Yahoo!
-
Account Info
-
Help
-
Sign Out
Welcome, nibonge
Yahoo! GeoCities
Home
Home
>
File Manager
>
Advanced HTML Editor
You did not specify a filename.
Filename:
Welcome to your Advanced Editor. You can use this editor to code your own customized HTML. Use the "Preview" button to see how your page will appear on the Web. For HTML tips, visit the
HTML Help
area.
Untitled
การรวบรวม ตรวจสอบ และพิสูจน์ทราบกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (Kumpulan Mujahidin Malaysia : KMM) และความสัมพันธ์กับกลุ่มโจร มูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (Gerakan Mujahidin Islam Patani : GMIP) มีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้.- ๑.๑ ความเป็นมา กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย หรือ KMM (Kumpulan Mujahidin Malaysia) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ ที่เขตปูจง รัฐสลังงอร์ มซ. มีนาย Nik Adli Nik Abdul Aziz อายุ ๓๔ ปี เป็นหัวหน้า นายนิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส (Nik Adli Nik Abdul Aziz) ปัจจุบันครูสอนศาสนาอิสลามที่โรงเรียนดารุลอันนูวาร์ (Darull Anuar) ตั้งอยู่ที่ Pulau Melaka อ.โกตาบารู รัฐกลันตัน มซ. และเป็นบุตรคนที่ ๔ ของนายนิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตัน เคยเข้ารับการฝึกอาวุธร่วมกับขบวนการมูจาฮีดินของประเทศอัฟกานิสถาน และร่วมกับกองกำลังดังกล่าวขับไล่กองกำลังทหารรัสเซีย เมื่อปี ๒๕๓๒ การเคลื่อนไหวของกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย เริ่มเป็นที่สนใจของทางการ มซ. และมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ภายหลังจาก จนท.ตร.ได้ทำการจับกุมกลุ่มคนร้าย จำนวน ๙ คน ที่ก่อเหตุปล้นธนาคาร Southern Bank Berhad (SBB) ที่เปอตาลิง จายา รัฐเซลังงอร์ เมื่อ ๑๘ พ.ค.๔๔ โดย จนท.ระดับสูงฝ่ายความมั่นคงของ มซ. เปิดเผยว่า ผู้ที่ถูกจับกุมเป็นสมาชิกกลุ่มพวกคลั่งและบ้าลัทธิสงคราม จากประเทศอัฟกานิสถาน และหมู่เกาะอัมบอน ของอินโดนีเซีย ที่มีชื่อเรียกว่า กลุ่มจีฮัด (Jihad) ซึ่งการปฏิบัติของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ และเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายระดับชาติ ที่พยายามเผยแพร่ลัทธิ และศาสนาที่คลั่งสงครามในคราบของกลุ่มจีฮัด เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศที่รุนแรงกว่าอาชญากรรมปกติทั่วไป ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก ที่มีชาว มซ. เข้าไปพัวพันกับกลุ่มก่อการร้ายระดับชาติ ที่มีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ และเชื่อว่ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อคดีอาชญากรรม,ฆ่า,พยายามฆ่า และการปล้นที่สำคัญ ในระยะ ๒ ปีที่ผ่านมาหลายคดีด้วย ต่อมา จนท.ตร.ได้ขยายผลและทำการจับกุมบุคคลต้องสงสัยอีกหลายคน ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ซึ่งรวมทั้งนายนิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส บุตรชายของนายนิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตันด้วย อย่างไรก็ตามยังมีพรรคพวกของนายนิกอัดลี ฯ อีกส่วนหนึ่งที่ทางการ มซ. กำลังติดตามจับกุมอยู่ และปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า บุคคลเหล่านี้ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ๑.๒ สมาชิกมูจาฮีดินมาเลเซีย มีกำลังประมาณ ๕๐ คน ที่ทราบชื่อมี ๑.๒.๑ นายนิก อัดลี นิก อับดุล อาซิส หัวหน้า ๑.๒.๒ นายมูฮัมหมัด อิกบัล อาบู จิบริล ๑.๒.๓ นายฮัมบาลี นูรจามาน ริดวน อิซามูดิน ๑.๒.๔ นายเอ็มดีลอตฟิน อารีฟิน ๑.๒.๕ นายโมฮัมเหม็ด โซบรี ๑.๒.๖ นายโมฮัมหมัด ฟูอัด ๑.๒.๗ นายนอราชิด ซาคิบ หน.เยาวชนพรรค PAS อ.กัวจำเปาะ เคดาห์ ๑.๒.๘ นายอะหมัด ทายุคดิน สมาชิกพรรค PAS อ.บาลิ่ง เคดาห์ ๑.๒.๙ นายซาเลฮัน อับดุลยาฟาร์ สมาชิกพรรค PAS อ.บาลิ่ง เคดาห์ ๑.๒.๑๐ นายอาบูบาการ์ เจ๊ะโยล สมาชิกพรรค PAS อ.กุรุน เคดาห์ ๑.๒.๑๑ นายอัสมาวานี อับดุลเลาะห์ สมาชิก PAS อ.กุรุน เคดาห์ ๑.๒.๑๒ นายอะหมัดเฟาซี เดอรามาน สมาชิกพรรค PAS อ.กุรุน เคดาห์ ๑.๒.๑๓ นายลุฟตี อารีฟิน หน.เยาวชนพรรค PAS อ.สุไหงเบอนุต ยะโฮร์ ๑.๓ เป้าหมาย ดำเนินการต่อสู้เพื่อสถาปนาดินแดนของประเทศต่าง ๆ ในแหลมมลายู ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่เกาะมินดาเนา ในฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และ มซ. ให้เป็นประเทศที่ปกครองตามระบอบอิสลาม หรือรัฐอิสลาม ๑.๔ แนวทางการดำเนินงาน ๑.๔.๑ พยายามเผยแพร่ลัทธิ และศาสนาที่คลั่งสงครามในคราบของกลุ่มจีฮัด (กลุ่มที่ต่อสู้เพื่อศาสนา หรือทำสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อปกป้องอิสลาม) ๑.๔.๒ สมาชิกเคยผ่านการฝึกในอัฟกานิสถาน บางคนใช้เวลาฝึกถึง ๓ ปี และร่วมสู้รบกับชาวอัฟกานิสถานเพื่อขับไล่กองกำลังทหารรัสเซีย ออกจากประเทศอัฟกานิสถาน ๑.๔.๒ ใช้แนวทางการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรง ปฏิบัติการปล้นธนาคาร เพื่อนำเงินจัดซื้ออาวุธ ล่าสุดเมื่อ ก.พ.๔๔ สมาชิก ๗ คน ใช้อาวุธปืนโจมตีสถานีตำรวจแห่งหนึ่งใน มซ.ทำให้ จนท.ได้รับบาดเจ็บ ๑.๔.