลอดภัย:ข้อกำหนด ตามมาตรฐานเลขที่ มอก.
18000-2540 (Occupational health and safety management system :
specification) 2.
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย:ข้อแนะนำด้านเทคนิคและวิธีการนำไปปฏิบัติ
ตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 18001-2541 (Occupational health and safety
management system : guide to technical and
implementation) วัตถุประสงค์ของมาตรฐานนี้
กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการดำเนินงานการจัดการอาชีวอนามัย
และความปลอดภัยขององค์กรในด้านต่างๆคือ 1.
ลดความเสี่ยงต่ออันตรายและอุบัติเหตุต่างๆของพนักงานและผู้เกี่ยวข้อง 2.
ปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจให้เกิดความปลอดภัย 3.
ช่วยสร้างภาพพจน์ความรับผิดชอบขององค์กรต่อพนักงานภายในองค์กร
ต่อองค์กรเอง
และต่อสังคม
ขั้นตอนหลักในการจัดทำระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
1.
การทบทวนสถานะเริ่มต้น องค์กรจะต้องพิจารณาทบทวนระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่มีอยู่
เพื่อทราบสถานภาพปัจจุบันขององค์กร
โดยมีวัตถุประสงค์ในการกำหนดขอบเขตของการนำเอาระบบการจัดการไปใช้และเพื่อใช้ในการวัดผลความก้าวหน้า
2.
นโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรจะต้องกำหนดนโยบายและจัดทำเป็นเอกสารพร้อมทั้งลงนามเพื่อแสดงเจตจำนงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
แล้วมอบหมายให้มีการดำเนินการตามนโยบายพร้อมทั้งจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นในการดำเนินการ
ต้องให้พนักงานทุกระดับเข้าใจนโยบาย
ได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมและมีความสามารถที่จะปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบรวมทั้งส่งเสริมให้เข้ามามีส่วนร่วมในระบบการจัดการ
3.
การวางแผน มีการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยง
รวมทั้งชี้บ่งข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้เพื่อใช้ในการจัดทำแผนงานควบคุมความเสี่ยงการวัดผลและการทบทวนระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยได้อย่างเหมาะสมพร้อมทั้งกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน
เพื่อให้สามารถจัดสรรทรัพยากรได้ถูกต้องทั้งด้านงบประมาณและบุคลากร
4.
การนำไปใช้และการปฏิบัติ องค์กรต้องนำแผนงานที่กำหนดไว้มาปฏิบัติโดยมีผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้รับผิดชอบโครงการจัดให้มีการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้มีความรู้และความสามารถที่เหมาะสมและจำเป็น
จัดทำและควบคุมเอกสารให้มีความทันสมัย
มีการประชาสัมพันธ์เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนในองค์กรตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกัน
ให้ความสำคัญและร่วมมือกันนำไปใช้ปฏิบัติพร้อมทั้งควบคุมการปฏิบัติให้มั่นใจว่ากิจกรรมดำเนินไปด้วยความปลอดภัยและสอดคล้องกับแผนงานที่วางไว้รวมถึงมีการเตรียม ความพร้อมสำหรับกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉินขึ้น
5.
การตรวจสอบและแก้ไข ผู้บริหารขององค์กรต้องกำหนดให้มีการตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานเป็นระยะๆโดยการตรวจประเมิน
เพื่อวัดผลการปฏิบัติและหาข้อบกพร่องของระบบ
แล้วนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุและทำการแก้ไข
แล้วบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร 6.
