พระกังขาเรวตะเถระ
ท่านพระกังขาเรวตะ
เกิดในตระกูลอันบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นอันมากในพระนครสาวัตถี
เดิมชื่อว่า เรวตะ เป็นคนมีศรัทธา วันหนึ่งในเวลาหลังภัตตาหาร มหาชนชวนกันไปสู่พระเชตวันมหาวิหาร
เพื่อจะฟังพระธรรมเทศนา เรวตุนั้นก็ได้ไปกับมหาชน
ครั้นถึงแล้วได้นั่งอยู่ท้ายสุดของบริษัท
พระบรมศาสดาตรัสเทศนาอนุปุพพิกถา พรรณนาถึงทานการให้เป็นต้น ในเวลาจบเทศนา
เรวตะบังเกิดความเลื่อมใส มีความปรารถนา
จะบวชในพระธรรมวินัย ครั้นได้อุปสมบทเป็นภิกษุสมความประสงค์แล้ว ก็อุตส่าห์เรียนพระกรรมฐาน
ในสำนักของพระบรมศาสดาเป็นผู้ไม่ประมาท บำเพ็ญเพียรในกรรมฐานจนได้สำเร็จโลกิยฌาน
กระทำฌานที่ตนได้แล้วนั้นให้เป็นบาทเจริญวิปัสสนากรรมฐานสืบไปกระทั่งได้สำเร็จ
พระอรหัตตผลในที่สุด
ท่านพระเรวตะนั้น มักบังเกิดความสงสัยในกัปปิยวัตถุ
คือ สิ่งของที่ถูกต้องตามพระพุทธบัญญัติ เป็นของควรแก่บรรพชิตพึงบริโภคใช้สอยอยู่เนือง
ๆ เมื่อท่านได้กัปปิวัตถุอันใดมาแล้ว ก็ให้คิดสงสัยอยู่ต่อเมื่อพิจารณาเห็นว่าเป็นของควรแก่บรรพชิตโดยถ่องแท้แล้วจึงบริโภคใช้สอย
กัปปิยวัตถุนั้น ด้วยเหตุนี้คำว่า กังขา ซึ่งแปลว่า ความสงสัย จึงได้นำหน้าชื่อของท่านเป็น
กังขาเรวตะ พระกังขาเรวตะนี้เป็นผู้ชำนาญในฌานสมาบัติอันเป็นโลกิยะ และโลกุตตระ
ท่านเข้าสู่ฌานสมาบัติ อันเป็นพุทธวิสัยได้เกือบทั้งหมด ฌานสมาบัติอันเป็นพุทธวิสัยที่ท่านละเว้นเข้าไม่ได้มีน้อยยิ่งนัก
ท่านพระกังขาเรวตเถระ ได้รับยกย่องสรรเสริญจากพระบรมศาสดา ว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย
ผู้ยินดีในฌานสมาบัติ เมื่อท่านดำรงอายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน
|