๓ เคยจัดประชุมวางแผนใน ๒ รัฐ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ มซ. เพื่อวางแผนลักลอบจัดซื้ออาวุธ และวัตถุระเบิด จากประเทศเพื่อนบ้านของ มซ. รวมทั้งวางแผนตั้งฐานปฏิบัติการฝึกอาวุธให้กับสมาชิกของกลุ่ม ในประเทศเพื่อนบ้านของ มซ. ๑.๔.๔ ภายหลังที่จนท.ตร.มซ. แถลงเปิดเผยเบื้องหลังและพฤติการณ์ของกลุ่ม KMM ทางสถานทูตอัฟกานิสถาน ประจำ มซ. ได้ปฏิเสธว่า รัฐบาลที่ชอบธรรมของอัฟกานิสถานไม่เคยให้การสนับสนุนในการฝึกทางทหารให้กับประชาชนของ มซ. ๑.๔.๕ กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) น่าจะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มโจรมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (GMIP) ในประเทศไทยเนื่องจากมีแนวทางและเป้าหมายในการต่อสู้เพื่อศาสนาคล้ายคลึงกัน ๑.๕ ความเคลื่อนไหวและการปฏิบัติ ๑.๕.๑ เมื่อ ๗ มิ.ย.๔๔ นายตันศรี นอเรียน มาย ผบ.ตร.แห่งชาติ แถลงว่า กลุ่มคนร้ายทั้ง ๙ คน ที่ จนท.ตร.จับกุมจากเหตุการณ์ปล้นธนาคาร Southern Bank Berhad (SBB) ที่เปอตาลิง จายา รัฐเซลังงอร์ เมื่อ ๑๘ พ.ค.๔๔ ที่ผ่านมา เป็นสมาชิกกลุ่มพวกคลั่งและบ้าลัทธิสงคราม จากประเทศอัฟกานิสถาน และหมู่เกาะอัมบอน ของอินโดนีเซีย ที่มีชื่อเรียกว่า กลุ่มจีฮัด (Jihad) ซึ่งการปฏิบัติของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ และเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายระดับชาติ ที่พยายามเผยแพร่ลัทธิ และศาสนาที่คลั่งสงครามในคราบของกลุ่มจีฮัด การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายดังกล่าว เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศที่รุนแรงกว่าอาชญากรรมปกติทั่วไป ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก ที่มีชาว มซ. เข้าไปพัวพันกับกลุ่มก่อการร้ายระดับชาติ ที่มีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ และเชื่อว่ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อคดีอาชญากรรม,ฆ่า,พยายามฆ่า และการปล้นที่สำคัญ ในระยะ ๒ ปี หลายคดีประกอบด้วย ๑) คดีฆ่า น.พ.Joe Fernandes สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเขต ลูนัส รัฐเคดาห์ เมื่อ ๔ พ.ย.๔๓ ๒) การบุกยึดสถานีตำรวจ กัวร์ เจิมเปอดัก รัฐเคดาห์ เมื่อ ๔ ก.พ.๔๔ ๓) การปล้นธนาคาร Hong Bank ที่เขตเปอตาลิง จายา รัฐเซลังงอร์ เมื่อ ๑๔ ธ.ค.๔๓ ๔) วางระเบิดวัดฮินดู ที่ถนนปาดู,การวางระเบิดลานศิลปะ ที่เกลัง เมื่อ ๒๐ ก.ค.๔๒ ๕) วางระเบิดโบสถ์ ที่อูตารา ตาเนาะห์ไอร์ ๖) ปล้นร้านมินิมาร์ท ที่ชาห์อาลัม รัฐเซลังงอร์ ๗) คดีพยายามฆ่าสองสามีภรรยาชาว มซ. เชื้อสายอินเดีย ๘) ครั้งล่าสุดคือการปล้นธนาคาร Southern Bank Berhad (SBB) ที่เปอตาลิง จายา รัฐเซลังงอร์ ๑.๕.๒ เมื่อ ๙ มิ.ย.๔๔ นายฮาดี โฮอับดุลลาห์ รอง หน.สำนักงานฝ่ายคดีอาญากรุงกัวลาลัมเปอร์เปิดเผยว่า จนท.ตร. ได้จับกุมนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาระดับสูงของรัฐ ๖ คน พร้อมพนักงานบริษัทเอกชนอีก ๑ คน ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของ จนท.ตร.ในการสลายการชุมนุนประท้วงของนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) ที่บริเวณมัสยิดแห่งชาติในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ได้เริ่มขึ้น หลังพิธีละหมาดในวันศุกร์ที่ ๘ มิ.ย.๔๔ โดยนักศึกษาประมาณ ๑๐๐ คน จากสมาพันธ์นักศึกษาอิสลาม มซ.,สมาคมนักศึกษาอิสลามแห่งชาติ มซ. ซึ่งทางด้าน ดาโต๊ะ ดร.ฮาซิม ยะโกป รอง อธิการบดี (ฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา) มหาวิทยาลัยมลายา ได้กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยกำลังติดต่อขอทราบข้อมูลจากรายงานของ จนท.ตร.ก่อนที่จะตัดสินลงโทษนักศึกษาที่เข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณมัสยิดแห่งชาติ ดังกล่าวและเมื่อรับทราบรายงานแล้ว สภามหาวิทยาลัยจะได้นำมาประกอบการพิจารณากำหนดโทษที่เหมาะสมกับนักศึกษาที่เกี่ยวข้องต่อไป ๑.๕.๓ เมื่อ ๘ ก.ค.๔๔ ดาโต๊ะ สรี ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นรม.มซ.กล่าวถึงกรณีการจับกุม ๒ นักศึกษาภายใต้กฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) เนื่องจากสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ว่าอาจเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะมีการกำหนดเงื่อนไขในการรับนักศึกษาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเสียใหม่โดยบังคับให้เน้นด้านการศึกษาเป็นหลัก มิฉะนั้นอาจถูกขับออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากขณะนี้มีนักศึกษาจำนวนมาก โดยเฉพาะนักศึกษาชาวมลายูได้เข้าไปมีส่วนในการเคลื่อนไหวด้านการเมืองด้วยการต่อต้านรัฐบาล ซึ่งบางครั้งกระทำเกินขอบเขตจนเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ด้าน ศาสตราจารย์ ดาโต๊ะ ดร.อานูวาร์ ไซนี โมฮัมหมัด ซิน ผช.อธิการบดี มหาวิทยาลัยมลายา กล่าวว่านายโมฮัมหมัดฟูอัด โมฮัมหมัดอิควัน ประธานสภาผู้แทนนักศึกษาอาจจะถูกขับออกจากมหาวิทยาลัยมลายา หาก จนท.ตร.สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่ากระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง สำหรับ นายโมฮาหมัดฟูอัด ฯ อายุ ๒๒ ปี ถูก จนท.ตร.จับกุมภายใต้กฎหมาย ISA เมื่อ ๖ ก.ค.๔๔ โดยเชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตวารสาร Varsiti ๒๐๐๑ ที่มีข้อความต่อต้าน/เหยียดหยาม นรม.