( CIRCLE OF DEMOCRACY )
1 เมษายน 2476 พระยามโนปกรณ์นิติธาดา เสนอให้ออกพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาฯ อันเนื่องจากความ
คิดเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับเค้าโครงเศรษฐกิจของนายปรีดี พนมยงค์ และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราเป็นการชั่วคราว
20 มิถุนายน 2476 พล อ.พระยาพหลพลพยุหเสนาผู้นำก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา
11 ตุลาคม 2476 พล อ.พระองค์เจ้าบวรเดชผู้นำในการ ยึดอำนาจรัฐบาลพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาแต่ไม่สำเร็จ
1 มีนาคม 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ สละราชสมบัติ เพราะไม่ทรงสามารถรับแนวทางการบริหารประเทศของคณะราษฎร
1 สิงหาคม 2478 นายทหารในกองทัพระดับชั้นประทวนกลุ่มหนึ่งวางแผนก่อความไม่สงบเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมจากผู้นำในกองทัพ
24 กรกฎาคม 2487 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ลาออก เพราะร่าง พ.ร.บ.สำคัญ 2 ฉบับ ไม่ผ่านความเห็นชอบของ
สภาผู้แทนราษฎร
8 พฤศจิกายน 2490 พลโทผิน ชุณหะวัณ เป็นผู้นำในการ ยึดอำนาจจากพลตรีหลวงธำรงค์นาวาสวัสดิ์
8 เมษายน 2491 คณะนายทหารกระทำการยึดอำนาจรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ เพื่อเปิดทางให้จอมพล ป.พิบูลสงครามขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
26 กุมภาพันธ์ 2492 คณะบุคคลกลุ่มหนึ่งซื่งใช้พระบรมมหาราชวังเป็นศูนย์บัญชาการในการล้มล้างรัฐบาล
จอมพล ป.พิบูลสงครามแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
29 มิถุนายน 2494 นายทหารเรือกลุ่มหนึ่งจับกุมตัวจอมพล ป.พิบูลสงคราม บนเรือขุด แมนฮัตตัน เพื่อบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ไม่สำเร็จ
29 พฤศจิกายน 2494 พลโทผิน ชุณหะวัณ กระทำการรัฐประหารล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2492 แต่ยังคงให้จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป
10 พฤศจิกายน 2495 รัฐบาลได้ทำการจับกุมนายกุหลาบ สายประดิษฐ์ กับพวกข้อหากบฏ เพราะกล่าวโจมตีรัฐบาลที่
ทอดทิ้งราษฎรในภาคอีสาน ที่ได้ประสบความทุกข์ยากเนื่องจากความแห้งแล้งอย่างหนัก
26 กุมภาพันธ์ 2500 มีการเลือกตั้งทั่วไป ที่ใช้วิธีการทุจริตหลายรูปแบบจนทำให้พรรคเสรีมนังคศิลา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น
16 กันยายน 2500 จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจการบริหาร ทำให้จอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องถึงกับออกนอกประเทศ
15 ธันวาคม 2500 มีการเลือกตั้งทั่วไปที่ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยโดยการกำกับดูแลของรัฐบาล นายพจน์ สารสิน
20 ตุลาคม 2501 จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจการบริหารประเทศหลังจากที่ พลโทถนอม กิตติขจร กราบถวายบังคับลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
28 มกราคม 2502 ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินชั่วคราว ซึ่งมาตรา 17 ให้อำนาจอย่างสมบูรณ์แก่ นายกฯ
20 มิถุนายน 2511 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2511 ซึ่งเป็นฉบับที่ใช้เวลาร่างยาวนานที่สุด
10 กุมภาพันธ์ 2512 มีการเลือกตั้งทั่วไปหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2511 ซึ่งพรรคสหประชาไทยของรัฐบาลได้คะแนนมากที่สุด
17 พฤศจิกายน 2514 จอมพลถนอม กิตติขจร ประกาศล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2511
15 ธันวาคม 2515 มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2515 ซึ่งส่งผลให้มีการแต่งตั้งคณะ
รัฐมนตรีขึ้นบริหารประเทศแทนคณะปฏิวัติ
14 ตุลาคม 2516 การแสดงพลังของนักศึกษา และประชาชนเพื่อขับไล่อำนาจเผด็จการทหารอันมีผลให้ผู้นำรัฐบาลและ
ครอบครัวเดินทางออกนอกประเทศ
7 ตุลาคม 2517 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2517 ซึ่งกันถือว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด
12 มกราคม 2519 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ประกาศว่า ไม่อาจบริหารประเทศในฐานะหัวหน้ารัฐบาลผสมต่อไปได้ จึงให้มีการยุบสาภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง
4 เมษายน 2519 มีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งพรรคประชาธิปัติย์ได้รับเลือตั้งมากที่สุดจึงเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
6 ตุลาคม 2519 พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ ประกาศยึดอำนาจรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ภายหลังเหตุการณ์ประท้วงการเดินทางกลับของจอมพลถนอม กิตติขจร
