| | คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง มีชื่อเดิมว่า เบเนดิกโต ชุนกิม กฤษบำรุง เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ค.ศ.1895 ได้รับศีลล้างบาปวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1895 ตามเอกสารทะเบียนศีลล้างบาปเลขที่ 1645 โดยคุณพ่อเรอเน แปร์รอส (ผู้ซึ่งต่อมาเป็นพระสังฆราช ปกครองมิสซังสยาม-กรุงเทพฯ ระหว่างปี ค.ศ. 1909-1947) ได้รับศาสนนามว่า"เบเนดิกโต" ที่วัดนักบุญเปโตร (นครชัยศรี) สามพราน นครปฐม เป็นบุตรคนแรกใน จำนวน 5 คน ของยอแซฟ โปชัง และอักแนส เที่ยง กฤษบำรุง ซึ่งบิดามารดารับศีลแต่งงานเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ.1893 ตามเอกสารทะเบียนศีลแต่งงานเลขที่ 186 โดยคุณพ่อจืลส์ กียู เป็นคุณพ่อเจ้าอาวาส วัดนักบุญเปโตร สามพราน นครปฐม |
- ชีวิตในวัยเด็ก ท่านเรียนในโรงเรียนประชาบาลของวัดนักบุญเปโตร กระแสเรียกเป็นเครื่องหมายว่าท่านมีความผูกพันอยู่กับวัดมากพอสมควร คุณพ่อยอแซฟแฟร์เลย์ ซึ่งเป็นคุณพ่อเจ้าอาวาสในเวลานั้น ได้ส่งท่านเข้าบ้านเณรเล็กพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า บางช้าง (บางนกแขวก) ในปี ค.ศ. 1908 ความสัมพันธ์ที่มีต่อวัด เห็นได้จากพินัยกรรมของบิดาของท่านซึ่งทำขึ้น โดยมีพระสังฆราชเรอเน แปร์รอส เป็นพยาน นอกจากนี้ ยังเห็นได้จากจดหมายของคุณพ่อเจ้าอาวาสวัดนักบุญเปโตรอีกองค์หนึ่ง คือคุณพ่อเอวเยน เล็ตแชร์ เขียนรายงานถึงพระสังฆราชแปร์รอส เกี่ยวกับชีวิตของโปชังที่วัดนักบุญเปโตร ซึ่งมีอยู่หลายฉบับ
- หลักสูตรการเรียนเพื่อบวชเป็นพระสงฆ์ในสมัยนั้น คุณพ่อนิโคลาสได้เรียนอยู่ในบ้านเณร บางช้าง เป็นเวลา 8 ปี และทำหน้าที่ครูสอนศาสนาเป็นเวลา 4 ปี หลังจากนั้นจึงถูกส่งไปเรียน ที่บ้านเณรใหญ่ที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลาทั้งสิ้นอีก 6 ปี และได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ.1926 ณ วัดอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ รวมเวลาที่เรียนในบ้านเณรจนกระทั่งบวช 18 ปี
- ในระหว่าง 6 ปี ที่คุณพ่อนิโคลาสอยู่ที่บ้านเณรใหญ่ที่ปีนังนั้นเป็นหน้าที่ของ คุณพ่ออธิการบ้านเณรจะต้องเขียนรายงานผลการเรียน ความประพฤติของสามเณร ให้แก่พระสังฆราชของสามเณรเหล่านั้นได้ทราบเป็นประจำทุกปี จากรายงานต่างๆ เหล่านี้ พบรายงานระหว่างปี ค.ศ. 1920-1924 ทั้งจากจดหมายเหตุของบ้านเณรใหญ่ที่ปีนัง และจากจดหมายที่พบในหอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จากรายงานเหล่านี้ ทราบว่าคุณพ่อนิโคลาสเป็นผู้มีความประพฤติดี การเรียนอยู่ในขั้นดีพอใช้ สุขภาพดี มีความขยันหมั่นเพียรเป็นที่น่าพอใจมาก อุปนิสัยโดยทั่วไป ดี แต่มีนิสัยค่อนข้างอวดดี, หงุดหงิดง่าย, อารมณ์อ่อนไหว, และหัวดื้อ