มซ.และเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารหอประชุม Tunku Cancelor ของมหาวิทยาลัยมลายา เมื่อ ๒๙ มิ.ย.๔๔ ที่ผ่านมา ๑.๕.๔ เมื่อ ๓ ส.ค.๔๔ ตันสรี นอเรียน ไมล์ ผบ.ตร.แห่งชาติ มซ. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือการปราบปรามอาชญากรรม มซ. ไทย ที่เมืองยะโฮร์บาฮารู รัฐยะโฮร์ ว่า จนท.ตร.ได้ใช้กฏหมายความมั่นคงภายใน (ISA) จับกุมชายผู้ต้องสงสัย จำนวน ๘ คน ที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับการทะเลาะวิวาทของกลุ่มคนนอกศาสนา ที่รู้จักกันในนามกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดมีประวัติเคยผ่านการฝึกด้านการทหาร และเคยมีประสบการณ์ด้านการรบในประเทศอัฟกานิสถานมาแล้ว ๑.๕.๕ เมื่อ ๔ ส.ค.๔๔ ตันสรี นอเรียน ไมล์ ผบ.ตร.มซ. เปิดเผยว่า จนท.ตร.ได้จับกุมชาย ๒ คน ในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง ตามกฏหมายความมั่นคงภายใน (ISA) มาตรา ๗๓ (๑) และจากการสอบสวนทราบว่าหนึ่งในจำนวนนั้นคือนาย นิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส บุตรชายของดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตัน และเพื่อนชื่อ นาย เอ็มดี ลอตห์ฟิน อารีฟฟิน อายุ ๓๓ ปี ทั้งสองถูกจับกุมที่ บ.กัมปงซิเดก เขตกูปัง รัฐเคดาห์ ซึ่งก่อนหน้านี้ จนท.ตร.ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยในลักษณะเดียวกันมาแล้ว ๘ คน และจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง ๘ คน นอกจากจะมีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติแล้วยังเชื่อว่ามีส่วนพัวพันกับการปล้นธนาคารเซาเทิร์น แบงค์ ที่เปอตาลิง จายา เมื่อ ๑๘ พ.ค.๔๔ ด้วย และจนถึงขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตามกฏหมาย ISA รวม ๑๐ คน นอกจากนี้ ตร.ยังมีรายชื่อผู้ต้องสงสัยอีกกว่า ๕๐ คน ที่อยู่ระหว่างการสืบสวนว่ามีการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ และหากรวบรวมหลักฐานได้ครบก็จะดำเนินการจับกุมทันที ๑.๕.๖ เมื่อ ๖ ส.ค.๔๔ ดาโต๊ะ สรี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นรม.มซ. กล่าวถึงกรณีที่บุตรชาย ของ ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตัน ถูก จนท.ตร.จับ ว่าเนื่องจากทาง จนท.ตร.มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าบุตรชายของ ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส ฯ เป็นสมาชิกกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย และมีส่วนเกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงได้ในอนาคต ซึ่งคาดว่า มุขมนตรีรัฐ กลันตัน คงไม่ทราบความจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุตรชายของเขาอย่างแน่นอน ทางด้าน ดาโต๊ะ สรี ดร.ราอิส ยาติม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเรียกร้องให้ ดาโต๊ะนิกอับดุลอาซิส ฯ อดทนกับการที่ จนท.ตร.ใช้กฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) โดยกล่าวว่า จนท.ตร.สามารถควบคุมเพื่อสอบสวนตามกฎหมาย (ISA) ได้ไม่เกิน ๖๐ วัน ๑.๕.๗ เมื่อ ๘ ส.ค.๔๔ ดาโต๊ะ ไซนัล อาบีดีน ซิน รมช.มท. ได้ตอบข้อซักถาม ของ ส.ส.ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า จากการรวบรวมหลักฐานแวดล้อมต่าง ๆ ของนายนิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส บุตรชายของ ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรี รัฐกลันตัน มีหลักฐานยืนยันว่า นาย นิกอัดลี ฯ เป็นหัวหน้ากลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นสะดมภ์ และการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมาหลายครั้ง โดยมีสมาชิกรวม ๑๒ คน มีสถานที่ประสานงานอยู่ที่หมู่บ้านศรีอามันปูชง เขตเซอดัง รัฐเซลังงอร์ มาตั้งแต่ปี ๔๒ ซึ่งจากการสืบสวนของ จนท.ตร.ทราบว่า ขณะที่ นายนิกอัดลี ฯ กำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศปากีสถานนั้น ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มมูจาฮีดินอัฟกานิสถานต่อต้านทหารรัสเซีย และเมื่อสงครามระหว่างอัฟกานิสถานกับรัสเซียยุติลง อัฟกานิสถานต้องเผชิญกับสงครามภายในระหว่างพี่น้องมุสลิม นิกายซุนนี่ กับนิกายชีอะห์ ซึ่ง นายนิกอัดลี ฯ ก็เข้าร่วมในเหตุการณ์สงครามดังกล่าวด้วย ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเป็นหลักฐานมัดตัว นายนิกอัดลี ฯ ต่อไป สำหรับการจับกุมสมาชิกกลุ่มมูจาฮีดินทั้ง ๑๐ คน เนื่องจากเป็นการคุกคามต่อความปลอดภัยของสังคม และกระทบกับความมั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตาม พรรค PAS ก็ไม่อาจปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นกับการกระทำของสมาชิกพรรค มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อสมาชิกในกลุ่มมูจาฮีดีนมาเลเซียถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปล้นธนาคารเซาเทิร์น ที่เปอตาลิงจายา เมื่อเดือนพฤษภาคม และ จนท.ตร.ยังมีหลักฐานว่า กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย ยังมีส่วนพัวพันกับการลอบสังหาร ดร.โจ เฟอร์นันเดซ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเคดาห์ เมื่อ ๔ พ.ย.๔๓ ด้วย ๑.๕.๘ เมื่อ ๑๐ ส.ค.