21 ตุลาคม 2519 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2519 ซึ่งมาตรา 21 ให้อำนาจอย่างสมบูรณ์แก่
นายกรัฐมนตรี
25 มีนาคม 2520 พลเอกฉลาด หิรัญศิริ เป็นผู้นำก่อการล้มล้างรัฐบาลแต่ไม่สำเร็จ และถูกดำเนินคดีจนต้องได้รับโทษ
ประหารชีวิต
20 ตุลาคม 2520 พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ยึดอำนาจการบริหารประเทศ จากนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ซึ่งมีผลทำให้
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
16 กันยายน 2521 ประกาศใช้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดี 6 ตุลาคม 2519
22 ธันวาคม 2521 ประกาศใชํ้ธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2521
3 มีนาคม 2523 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผบ.ทบ.เป็นนายกรัฐมนตรี
1 เมษายน 2524 พลเอกสัณท์ จิตรปฏิมา รองผู้บัญชาการทหารบกนำคณะนายทหารยึดอำนาจการปกครองภายใต้การนำของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
19 มีนาคม 2526 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาครั้งที่ 1 เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้
วางใจ
9 กันยายน 2528 คณะนายทหารนำโดยพลเอกเสริม ณ นคร และพันเอกมนูญ รูปขจร ได้พยายามยึดอำนาจการบริหารประเทศแต่ไม่สำเร็จ
1 พฤษภาคม 2529 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกฯ ประกาศยุบสภาครั้งที่ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
27 กรกฎาคม 2529 มีการเลือกตั้งทั่วไป พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังเห็นควรให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป
29 เมษายน 2531 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกฯ ประกาศยุบสภาครั้งที่ 3 เพื่อหลึกเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
24 กรกฎาคม 2531 มีการเลือกตั้งทั่วไป พรรคชาติไทยได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
จึงขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง
23 กุมภาพันธ์ 2534 คณะทหารซึ่งมีพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจการบริหารประเทศจากพลเอกชาติชาย
ชุณหะวัณ และเลือกนายอานันท์ ปันยารชุน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
22 มีนาคม 2535 มีการเลือกตั้งทั่วไปตามรัฐธรรมนูญปี 2534 ซึ่งกำกับโดยคณะ รสช. อันเป็นผลให้พรรคการเมือง 5 พรรค ที่ได้คะแนนเสียงข้างมากสนับสนุนให้พลเอกสุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี
16 พฤษภาคม 2535 เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ประชาชนชุมนุมประท้วงการสืบทอดอำนาจของพลเอกสุจินดา คราประยูร
จึงถูกปราบปรามอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ณ บริเวณถนนราชดำเนิน
11 ตุลาคม 2540 ปีที่ 42 ในรัชกาลที่ 9 มีการตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับประชาชน) ขึ้น 336 มาตรา
4 มีนาคม 2543 จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นครั้งแรก จำนวน 200 คน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประจำจังหวัด (กกต.จว.) และใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง
6 มกราคม 2544 จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ส.ส. 2 แบบ ได้แก่ แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และแบบแบ่งเขต 400 คน
โดย คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (กกต.เขต) ทำการแบ่งเขตเลือกตั้งตามจำนวนประชากร
ตั้งแต่ประเทศไทยประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2475 เมื่อ 10 ธันวาคม 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า มีการเลือกตั้ง ส.ส. มาแล้ว 21 ครั้ง มีรัฐประหาร 16 ครั้ง รัฐธรรมนูญไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 16 ฉบับ ฉบับปัจจุบัน คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้บัญญัติให้เปลี่ยนแปลงการเลือกตั้ง ส.ส.จากเดิมคือ หนึ่งเขตเลือกตั้งมีผู้แทนได้ 1-3 คน มาเป็นระบบใหม่ ซึ่งเป็นแบบผสม คือมี 2 แบบ ได้แก่ แบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และกฎหมายกำหนดให้ กกต.เป็นผู้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยรวดเร็ว บริสุทธิ์ ยุติธรรม
เป่าเถ้า ที่จวนมอด วะวับวอด มิวายแสง
จุดเพลิง อันเริงแรง เป็นเปลวลุก ขึ้นโลมลาม
ผูกไผ่ ทีละไผ่ ไปเป็นแพ สะพานข้าม
ผูกข้อ ต่อตาตาม ไปเป็นต้น ตระหง่านตรง
เรียงจุด ทีละจุด เป็นเส้นสุด เป็นทรวดทรง
จดเจต-นาจง จำเรียงรจ นากวี
จับใจ มาใส่ใจ จึงฝากใจ เป็นไมตรี
ความดี ต่อความดี ประดับโลก ให้งดงาม
รอง ปัญสังกา
ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 5
จังหวัดนครพนม