การทบทวนการจัดการ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรจะต้องกำหนดให้มีการทบทวนระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
จากผลการดำเนินงาน ผลการตรวจประเมินรวมทั้งปัจจัยต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป
นำมาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อลดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องและกำหนดแผนงานในเชิงป้องกัน
การนำมาตรฐานไปใช้ การนำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัด
การอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไปใช้
จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินช่วยองค์กรลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ปฏิบัติงานและประการสำคัญคือ
ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุภายในองค์กร
ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยขององค์กรที่มีต่อพนักงาน
นำไปสู่ความมั่นใจในการทำงาน เสริมสร้างคุณภาพขององค์กร
อันก่อให้เกิดความได้เปรียบต่อองค์กรคู่แข่งในตลาดการค้าและเป็นผู้นำในวงการธุรกิจ ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยนี้สามารถนำมาใช้ได้กับการจัดการขององค์กรไม่ว่าประเภทหรือขนาดใดๆ การนำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไปใช้ในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นั้น ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบดังต่อไปนี้ 1.
ผู้บริหารระดับสูงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจแน่วแน่ในการนำระบบมาใช้และให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง
และต่อเนื่อง 2. ทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจ ให้ความสำคัญ
มีส่วนร่วมและให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง 3.
ได้รับการจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอ 4.
มีการติดตามและปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัย
และความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ที่จะได้รับ 1.
รักษาและป้องกันชีวิตและทรัพย์สินอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุอันอาจเกิดขึ้นในองค์กร 2.
เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอุบัติเหตุ และภาวะฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
ซึ่งจะช่วยลดความเสียหาย
และความสูญเสียทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน 3.
ลดรายจ่ายเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนเนื่องจากอุบัติเหตุลดลง 4.
สร้างขวัญและกำลังใจแก่พนักงานให้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตการทำงานในองค์กร
ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการผลิต 5.
ได้รับเครื่องหมายรับรองฯ โดยองค์กรที่นำมาตรฐาน มอก.18000
ไปปฏิบัติสามารถขอให้หน่วยงานรับรองให้การรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถนำไปใช้ในการโฆษณา
และประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดียิ่งขึ้นและเป็นที่ยอมรับในสังคม 6.
เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การแข่งขันทางด้านการค้าในตลาดโลก
ใครควรทำ ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการสามารถนำมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไปใช้ได้ทั้งสิ้น
ในแต่ละองค์กรควรจะมีการพิจารณาว่ากิจกรรมที่ปฏิบัติอยู่มีอันตรายอย่างไรบ้าง
และอันตรายดังกล่าวมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใดแล้วนำมาจัดลำดับตามขนาดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
โดยการประมาณค่าจากโอกาสที่จะเกิดอันตรายและความรุนแรงของความเสียหาย
แล้วจึงวางแผนปฏิบัติการควบคุม โดยอาจเปรียบเทียบกับข้อกำหนดตามกฎหมาย
รวมทั้งวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับกิจกรรมนั้นๆ
แล้วกำหนดเป้าหมายในการดำเนินการในเชิงปริมาณเพื่อความสะดวกในการวัดผลการดำเนินการ องค์กรใดที่มีการควบคุมความเสี่ยงของอันตรายอย่างได้ผล
ย่อมมีผลให้การทำงานเป็นไปโดยราบรื่น ผู้ปฏิบัติงานมีสุขภาพพลานามัยดี
ซึ่งจะมีผลให้งานที่ปฏิบัติมีคุณภาพดี
นอกจากนั้นยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล
ค่าใช้จ่ายเนื่องจากต้องหยุดการทำงานเนื่องจากอุบัติเหตุ
แล้วยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น
จะทำอย่างไร การเตรียมตัวเพื่อขอรับการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ในการขอรับการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
องค์กรจะต้องจัดทำระบบตามข้อกำหนดในมาตรฐาน มอก. 18000
ซึ่งมีขั้นตอนหลักดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษามาตรฐานมอก.18000
และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2
ประชุมฝ่ายบริหารเพื่อขอการสนับสนุนโครงการในการจัดทำระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ขั้นตอนที่
3 ตั้งคณะกรรมการชี้นำ
เพื่อจัดทำระบบและควบคุมดูแลให้เป็นไปตามที่ได้กำหนดไว้ ขั้นตอนที่
4 กำหนดนโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัยวางแผนการจัดการระบบ
จัดทำวิธีการปฏิบัติ และ คำแนะนำที่จำเป็น ขั้นตอนที่ 5
ลงมือปฏิบัติตามระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ได้กำหนดขึ้น ขั้นตอนที่
6 ตรวจติดตามระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
เพื่อตรวจสอบว่าระบบเป็นไปตามแผนและ ข้อกำหนดของมาตรฐานและได้มีการนำไปใช้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ขั้นตอนที่
7
แก้ไขข้อบกพร่องที่พบจากการตรวจติดตามภายในและปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอด ภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นขั้น ขั้นตอนที่
8
ผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบโครงการดำเนินการทบทวนระบบการจัดการจากผลการดำเนินงาน การตรวจติดตามและการตรวจประเมินระบบ
รวมทั้งพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ แล้วนำมาปรับนโยบาย แผนงาน เป้าหมาย
เพื่อประสิทธิผลของระบบการจัดการ และเพื่อประเมินผล
ระบบการจัดการทั้งระบบเพื่อให้แน่ใจว่ามีความพร้อมสำหรับ การขอรับรอง ขั้นตอนที่
9 ติดต่อหน่วยงานที่ให้การรับรอง
และยื่นคำขอ
ยื่นคำขอฯได้ที่ไหน
สำนักบริหารมาตรฐาน 4
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
เป็นหน่วยงานที่ให้บริการการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ตั้งอยู่ภายในบริเวณกระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 202-3493-4 และ 246-4088
โดยยื่นคำขอรับการรับรองตามแบบที่กำหนด
พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบด้วย
1.
คู่มือระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย 2.
ข้อมูลทั่วไปของผู้ยื่นคำขอ(เป็นเอกสารแนบประกอบในแบบคำขอฯ) 3.
เอกสารและหลักฐานประกอบคำขอ ประกอบด้วย
*
แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ *
แผนที่แสดงที่ตั้งสถานที่ประกอบกิจการที่ขอรับการรับรอง
(กรณีที่แตกต่างจากข้อ 1) * สำเนาทะเบียนการค้า
สำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่มีอายุไม่เกิน 6
เดือน *
สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอหรือผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล *
ใบอนุญาตประกอบกิจการ *
อื่น
ให้การรับรองอย่างไร ขั้นตอนการขอรับการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ยื่นคำขอรับการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัย
และความปลอดภัย พร้อมทั้งเอกสาร
- เอกสารคู่มือคุณภาพ
และที่เกี่ยวข้อง - ข้อมูลทั่วไปของผู้ยื่นคำขอ - สมอ.
ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อรวบ
รวมข้อมูลความพร้อมขององค์กรและรายละเอียดอื่นๆเพื่อกำหนดแผนการตรวจประเมิน 1.
สมอ.
จะตรวจประเมินเอกสารแล้วจัดทำรายงานการตรวจประเมินแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบ
พร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินและกำหนดการตรวจประเมิน
2.
สมอ. จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินไปตรวจประเมิน ณ
สถานประกอบการแล้วจัดทำรายงานการตรวจประเมินแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบ สรุปรายงานผลการตรวจประเมินเสนอคณะกรรมการฯ
พิจารณาให้การรับรอง
-
จัดพิมพ์ใบรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัย
และความปลอดภัยแล้วนำเสนอประธานกรรมการลงนามในใบรับรอง
-
ตรวจประเมินเพื่อการติดตามผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
-
ตรวจประเมินใหม่ทั้งระบบ
ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ
ดังนี้ 1. ค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอ 1,000 บาท 2.
ค่าธรรมเนียมในการตรวจประเมิน 5,000 บาท/วัน
(เศษของวันที่เกินครึ่งวันให้นับเป็น 1 วัน) 3.
ค่าธรรมเนียมใบรับรอง 10,000 บาท/ฉบับ
ข้อมูล :
สำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรม ทีมงานความปลอดภัยรวบรวม
|