๔๔ ดาโต๊ะ อับดุลฮามิด ไซนัลอาบีดีน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์วิทยาการศาสนา ที่มัสยิดแห่งชาติ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง ๑๐ คน ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย ซึ่งมีบุตรชายของมุขมนตรีรัฐกลันตันรวมอยู่ด้วยนั้น จนท.ตร.ได้ปฏิบัติตามหลักฐานและกฎหมายโดยไม่มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งพรรคใดกดดัน หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส การจับกุมได้กระทำไปตามหน้าที่เพื่อรักษาความสงบและความปลอดภัยของประเทศ สำหรับการเปิดศูนย์วิทยาการศาสนานั้น จุดประสงค์เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ๑.๕.๙ เมื่อ ๑๑ ส.ค.๔๔ นายเบ็นจามิน ฮัสบี ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงาน ทั่วไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูกิตอามัน กรุงกัวลาลัมเปอร์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า จนท.ตร.ได้ปล่อยตัว นายโมฮัมเหม็ด โซบรี อายุ ๔๐ ปี ที่ถูกจับ เมื่อ ๒๙ พ.ค.๔๔ ตามกฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) เนื่องจากผลการสอบสวนสรุปว่า ไม่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมูจาฮีดิน มาเลเซียทั้ง ๑๐ คน ที่ถูก จนท.ตร.จับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ๑.๕.๑๐ เมื่อ ๑๒ ส.ค.๔๔ ดาโต๊ะ อานูวาร์ มูซา รอง หน.ฝ่ายประสานงานพรรค UMNO เปิดเผยว่าการที่ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตัน/ผู้นำด้านศาสนาพรรค PAS ไม่ยอมรับความจริงเกี่ยวการที่ จนท.ตร.จับกุมตัวนายนิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส บุตรชาย ตามกฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) โดยพยายามที่จะนำมาขยายผลให้เป็นปัญหาทางการเมืองนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส ฯ ต้องเคารพกฎหมายและเหตุผลของตำรวจ เพราะกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งนายนิกอัดลี ฯ จะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระหรือไม่ ก็ควรขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของตำรวจ ไม่ใช่นำวิถีทางการเมืองเข้ามากดดัน ซึ่งการสอบสวน นายนิกอัดลี ฯ ก็ยอมรับว่าเป็น หน.กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย แต่ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส ฯ กลับเห็นว่าการจับบุตรชายของตนเป็นเพราะถูกผลักดันจากพรรค UMNOและพยายามผลักดันให้นำคดีเข้าดำเนินการในขบวนการศาลยุติธรรมมากกว่าการดำเนินคดีตามกฎหมาย ISA ๑.๕.๑๑ เมื่อ ๒๐ ส.ค.๔๔ ตันสรี โนเรียน มาย ผบ.ตร.มซ. ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ไม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่ม Militant (กลุ่มก่อการร้าย) ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์และทางภาคใต้ของไทย แต่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายในอินโดนีเซีย เนื่องจากเมื่อต้น ส.ค.๔๔ ทางการอินโดนีเซีย ได้จับกุมชาว มซ.ชื่อ นายเตาฟิก อับดุลฮาลิม (Taufik Abdul Halim) อายุ ๒๖ ปี นักศึกษาระดับอุดมศึกษาใน มซ. ข้อหาพัวพันกับการลอบวางระเบิดโบสถ์คริสต์ และศูนย์การค้าในกรุงจาการ์ตา นายเตาฟิก เดินทางเข้าอินโดนีเซีย โดยใช้บัตรประชาชนปลอม ถูกระบุว่าเป็นสมาชิก KMM และมีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดโบสถ์คริสต์ ๒ แห่งในกรุงจาการ์ตา เมื่อ ๒๒ ก.ค.๔๔ และลอบวางระเบิดศูนย์การค้าพลาซา แอตเรียม ในกรุงจาการ์ต้า เมื่อ ๑ ส.ค.๔๔ ๑.๕.๑๒ เมื่อ ๒๓ ส.ค.๔๔ นักการเมืองมุสลิมใน จว.น.ธ.เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนายหน้าค้าอาวุธชาว มซ. เดินทางมารับซื้ออาวุธจากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จว.น.ธ. โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่หลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้อาวุธปืนในพื้นที่มีราคาสูงมาก ทั้งยังมีความต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก อาทิ อาวุธปืนขนาด .๓๘ ก่อนหน้านี้ราคาประมาณ ๗,๐๐๐ บาท แต่ปัจจุบันมีการซื้อขายในราคาประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท สำหรับอาวุธปืนที่ จนท.ตรวจค้นพบอาวุธปืนชนิดต่าง ๆ เป็นจำนวนมากในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จว.น.ธ.เมื่อ เมื่อ ๗ และ ๘ มิ.ย.๔๔ เชื่อว่าไม่ใช่อาวุธที่จะจัดส่งไปยังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจังหวัดอาเจ๊ะห์ หรือขบวนการอาเจ๊ะห์เสรี (Gerakan Aceh Merdeka : GAM หรือ Free Aceh Movement : FAM) ในอินโดนีเซีย แต่อาจจะถูกส่งเข้าไปยัง มซ. ต่อกลุ่มก่อการร้ายอัล-มาอูนะฮ์ (al maunah) หรือ กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) หรืออาจผ่าน มซ.เพื่อส่งไปยังประเทศอื่น ๑.๕.๑๓ เมื่อ ๒๕ ส.ค.๔๔ ดร.มหาเธร์ มูฮัมหมัด นรม.มซ. เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ทางการ มซ.จะสั่งเพิ่มมาตรการรักษาการณ์ตามบริเวณชายแดน มซ.- ไทย เพื่อป้องกันการลักลอบการนำอาวุธปืนจากไทยเข้าไปยัง มซ. และได้รับรายงานว่ากลุ่มก่อการร้าย KMM (Kumpulan Mujahidin Malaysia) ได้ลักลอบซื้ออาวุธจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้งอาวุธปืน เอ็ม.๑๖ จากประเทศไทย ๑.๕.๑๔ เว็บไซต์ utusan malaysia online ประจำวันที่ ๒๕ ส.ค.