คุณพ่ออธิการบ้านเณรใหญ่ที่ปีนังเวลานั้นคือ คุณพ่อยืสแตง ปาแยส (เป็นอธิการระหว่างปี ค.ศ. 1917-1931) ได้เขียนจดหมายถึงพระสังฆราชแปร์รอสว่า
- "ชุนกิมทำให้ข้าพเจ้าไม่พอใจมาก ความประพฤติภายนอกของเขาดีมาก แต่เขาเป็นคนอวดดี และ ข้าพเจ้าเชื่อว่าเขาไม่มีการตัดสินที่ถูกต้อง วันหนึ่งด้วยความใจร้อน ข้าพเจ้าเกรี้ยวกราดเขาด้วย ความฉุนเฉียว และบอกให้เขารู้ถึงข้อบกพร่อง 4 อย่างของเขา ข้าพเจ้ายังเสริมอีกว่า ถ้าเขาไม่เปลี่ยนแปลงนิสัย เขาจะไปไม่ถึงศักดิ์สงฆ์เลย เขาสัญญากับข้าพเจ้าว่าจะปรับปรุงตัวเอง และขอร้องให้ข้าพเจ้าคอยตักเตือน ข้าพเจ้าหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง"
และในปีต่อมา คุณพ่อปาแยสได้เขียนรายงานความก้าวหน้ามาว่าดังนี้
- "ชุนกิมทำได้ดี ยังคงค่อนข้างหัวดื้ออยู่บ้าง เขามีเจตนาดี ไม่ถือตามความพอใจของตน และ ยังทำตามคำแนะนำที่เราให้เขา"
ที่สุด ในรายงานปี ค.ศ. 1925 คุณพ่อปาแยสได้ชมสามเณรชุนกิมว่า ได้ปรับปรุงตัวดีขึ้นเป็นคนมี น้ำใจ มีความศรัทธา เอาจริงเอาจังในการทำงานโดยไม่ย้อท้อ และรู้จักทำตนให้เป็นที่พอใจ ในจดหมาย ลงวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1925
- "ชุนกิมปรับปรุงตัวดีขึ้น เขาเป็นคนศรัทธา เอาจริงเอาจัง และไม่กลัวการทำงาน เป็นคน ค่อนข้างมักน้อย"
จากรายงานที่น่าสนใจเหล่านี้ ทำให้เราเรียนรู้ได้ว่า คุณพ่อนิโคลาสมีนิสัยเป็นตัวของตัวเอง และยังมีข้อบกพร่องตามประสามนุษย์ แต่เมื่อท่านตระหนักถึงหน้าที่สงฆ์ในอนาคต ก็สามารถละทิ้งน้ำใจตนเอง ปรับปรุงตัวจนเป็นที่พอใจของการอบรมให้เป็นพระสงฆ์ได้ และจากบุคลิกของท่านดังกล่าว ก็ยังนำประโยชน์ในการทำงานแพร่ธรรมของท่านในเวลาต่อมาอย่างมาก
- ชีวิตการฝึกฝนตนเองที่บ้านเณรใหญ่ที่ปีนังนี้ ได้รับการเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ของบ้านเณรเป็นอย่างดี จาก รายงานการประชุมของคณะที่ปรึกษา บ้านเณรใหญ่ที่ปีนัง คณะผู้ใหญ่ได้พิจารณาอนุมัติเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1923 ให้ เบเนดิกโต ชุนกิม กฤษบำรุง และเพื่อนสามเณรไทยอีก 4 คน คือ เปาโล กลิ่น ผลสุวรรณ, เปโตร กิ๊น มิลลุกูล, เปโตร ถัง ลำเจริญพร และอเล็กซานเดอร์ ปลาด วิเศษรัตน์ รับศีลน้อยขั้นศีลโกน เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1923 โดยพระสังฆราชเมอแรล
และในปีต่อมา สามเณรทั้ง 5 คนนี้ ก็ได้รับอนุมัติให้รับศีลน้อย 4 ศีล คือ ผู้เปิดประตูวัด, ผู้อ่านพระคัมภีร์, ผู้ขับไล่ผีปีศาจ และผู้ถือเทียน
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1924 พิธีดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1924 โดยพระสังฆราช เมอแรลเช่นเดียวกัน
- วันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1925 สามเณรทั้ง 5 คน ก็ได้รับศีลบวชขั้นอุปานุสงฆ์ และวันที่ 24 กันยายน ค.ศ.1925 ได้รับศีลบวชขั้นอนุสงฆ์ หรือสังฆานุกร
นอกจากนี้ จากบันทึกรายงานการประชุมเดียวกัน เรายังทราบด้วยว่าสังฆานุกรทั้ง 5 คนนี้ ได้เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ โดยออกเดินทางจากปีนังเมื่อวันที่ 11 มกราคม ค.ศ.1926 และ สังฆานุกรทั้ง 5 คน ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ.1926 ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ โดยพระสังฆราชแปร์รอส
หลังจากคุณพ่อได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1926 แล้ว ได้รับมอบหมาย ให้ปฎิบัติหน้าที่สงฆ์ ในหลายท้องที่
เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่วัดบางนกแขวก ระหว่าง ค.ศ. 1926 - 1928 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่วัดพิษณุโลกระหว่าง ค.ศ. 1928-1930 ร่วมบุกเบิกงานแพร่ธรรม ที่ลำปาง และเชียงใหม่ ระหว่าง ค.ศ. 1930-1936 เป็นผู้ดูแลวัดบางเชือกหนังเป็นเวลา 3 เดือน ในปี ค.ศ. 1933 เป็นเจ้าอาวาสวัดแม่พระเมืองลูร์ดโคราช ระหว่าง ค.ศ. 1937- 1938 เป็นเจ้าอาวาสวัดนักบุญเทเรซาโนนแก้ว ตั้งแต่ ค.ศ. 1938
- ในระหว่างที่คุณพ่อเป็นเจ้าอาวาสวัดโนนแก้ว เริ่มมีเหตุการณ์เบียดเบียนศาสนาคริสต์ จนถึงขั้นที่มีการจับกุม คุณพ่อและคริสตชนอีก 9 คน ในปี ค.ศ.1941 ขณะไปหาเพื่อนพระสงฆ์ ที่วัดนักบุญยอแซฟบ้านหัน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา คุณพ่อถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ด้วยข้อหาแนวที่ห้า
- หลังจากต้องจำคุก 3 ปี ท่านป่วยเป็นวัณโรคนาน 9 เดือน ท่านได้สอนคำสอน และโปรดศีลล้างบาปให้คนใกล้ตาย 66 คน และสิ้นใจวันที่ 12 มกราคม ค.ศ.1944 อายุ 49 ปี ศพถูกนำไปฝังไว้ที่วัดบางแพรซึ่งอยู่ใกล้กับเรือนจำ พระสังฆรารชแปร์รอสได้ขอนำศพของท่านมาฝังที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ
คุณพ่อนิโคลาสเป็นพระสงฆ์ที่เอาใจใส่งานอภิบาล มีใจเมตตาต่อคนยากจนและมีความกระตือรือร้นในงานธรรมฑูต
- พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้เสนอกรณีของคุณพ่อ ให้สมณกระทรวงว่าด้วยเรื่องนักบุญพิจารณา สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2
ได้ประกาศรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2000 และมีพิธีแต่งตั้งเป็นบุญราศีในวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2000 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม