พระคาร์ดินัลที่ได้รับเลือกตั้ง ให้เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ คือ

พระคาร์ดินัล ชาร์ล โวยติลา ชาวโปแลนด์ ซึ่งในขณะนั้นทรงมีอายุเพียง 58 พรรษา เป็นพระสันตะปาปาที่มีอายุน้อยที่สุด ในรอบศตวรรษที่ผ่านมา และทรงเป็นองค์แรกในรอบ 455 ปี ที่ไม่ใช่ชาวอิตาเลียน ทรงเลือกพระนามว่า พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เช่นเดียวกับพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 1 ซึ่งสวรรคตไป

• พระสันตะปาปา ทรงสมภพเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1920 (2463) ที่เมืองโวดิวิช ประเทศโปแลนด์
• ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อ 1 พฤศจิกายน 1946 เข้ารับการศึกษา ที่วิทยาลัยสงฆ์ที่กรุงโรม ได้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางปรัชญา และได้เดินทางกลับไปโปแลนด์ และทรงทำงานให้พระศาสนจักร ในอัครสังฆมณฆลกราโคว์ และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางศาสนศาสตร์
• ระหว่างปี 1950 (2493) ทรงเป็นอาจารย์สอนวิชาศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยกราโคว์และลูบลิน
• ปี 1960 พระองค์ได้รับแต่งตั้ง จากสมเด็จพระสันตะปาปา ปอล ที่ 6 ให้เป็นพระคาร์ดินัล ซึ่งในขณะนั้นทรงมีอายุเพียง 47 พรรษาเท่านั้น
• พระองค์เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์อันดี ในการดำเนินการกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ในประเทศโปแลนด์ บ้านเกิด ทรงเป็นนักนิรุกติศาสตร์ (นิรุกติศาสตร์ : วิชาที่ว่าด้วยที่มาและความหมายของคำ) ทรงสามารถ พูดภาษาอิตาเลียน ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ได้อย่างคล่องแคล่ว
• ในระหว่างที่ทรงปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ พระองค์ได้เดินทางไปในหลายๆ ประเทศทั่วโลก และได้เคยเสด็จเยือนประเทศไทย เมื่อวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2527 จากนั้นยังได้เสด็จในอีกหลายๆ ประเทศ

อุปนิสัยของพระองค์ท่านนั้น ทำให้ความประทับใจเกิดขึ้นกับเรา อย่างที่ปฏิเสธมิได้ แม้นแต่ผู้ที่ยังไม่เคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้าหรือสัมผัสกับพระองค์อย่าง ใกล้ชิดด้วยตัวเอง ก็เช่นกัน ล้วนต่างซึมซับ และรับรู้ได้กันถ้วนทั่วว่า พระองค์ทรงคงความน่าเคารพรัก ทรงถ่อมองค์อย่างน่าซาบซึ้งที่สุด ดังจะเห็นได้จาก การจุมพิตแผ่นดิน ในก้าวแรกของการเสด็จเยือนสู่ประเทศนั้น และสิ่งเหล่านี้ ยังคงปรากฏอยู่ในพระดำรัสแรก เมื่อครั้งที่ทรงปรากฏพระองค์ บนระเบียงหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่ออวยพรแด่สากลโลกและกรุงโรม เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ทรงรับเลือก

คำปราศรัย สั้น ๆ ที่พระองค์ตรัสเป็นภาษาอิตาเลียน ต่อมหาชนกว่า 200,000 คน ที่มาชุมนุมกัน อยู่ในลานหน้าพระมหาวิหาร มีใจความว่า. . .

" ขอพระเยซูคริสตเจ้า ทรงได้รับการสรรเสริญสดุดี พี่น้องชายหญิงที่รักยิ่ง เราทุกคนยังเศร้าโศกอาลัย ในการจากไปของพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 1 ที่รักยิ่งของชาวเรา. . . ณ บัดนี้ คณะพระคาร์ดินัล ได้เลือกพระสันตะปาปาแห่งโรมองค์ใหม่ และเลือกจากผู้ที่มาจากประเทศแดนไกล ถึงแม้จะห่างไกล แต่ก็ใกล้กันมาก ในความเชื่อและจารีตประเพณีเสมอ ข้าพเจ้ากลัวที่จะได้รับการแต่งตั้งนี้ แต่ข้าพเจ้าต้องรับ เพราะความนบนอบเพื่อพระเยซูเจ้า พระเจ้าของเรา และด้วยความไว้ใจอย่างเต็มเปี่ยม ต่อพระมารดาของพระองค์ ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วย

ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่า ข้าพเจ้าได้อธิบายถึงตัวเองแจ่มแจ้งหรือไม่ ด้วยภาษาอิตาเลียน ถ้าข้าพเจ้าพูดผิด ขอช่วยแก้ให้ด้วย ข้าพเจ้าขอมอบข้าพเจ้าต่อท่านทั้งหลาย เพื่อแสดงถึงความเชื่อ ความหวังร่วมกัน และความวางใจในพระมารดาของพระเยซูเจ้า และของพระศาสนจักร และเริ่มกันใหม่ บนวิถีของประวัติศาสตร์ และของพระศาสนจักร ด้วยความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้าและของมนุษย์"

พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 พระองค์ได้รับเลือกเป็น พระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1978 เป็นพระสันตะปาปาที่มีสมณะสมัยอันยาวนานเป็นอันดับที่ 7 ในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร ก่อนสิ้นปี 1999 พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาครบ 21 ปี กับ 2 เดือนพอดี

พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 เป็นชาวโปแลนด์ และเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในรอบ 400 กว่าปี ที่มิได้เป็นชาวอิตาเลียน เพราะที่ผ่าน ๆ มาแล้ว พระสันตะปาปา จะเป็นชาวอิตาเลียนเป็นส่วนใหญ่ พระนามเดิมของพระองค์คือ คาร์ล โวยติลา พระสันตะปาปา เคยถูกลอบสังหารขณะที่ทรงอยู่ในขบวนแห่ในกรุงโรม แต่พระองค์ทรงรอดได้ราวปาฏิหาริย์เพราะว่ากระสุน ที่ยิงพระองค์ไปฝังที่บนมงกุฏของพระรูปของพระแม่ฟาติมา จึงเป็นนิมิตที่แสดงว่า พระแม่ทรงคุ้มครองพระสันตะปาปาให้รอดพ้น จากภัยในครั้งนี้ได้ คนร้ายถูกจับได้ แต่พระองค์ยังทรงให้อภัยเขาและเสด็จเยี่ยมถึงในเรือนจำอีกด้วย

• อันดับที่ 1. พระสันตะปาปาปิโอที่ 19 (1846-78) ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 31 ปี 7 เดือนกับ 3 อาทิตย์
• อันดับที่ 2 พระสันตะปาปาเลโอที่ 13 (1878-1903) ผู้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 25 ปี กับ 5 เดือน
• อันดับที่ 3 พระสันตะปาปาปิโอที่ 6 (1775-99) ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 24 ปี 6 เดือนกับ 1 อาทิตย์
• อันดับที่ 4 พระสันตะปาปาเฮเดรียน (772-795) ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 23 ปี 10 เดือนกับ 2 อาทิตย์กว่า
• อันดับที่ 5 พระสันตะปาปาปิโอที่ 7 (1800-23) ดำรงตำแหน่งพระสังฆราชประจำกรุงโรมเป็นเวลา 23 ปี 4 เดือนกับ 2 อาทิตย์กว่า
• อันดับที่ 6 พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (1159-81) ดำรงตำแหน่งพระสังฆราชประจำกรุงโรมเป็นเวลา 21 ปี 11 เดือนกับ 13 วัน
• อันดับที่ 7 พระสันตะปาปาเคลมเม้นต์ที่ 11 (1700-21),รับใช้พระศาสนจักรเป็นเวลา 21 ปี
• อันดับที่ 8 พระสันตปาปาซิลเวสเตอร์ (314-35), รับใช้พระศาสนจักรเป็นเวลา 21 ปี
• อันดับที่ 9 พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 (1623-44) รับใช้พระศาสนจักรเป็นเวลา 21 ปี
• อันดับที่ 10 พระสันตะปาปาเลโอ เดอะเกรท (440-61)รับใช้พระศาสนจักรเป็นเวลา 21 ปี
• อันดับที่ 11 พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 รับใช้พระศาสนจักรเป็นเวลา 19 ปี 7 เดือนกับ 1 อาทิตย์
• อันดับที่ 12 พระสันตะปาปาเลโอที่ 3 (795-816), รับใช้พระศาสนจักรเป็นเวลา 19 ปี

ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้เลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆจากอันดับที่ 12 ในรายชื่อพระสันตะปาปาที่มีสมณะสมัยอันยาวนาน มาเป็นอันดับที่ 3 (เมื่อเร็วๆนี้)