๔๔ ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายอาวุธในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จว.น.ธ. โดยอ้างว่าได้รับรายงานจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นนักการเมืองไทยมุสลิมในพื้นที่ จว.น.ธ. ระบุว่า ขณะนี้มีนายหน้าค้าอาวุธจาก มซ. เข้ามารับซื้ออาวุธปืนประเภทต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีราคาสูงขึ้นหลายเท่า อาทิ อาวุธปืนขนาด .๓๘ ราคากระบอกละ ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้มีราคาเพียงกระบอกละประมาณ ๖,๐๐๐ ๗,๐๐๐ บาท เท่านั้น ๑.๕.๑๕ เมื่อ ๑ ก.ย.๔๔ ดาโต๊ะ สรี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นรม.มซ. เปิดเผยว่า กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) มีแผนจัดตั้ง มซ.เป็นประเทศอิสลาม โดยมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับกลุ่มมูจาฮีดิน ในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเกิดจากสมาชิกมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) มีทัศนะว่า มซ. ไม่ใช่ประเทศอิสลาม เพราะถูกบริหารโดยคนนอกศาสนา จึงไม่สามารถยอมรับการดำเนินงานของรัฐบาลได้ ซึ่งสมาชิกที่มีแนวความคิดดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สงครามในประเทศอัฟกานิสถานมาแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าผู้ที่ถูก ตร.มซ. จับกุมตามกฏหมาย ISA จำนวน ๑๐ คน ที่รัฐเคดาห์ , เหตุการณ์การลอบวางระเบิดโบสถ์คริสต์ และอาคารศูนย์การค้าในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ล้วนมีส่วนเกี่ยวพันกับความพยายามของกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ทั้งสิ้น นรม.มซ.กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนของ จนท.ตร.ยังทราบว่า มี นศ. มหาวิทยาลัยมลายา จำนวนประมาณ ๓๐๐ คน ที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางคนที่ต้องการเข้ามามีบทบาททางการเมือง ว่าพวกเขาไม่ใช่คนมลายู แต่เป็นคนมุสลิม พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวความคิดให้เกลียดชังรัฐบาล จน นศ.เชื่อว่ารัฐบาล มซ. ปัจจุบันไม่ใช่รัฐบาลอิสลาม ซึ่งการดำเนินการต่อกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ของรัฐบาลที่ผ่านมา จึงเป็นการกระทำเพื่อระงับเหตุ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงต่อไปในอนาคต ๑.๕.๑๖ เมื่อ ๑ ก.ย.๔๔ ดาโต๊ะ ไซนัลอาบีดิน ซิน รมช.มท. เปิดเผยว่า เชื่อว่าทาง ตร. จะสามารถติดตามจับกุมสมาชิกกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ที่หลบหนีออกนอกประเทศได้ทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากทางรัฐบาลได้ประสานขอความร่วมมือกับ จนท.ตร.และผู้เกี่ยวข้องทั้งของประเทศอินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ไทย และประเทศอื่น ๆ ที่มีสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อกันแล้ว และเชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือติดตามจับกุมสมาชิกกลุ่มดังกล่าวได้โดยเร็ว ส่วนการเข้าจับกุมบิดาของสมาชิกกลุ่ม KMM คนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการพรรค PAS รัฐเคดาห์ ในข้อหามีส่วนรู้เห็นในการ ซุกซ่อนกระสุนปืนจำนวน ๓,๐๐๐ ๔,๐๐๐ นัด เมื่อ ๓๑ ส.ค.๔๔ ที่ผ่านมานั้น จนท.ตร.ได้ขยายผลจนสามารถยึดอาวุธปืนยาวได้ ๑ กระบอก และกระสุนอีกจำนวน ๑๕๐ นัด ในบ้านของผู้ต้องสงสัยอีก ๓ คน ที่ กัวลาเกอติล รัฐเคดาห์ และว่าในห้วง ๒ เดือน หลังจากพบการเคลื่อนไหวของกลุ่ม KMM ตร.มซ. ได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการตรวจตราชายแดนด้านที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการหลบหนีและก่อเหตุร้ายของ KMM อีกทางหนึ่งด้วย ๑.๕.๑๗ เมื่อ ๒ ก.ย. ๔๔ พ.ต.ท.ฮัสซัน อิสมาแอล หน.ตร.สภ.อ.บาลิ่ง รัฐเคดาห์ ทำการจับกุม นายอาริฟิน อายุ ๕๘ ปี ราษฎร บ.เต็มเปาะ ต.เตอลอย อ.บาลิ่ง (เป็นบิดาของนาย มูฮัมหมัด ลอตีฟ สมาชิก KMM.ที่ถูก จนท.ตร.จับกุมเมื่อ ๒๙ ส.ค.๔๔ พร้อมอาวุธปืนไรเฟิล ๑ กระบอก กระสุน ๑๕๐ นัด ) ในข้อหามีกระสุนปืนต่าง ๆ ประมาณ ๓,๐๐๐ ๔,๐๐๐ นัด ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และเชื่อว่าเตรียมการส่งมอบให้กลุ่ม KMM.น่าจะนำมาจากบัดดง ประเทศอินโดนีเซีย ๑.๕.๑๘ เมื่อ ๓ ก.ย.๔๔ ดาโต๊ะ สรี เชด ฮามิด อัลบาร์ รมว.กต.มซ. เปิดเผยว่า มซ. รู้สึกผิดหวังกับการประสานขอความร่วมมือกับประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ในการสกัดกั้นการกระทำของกลุ่มคลั่งศาสนาที่ต้องการจัดตั้งประเทศอิสลามอยู่ในขณะนี้ ซึ่งความร่วมมือที่สำคัญที่ มซ. ต้องการคือขอให้หน่วยรักษาความปลอดภัยของทั้งสามประเทศเข้าดำเนินการกับกลุ่ม KMM ทั้งนี้เพื่อต้องการหยุดการเติบโตและเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในระดับภูมิภาค ซึ่ง มซ. ต้องการให้ทั้งสองชาติตระหนักถึงปัญหาโดยเข้ามาร่วมกันสกัดกั้นความบ้าคลั่งของกลุ่ม KMM ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลด้วยวิธีที่รุนแรงตามที่กำลังดำเนินอยู่ ๑.๕.๑๙ เมื่อ ๓ ก.ย.๔๔ นายอับดุลซาหมัด อาบุด อาบูบาการ์ หน.กลุ่มมูจาฮีดินอินโดนีเซีย ( Majlis Mujahidin Indonesia : MMI ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว มซ. ที่เมือง ย็อค จาการ์ตา อินโดนีเซีย โดยกล่าวยอมรับว่ากลุ่มมูจาฮีดินอินโดนีเซีย (MMI) ให้การสนับสนุนกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) จริง และรู้สึกตกใจที่ทราบข่าวว่า ทาง จนท.