รถไฟทางคู่

     หลายคนสงสัยว่าทางคู่คืออะไร และสำคัญอย่างไรกับการให้บริการของรถไฟ ก็ขอให้ภาพคร่าวๆก่อนว่าทุกวันนี้ทางรถไฟในปัจจุบันทางรถไฟที่มีอยู่เป็นทางเดี่ยวเสียส่วนมาก อุปมาเหมือนถนนเลนเดียว ที่ตอนนี้หาดูได้ยากในบ้านเรา เวลารถไฟวิ่งไปก็ต้องแจ้งให้สถานีถัดไปทราบ และหากมีอีกขบวนวิ่งสวนมาก็ต้องหาสถานีให้รถจอดเพื่อหลีกกัน ทำให้เกิดการเสียเวลาของผู้โดยสาร และในการวางตารางเดินรถไฟก็ต้องเผื่อเวลารอหลีกไว้ด้วยเสมอ
     ทางรถไฟทางเดี่ยวในประเทศที่เจริญแล้วหาดูได้ยากมาก เพราะมันคือการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่ยิ่งยวด โดยเฉพาะเวลา เพราะเขาตีเวลา หรือ Time value ไว้สูงทีเดียว ทำนองว่า "เวลาเป็นเงินเป็นทอง" และหากเอาเวลาที่เสียไปทำอย่างอื่นก็คงมีผลผลิตออกมาให้ประเทศชาติ ค่าเสียเวลาในแต่ละประเทศจะแตกต่างกันไปตามระดับรายได้ โดยหลักการแล้ว เวลาตั้งแต่ 30 - 45 นาทีที่เสียไปกับการเดินทางแต่ละเที่ยวจะเป็นที่ยอมรับได้ ถ้าเพิ่มเป็น 45-60 นาทีเริ่มมีค่าเสียเวลาแต่ก็พอทนไหว หากต้องเดินทาง 60 - 90 นาทีขึ้นไปถือว่าเป็นการเสียเวลาอันมหาศาล และหากต้องเดินทางแบบนี้ทุกวันก็จะเริ่มเสียความอดทน
     ทางคู่ก็เหมือนถนน2เลนที่ต่างคนต่างวิ่ง ทางใครทางมัน ....การรอหลีกก็ไม่มีหากมีรถเสียในทางใดทางหนึ่งก็สามารถให้รถไปวิ่งอีกฝั่งหนึ่งแทนก่อนได้ เวลาที่เสียก็น้อยลง ในแต่ละเส้นทางรถจะสามารถวิ่งที่ความเร็วเฉลี่ยได้สูงขึ้น จัดรถวิ่งได้มากขึ้น ค่าเสียเวลาของประเทศชาติและคนเดินทางก็น้อยลง
     ในประเทศที่เจริญแล้วอย่างอังกฤษจะมีมากกว่าทางคู่ อย่างรถสายเหนือวิ่งเข้าลอนดอน มีทางประธานมากกว่าโหลทาง แถมมีสถานีหลัก 4 สถานี เพื่อรองรับการเดินทางแต่ละเส้นทาง ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น ก่อให้เกิดการประหยัดทรัพยากรของประเทศอย่างมหาศาล โดยเฉพาะน้ำมัน เพราะรถไฟใช้พลังงานต่อหน่วย น้อยกว่ารถยนต์ส่วนตัวถึง 5 เท่า รถโดยสาร 1.7 เท่า ถ้าเป็นการขนส่งระหว่างเมืองจะประหยัดกว่ารถยนต์ 2.3 เท่า รถบรรทุก 3.5 เท่า ถ้าเครื่องบินก็ 5 เท่า
     ในความเป็นจริง การขนส่งทั้งคนทั้งสินค้าโดยรถไฟนั้น มีศักยภาพสูงมาก ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติสารพัด เหตุผลในการสร้างทางคู่ ก็มาจากการที่ภาครัฐตระหนักถึงความสามารถในการช่วยชาติของรถไฟนั่นเอง อีกทั้งการทำทางคู่ก็สามารถทำได้ในเขตทางรถไฟที่มีอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเวนคืนที่เพิ่ม ไม่เดือดร้อนชาวบ้านและไม่กระทบสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ต้องตัดต้นไม้ ทุบตึกชุมชนเพิ่ม ฯลฯ
     สังคมเราพัฒนาการขนส่งทางถนนมามาก จนเกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากปัญหารจราจร มาวันนี้เราได้เห็นมิติใหม่ ของการพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบขนส่งที่มีประสิทธภาพในการใช้พลังงานและทรัพยากรของประเทศเป็นหลัก อาจจะมาล่าช้าไปนิด แต่ก็ยังไม่สายเกินไป "รถไฟทางคู่" ในวันนี้และอนาคตอันใกล้จึงเป็นทางเลือกที่ยากจะปฏิเสธ เพราะค่าโดยสารที่ถูกกว่า และสามารถให้ความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยกว่าการเดินทางบนท้องถนน รวมทั้งยังมีส่วนช่วยลดการนำพลังงานจากต่างชาติเพื่อการขนส่ง ซึ่งหมายถึงเม็ดเงินทีไหลออกต่างประเทศจำนวนมหาศาลต่อปี เพราะฉะนั้นหากทุกคนให้การสนับสนุนและหันมาใช้ "รถไฟทางคู่" กันมากขึ้น ก็เท่ากับคุณมีส่วนช่วยอนาคตของชาติได้เช่นกัน

ที่มา : การรถไฟแห่งประเทศไทย www.thailandrailway.com