หนังสือรายชื่อพระสันตะปาปาของนครวาติกัน Annuario Pontificio เริ่มสมณะสมัยของพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เร็วไปสิบสามวัน ในสมัยก่อนโน้นถึงแม้คนที่ได้รับเลือกตั้งยังไม่ได้เป็นพระสังฆราชก็ตาม สมณะสมัยเริ่มจากวันที่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพระสันตะปาปาเป็นพระสันตะปาปา เมื่อพระองค์เป็นพระสังฆราชประจำกรุงโรม แต่ตามความคิดเห็นของนักเทวศาสตร์ สมณะสมัยจะไม่เริ่มจนกว่าพระองค์ได้รับศีลบวชเป็นพระสังฆราชแล้ว

ปัจจบัน กฎพระศาสนจักรได้ปรับให้สอดคล้องกับเทวศาสตร์ ถ้าคนที่ยังไม่ได้เป็นพระสังฆราชได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาจะต้องได้รับศีลบวชเป็น พระสังฆราชทันที ในปี 1831 คนล่าสุดที่ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาแต่ยังไม่ได้เป็นพระสังฆราชคือ พระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 16 นักพรตคณะคามัล โดล

มีเรื่องราวที่น่าสนใจก็คือ ถึงแม้พระองค์ยังไม่ได้เป็นพระสังฆราช (พระองค์ได้ปฏิเสธการเลือกตั้งสองครั้ง) เผยแพร่ความเชื่อ ในปี 1829 พระองค์ได้เป็นคู่แข่ง ในตำแหน่งพระสันตะปาปาและได้รับคะแนนทั้งหมด 21 เสียง

อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ที่มีสิทธิในการรับเลือกไม่จำเป็นต้องเป็นพระคาร์ดินัล พระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเข้าเลือกพระสันตะปาปาต้องมีอายุต่ำกว่า 80 ปี

ในปี 1378 องค์ล่าสุดที่ไม่ได้เป็นพระคาร์ดินัลคือพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 6 แต่เป็นการเลือกที่เคราะห์ร้ายที่สุด เพราะบุคลิกและนิสัยของ พระองค์เหมือนเชื้อไฟ ที่ก่อให้เกิดการแตกแยกของพระศาสนจักรภาคตะวันตกจนถึงปี 1417 ในสมัยนั้นเองมีการต่อต้านและอุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาเป็น พระสันตะปาปา ถึงสององค์ และหลังจากปี 1409 กลับมีรายชื่อพระสันตะปาปาที่มีสมณะสมัยอันยาวนานถึงสามองค์

สมณะสมัยอันยาวนานอันดับที่ 2 คือพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 (1878-1903) ผู้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 25 ปีกับ 5 เดือน พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 จะต้องดำรงตำแหน่งอีก 4 ปีกับ 3 เดือนปกครองพระศาสนจักรจนถึง เดือนมีนาคม 2004 ห่างจากวันประสูติของพระองค์แค่ 2 เดือน

ปัจจุบัน แม้ว่าคนเป็นจำนวนมากมีอายุถึง 84 ปีหรือมากกว่านี้ แต่พระพลานามัย ของพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน ก็ไม่สู้แข็งแรงนัก พระองค์ล้มป่วยด้วยโรคทางสมองซึ่งมีผลต่อความจำมาหลายปีแล้ว รวมทั้งพระวรกายของ พระองค์ทรุดโทรมลง จากการถูกลอบสังหาร และการลื่นหกล้มในห้องพัก

หากสมณะสมัยของพระองค์ยาวนานจนเลื่อนขึ้นไปจนถึงอันดับที่ 1 ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องโมทนาพระคุณพระเจ้าทีเดียว พระสันตะปาปาปิโอที่ 19 (1846-78) ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 31 ปี 7 เดือนกับ 3 อาทิตย์ พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 จะต้องดำรงตำแหน่งอีก 10 ปี 5 เดือนกับ 3 อาทิตย์ กว่าสมณสมัยของพระองค์จะยาวนานกว่า พระสันตะปาปาปิโอที่ 19 ในเวลานั้นพระองค์จะมีพระชนม์อายุถึง 90 พรรษา

ไม่ใครสามารถหยั่งรู้น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าได้ แต่ด้วยทัศนคติของสามัญชน ดูเหมือนจะยากอย่างยิ่งที่จะทำลายสถิติของพระสันตะปาปาปิโอที่ 19 หรืออาจจะไม่มีการทำลายสถิตินี้เลย ถ้าในอนาคตมีการกำหนดระยะเวลาที่พระสันตะปาปาสามารถดำรงตำแหน่งได้

อย่างไรก็ตาม บรรดาคาทอลิกทุกคนคงเฝ้าภาวนาเพื่อองค์สมเด็จพระสันตะปาปาของเรา จะดำรงสมณสมัยของพระองค์ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อนำพาพระศาสนจักรเข้าสู่ศตวรรษใหม่ด้วยความรักและสันติสุข สมดังพระปณิธานของพระองค์