ตำรวจ มซ. มีการกวาดล้าง จับกุมสมาชิก KMM และยังยอมรับว่า รู้จักกับ นายนิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส บุตรชายของมุขมนตรีรัฐกลันตัน รวมทั้ง นายมูฮัมหมัด อิกบัล อาบูจิบริล และ นายฮัมบาลี นูรจามาน ริดวน อิซามูดิน ที่กำลังถูก จนท.ตร.มซ.ติดตามตัวอยู่ในขณะนี้อีกด้วย นายอับดุลซามัด ฯ กล่าวอีกว่า MMI วางแผนจะเคลื่อนไหวแสดงพลัง ที่หน้าสถานเอกอัครราชฑูต มซ.ประจำกรุงจาการ์ตา เพื่อคัดค้าน และกดดันต่อทางการ มซ. ให้ปล่อยตัวสมาชิก KMM ที่ถูกจับกุมทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข ๑.๕.๒๐ เมื่อ ๓ ก.ย.๔๔ ดาโต๊ะสรี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นรม.มซ. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาสูงสุดพรรคอัมโน ว่า ที่ประชุมได้นำปัญหาการดำเนินงานของกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) มาอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ถึงวิธีการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เพื่อให้สังคมคนมลายู, นักเรียน และนักศึกษาเกลียดชังรัฐบาล สรุปได้ว่า การที่กลุ่ม KMM ต้องการยึดอำนาจและรวมเอาสามประเทศในอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ตอนใต้เข้าด้วยกัน เพื่อก่อตั้งเป็นประเทศอิสลามนั้น เป็นเพียงความทะเยอทะยานต้องการที่จะมีอำนาจเพื่อพวกพ้องของตนเอง และถ้าสมมุติว่ายึดอำนาจได้ พวกเขาเองก็ยังให้คำตอบไม่ได้จะจัดการปกครองแบบไหน อย่างไร ซึ่งหลังการอภิปรายที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าการต่อสู้ของกลุ่ม KMM ที่กำลังดำเนินอยู่ ไม่ใช่เกิดจากการกระทำของอิสลาม แต่เป็นกลุ่มที่ต้องการจะยึดอำนาจด้วยวิธีการรุนแรง เพื่อให้โลกหันมาให้ความสนใจและให้การรับรองว่าเป็นการต่อสู้ของอิสลาม ผู้ที่ขัดขวางก็จะถูกกำจัดด้วย จีฮัดในหลักศาสนาคล้ายกับเป็นการต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่พวกเขามีความเห็นว่าไม่ใช่อิสลาม ซึ่งการกระทำครั้งนี้จึงน่าจะเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ใช่อิสลาม ที่ไม่สามารถทนรอคอยกับอำนาจที่พวกตนต้องการได้อีกต่อไป ๑.๕.๒๑ เมื่อ ๔ ก.ย.๔๔ นายฮายีมูร็อด อิบราฮิม ผช.ประธาน/ผู้บัญชาการทหารกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (Moro Islam Liberation Front : MILF) ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากจังหวัดมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า MILF ไม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย แต่อย่างใด ที่ผ่านมา KMM เคยให้การช่วยเหลือในการยุติปัญหาของชนชาติอิสลามโมโรบ้างในบางกรณีเท่านั้น ไม่มีการติดต่อใด ๆ เป็นพิเศษ และยืนยันว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของสังคมอิสลามที่เกิดขึ้นใน มซ. โดยปัจจุบันโมโรต้องการเพียงเพื่อให้ปัญหาของมินดาเนายุติลงเท่านั้น ทางด้าน นายริโกเบอร์โต้ ทีคลาโอ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ แถลงว่า จากรายงานที่ได้รับเมื่อเดือนที่ผ่านมามีหลายสิ่งยืนยันว่า กลุ่ม KMM ได้พยายามประสานการติดต่อกับกลุ่ม MILF ซึ่งเป็นกลุ่มต่อสู้เพื่ออิสลามที่สำคัญในฟิลิปปินส์ ซึ่ง นรม.มซ.เอง เคยกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่ากลุ่ม KMM ได้ประสานการต่อสู้ร่วมกับกลุ่มต่อต้านในฟิลิปปินส์ และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่กำลังทำสงครามอยู่กับรัฐบาลอินโดนีเซีย ส่วนกรณีที่กลุ่มโมโรละเมิดสัญญาหยุดยิงที่ได้ลงนามในสัญญาสันติภาพกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อ ๗ ส.ค.๔๔ นั้น เพราะเห็นว่าห้วงเวลายุติการสู้รบตามสัญญาเป็นเพียงการให้นักรบของกลุ่มได้มีเวลาพักฟื้นเพื่อลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่ โดยไม่คำนึงถึงสัญญาสันติภาพแต่อย่างใด ๑.๕.๒๒ เมื่อ ๕ ก.ย.๔๔ ดาโต๊ะ นิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตัน/ผู้นำด้านศาสนาของพรรค PAS กล่าวว่าพรรค PAS จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใด ๆ ของกลุ่ม มูจาฮีดินมาเลเซีย และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการต่อสู้กับกลุ่มดังกล่าวทุกกรณี รวมทั้งจะไม่ดำเนินการทางการเมือง ที่มีลักษณะนอกกรอบระบบประชาธิปไตยที่ใช้ปกครองประเทศอยู่ใน ปัจจุบัน ที่ผ่านมาพรรค PAS ได้เคยย้ำอยู่เสมอว่า จะขับสมาชิกทุกคนที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับกลุ่ม KMM ที่เคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มรัฐบาล มซ.อยู่ในปัจจุบันออกจากพรรค ๑.๕.๒๓ เมื่อ ๗ ก.ย. ๔๔ ดาโต๊ะ ฟาดิล นอร์ (Fadzil Nor) ประธานพรรค PAS กล่าวในโอกาสเป็นประธานจัดงานฉลอง ๕๐ ปี การก่อตั้งพรรค PAS ที่ศูนย์ตัรบียะห์ อิสลามิกชน รัฐ กลันตันว่า แนวคิดการจัดตั้งประเทศอิสลามไม่จำเป็นต้องชี้แจงให้สมาชิกพรรค PAS ทราบเป็นกรณีพิเศษ เพราะธรรมนูญของพรรคได้กำหนดให้พรรคดำรงความมุ่งหมายให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ กฏหมายอิสลาม (Hudud) อยู่แล้วส่วนความเกี่ยวพันกับกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) นั้น พรรคยังไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ลงไปได้ เนื่องจากโดยข้อเท็จจริงแล้วพรรคไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ KMM แต่อย่างใด ส่วนความสัมพันธ์ทางด้านส่วนตัวก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไม่เกี่ยวกับพรรค ๑.๕.๒๔ เมื่อ ๑๐ ก.ย. ๔๔ ดาโต๊ะ มีเออร์ เจ๊ะ ฮุสเซ็น มูญาฮิดิน หน.ตร.กรุงกัวธลาลัมเปอร์ ได้แถลงว่ามีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวขบวนการใต้ดินต่าง ๆ ของนักศึกษา จากสถาบันทั่วประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ ดาโต๊ะ ดร.อิบราฮิม อาบู ซาร์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซีย กล่าวว่า ได้ทำการสลายองค์การ HAMAS ในรัฐสลังงอร์ ที่มีส่วนในการสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ๑.๕.๒๕ เมื่อ ๑๘ ก.ย. ๔๔ พล.ต.ต. ซุฟยาน ยะกบ หน.ตร.เมโทร จาย่า กรุงจาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซีย ได้ทำการจับกุมสมาชิกกลุ่ม KMM. ๑๔ คน เป็นชาวมาเลเซีย ๒ คน ขณะทำการฝึกวิชาทหารอยู่ที่หมู่บ้าน ซาเกตี ชะวาตะวันตก พร้อมอาวุธปืนสั้น ๑๓ กระบอก กระสุน ๔๑๒ นัดคือ ๑.๕.๒๕.๑ นายอิบรอฮิม อายุ ๒๖ ปี ชาวมาเลเซีย เป็น หน. ๑.๕.๒๕.๒ นายไซนี อายุ ๒๖ ปี ชาวมาเลเซีย ๑.๕.๒๕.๓ นายสุดรายัต อายุ ๒๙ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๔ นายสับติสโน อายุ ๓๖ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๕ นายเอ็มคาตัน อายุ ๓๘ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๖ นายเอ็มอับดุลรอฮิม อายุ ๓๐ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๗ นายอีเป็น อายุ ๒๕ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๘ นายบัตรี อายุ ๒๕ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๙ นายวะยู ฮิคายัต อายุ ๓๐ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๑๐ นายนูนง กูวานา อายุ ๒๖ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๑๑ นายอาดัง อายุ ๓๗ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๑๒ นายแอนดี อายุ ๓๘ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๑๓ นายยายัต สุนิตา อายุ ๒๖ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๕.๑๔ นายสะรานี อายุ ๒๙ ปี ชาวอินโดนีเซีย ๑.๕.๒๖ จากบทความใน น.ส.พ.มติชนรายวัน ฉบับวันที่ ๒๐ ก.ย.๔๔ หน้า ๒๐ คอลัมน์ มองโลกจากมุมไทย โดย พิเชียร คุระทอง เรื่อง มาเลเซียกับมูจาฮีดีน มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้.- ๑) กล่าวถึงปัญหาก่อการร้ายสากลที่มาเลเซียก็กำลังเผชิญอยู่ คือมีกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซียที่เคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ๒) เมื่อ ส.ค.๔๔ ทางการ มซ. ได้จับกุมนายนิกอัดลี นิกอาซิส กับพวกรวม ๙ คน โดยเชื่อว่า นายนิกอัดลี ฯ เป็นหัวหน้ากลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย ๓) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไซยิด อับดุลเราะห์มาน หัวหน้าตำรวจรัฐ เปรัค มซ.ได้ให้ข่าว ซึ่งเผยแพร่ทางสำนักข่าวเอพี และเดอะเนชั่นว่า ทางการ มซ.กำลังติดตามจับกุมพรรคพวกของนายนิกอัดลี ฯ ที่กำลังหลบหนีอยู่ โดยระบุว่า คนกลุ่มนี้ได้ใช้พาสปอร์ตปลอมแล้วหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งอินโดนีเซีย หรือไทย ๔) จากการที่ผู้ก่อการร้ายสากลเข้าไปเคลื่อนไหวอยู่ใน มซ. กลายเป็นเส้นทางติดต่อและผ่านเงินทอง เพราะจากบัญชีรายชื่อผู้ต้องสงสัยจี้เครื่องบินทำการก่อวินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์และตึกแพนตากอน ที่สหรัฐส่งให้ทาง มซ.นั้น ทางสันติบาล มซ. พบว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่มีชื่อว่า นายกาหลิด อัล-มิดฮาร์ เคยมาพบปะกับผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่สงสัยว่าจะเป็นคนลอบวางระเบิดเรือรบโคลของสหรัฐโดยใช้ดินแดนของ มซ. เป็นที่พบปะ ๕) เมื่อ ธ.ค.๓๘ สันติบาล มซ.เคยจับกุมชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่ง ชื่อ นายวาลิ ข่าน อามิน ชาห์ เนื่องจากพบว่ามีแผนการที่จะระเบิดเครื่องบินโดยสารสหรัฐเหนือมหาสมุทร แปซิฟิก และทางการ มซ. ได้ส่งตัวบุคคลดังกล่าวให้ทางการสหรัฐ ๖) ขณะนี้มาเลเซียมีแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองการก่อการร้ายสากลอย่างเงียบ ๆ และเข้มงวดมากขึ้นในการโอนเงินผ่านแดน ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งในการปราบปรามการก่อการร้ายสากล ๑.๕.๒๗ เมื่อ ๒๕ ก.ย. ๔๔ ศาลสูงสุดรัฐกลันตันได้พิพากษาตัดสินจำคุก นายนิค อับดุลอาซิส อายุ ๓๔ ปี ครูสอนศาสนาอิสลามดารูลอัลวา อ.โกตาบารู หน.KMM. ซึ่งเป็นบุตรชายของ ดาโต๊ะ นิค หมัด มุขมนตรีรัฐกลันตัน ภายใต้กฏหมายความมั่นคงภายในเป็นเวลา ๒ ปี ๑.๕.๒๘ เมื่อ ๑๐ ต.ค. ๔๔ เบนจามิน ฮัสบี หน.ตร.ฝ่ายประสานทั่วไป สำนักงาน ตร.บูกิตอามัน กัวลาลัมเปอร์ เปิดเผยว่า จนท.ตร.มซ. ได้ทำการจับกุมสมาชิกกลุ่มมูจาฮีดิน มซ. (Kumpulan Mujahidin Malaysia : KMM) เพิ่มอีกจำนวน ๖ คน โดยใช้กฎหมายความมั่นคงภายใน (ISA) เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ และเชื่อว่ามีส่วนร่วมในการก่อการร้าย รวมทั้งได้เคยเดินทางไปฝึกปฏิบัติการทางด้านการทหารที่ค่ายฝึกมูจาฮีดิน ในประเทศอัฟกานิสถาน รายชื่อผู้ถูกจับกุม ๖ คน มีดังนี้ ๑) ไครรุดดิน ซาอัด อายุ ๓๐ ปี ๒) ฮาซามิ อิกฮัก อายุ ๓๓ ปี ๓) ซุกกิฟลี / ซุลเมอมาลี อาหมัด อายุ ๓๙ ปี ๔) โมฮัมหมัด ซุลกอิฟลี / ปักซู โมฮัมหมัด อิซา อายุ ๓๕ ปี ๕) โมฮัมหมัด ซัลเละห์ ซาอิก อายุ ๓๐ ปี ๖) โมฮัมหมัด ซุลกิฟลี โมฮัมหมัด ซากาเรีย อายุ ๓๒ ปี จนถึงปัจจุบัน มซ.สามารถจับกุมสมาชิก กลุ่ม KMM ได้ทั้งสิ้นจำนวน ๑๖ คน จากที่ได้เคยทำการจับกุมไปแล้วเมื่อ ๒๔ ก.ย. ๔๔ จำนวน ๙ คน และอีก ๑ คน คือ นิก อัดลี นิก อับดุล อาซิส บุตรชายมุขมนตรี รัฐกลันตัน ซึ่งได้ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เมื่อ ส.ค. ๔๔ ที่ผ่านมา ภายใต้กฎหมาย ISA ที่เชื่อว่า นิก อัดลี เป็นหัวหน้ากลุ่มสมาชิกดังกล่าว ในการเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลอิสลาม , ปล้นธนาคาร และฆาตกรรม ดร.โจ เฟอร์นันเดส สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ เขตลูนัส ๑.๖ ความสัมพันธ์กับกลุ่มโจรมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (GMIP) ๑.๖.๑ ความเป็นโดยสังเขปของกลุ่ม GMIP (กอบปี้จาก ทกร.) ๑.๖.๒ นายโอซามา บินลาเดน ใช้องค์การการกุศลให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ๑) เมื่อ ๙ ส.ค.๔๓ นสพ.Philippines Daily Inquirer ได้รายงานโดยอ้างคำเปิดเผยของอดีตสมาชิกกลุ่ม Abu sayyaf ที่รู้จักในนาม Abu Anzar ระบุ โอซามา บินลาเดน และ Mobammad Jamal Khalifa น้องชายภรรยา ได้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือมุสลิมนานาชาติหรือ Pertubahan Bantuan Islam Antarabngsa หรือ IIRO เมื่อปี ๓๕ และอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กาสันนิบาตมุสลิม ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย เพื่อปกปิดการดำเนินงานสนับสนุนกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่ออิสลาม และก่อนหน้านี้หน่วยข่าวทางทหารฟิลิปปินส์ได้ระบุว่า Osama bin laden ให้การสนับสนุนทั้งกลุ่มก่อการร้ายในฟิลิปินส์ ทั้งกลุ่ม Abu sayyaf และ MLLF ๒) องค์กร IIRO ดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือด้านการกุศลแก่สังคมมุสลิมในพื้นที่ (ฟิลิปปินส์) และลักลอบให้การช่วยเหลือการเงินเพื่อจัดซื้ออาวุธให้กับกลุ่ม Abu sayyaf นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนการฝึก perang bandar สงครามในเมือง และก่อการร้ายขึ้นที่ประเทศลิเบีย ๓) Osama bin laden (นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย) ได้เข้าไปพำนักอาศัยอยู่ในอัฟกานิสถานในฐานะแขกผู้มีเกียรติ มาตั้งแต่ปี ๓๖ ปัจจุบัน บุคคลผู้นี้เป็นที่ต้องการของรัฐบาลสหรัฐเนื่องจากต้องส่งสัยเป็นผู้วางแผนลอบวางระเบิดในเคนยา และทานซาเนีย เมื่อ ส.ค.๔๑ ๔) เกี่ยวกับข่าวสารความสัมพันธ์ระหว่าง จกร.กับ Osama bin laden ได้เคยมีการตรวจพบใบปลิวซึ่งอ้างว่าเป็นกลุ่ม จกร.มูจาฮิดินอิสลามปัตตานี หรือ GMIP ในพื้นที่ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จว.น.ธ. โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งในใบปลิวระบุว่า จกร. GMIP ได้มีการติดต่อสัมพันธ์ Osama bin laden และในอนาคต จกร.อาจได้รับการสนับสนุนด้านการฝึกอาวุธจากบุคคลผู้นี้ ๕) และเมื่อ ก.ค.๔๓ ปรากฎข่าวว่ามีชาว Acheh เดินทางมายัง จ.สตูล เพื่อติดต่อซื้ออาวุธ และอ้างว่าขบวนการปลดปล่อย Acheh ได้รับเงินสนับสนุนจาก Osama bin laden จำนวนประมาณ ๔ ล้าน ข้อพิจารณา/ความเห็น พิจารณาจากเนื้อหาใบปลิวของ จกร. GMIP ตามข้อ ๓ ซึ่งระบุว่ามีการติดต่อกับ Osama bin laden ซึ่งสอดคล้องกับข่าวสารที่ปรากฎ ทั้งในข้อ ๑,๒ และ ๔ ดังนั้น อาจมีความเป็นได้ที่แกนนำ จกร.ที่สังกัดใน BERSATU มีการติดต่อ หรืออาจได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจาก Osama bin laden โดยอาจดำเนินการผ่านตัวแทนหรือบริษัทในเครือ ดังที่ปรากฎข่าว่าบริษัทในเครือของ Osama bin laden เปิดดำเนินการอยู่ในรัฐเคดาห์ มซ. การเผยแพร่ใบปลิว จกร.มูจาฮิดินอิสลามปัตตานี ในพื้นที่ อ.เจาะไอร์ร้อง จว.น.ธ. ๑) เมื่อ ๒๒ ก.ค.๔๒ เวลาประมาณ ๑๕๐๐ น ราษฎร บ.ชอมอง ม.๒ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร์ร้อง จว.น.ธ. พบใบปลิวมีตราสัญญลักษณ์มูจาฮีดินอิสลามปัตตานี จำนวนประมาณ ๑๐ ๑๕ ใบ ถูกทิ้งไว้บนถนนภายในหมู่บ้าน ระหว่าง บ.ตาโง๊ะ บ.ชอมอง ต.มะรือโบออก จึงนำไปมอบให้กับ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.เจาะไอร้อง ๒) ใบปลิว เท่าที่ได้รับมี ๒ ฉบับ - ฉบับแรก หัวกระดาษมีตราสัญญลักษณ์มูจาฮีดินอิสลามปัตตานี พิมพ์เป็นภาษามลายู อักขระยาวี (สำนวนมลายูกลาง) และพิมพ์เพิ่มเติมข้อความด้วยภาษาไทย พร้อมทั้งมีภาพถ่าย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ (แต่งชุดพลเรือน) กำลังสนทนากับ ขรก.ชั้นผู้ใหญ่ เนื้อหาโดยสรุป เรียกร้องมุสลิมยุติการให้ความร่วมมือกับกาเฟร์ (ผู้มิใช่มุสลิม น่าจะหมายถึงหน่วยงานราชการหรือ ขรก.)พร้อมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างทางด้านฐานะความเป็นอยู่ระหว่าง ขรก.กับชาวมุสลิม โดย ขรก.มีความเป็นสุขสบาย ส่วนชาวมุสลิมมีฐานะยากจน ดังนั้น เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรี จึงเป็นภารกิจที่ชาวมุสลิมจะต้องต่อต้านหน่วยราชการ และผู้ที่เป็นเครื่องมือของรัฐ ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ซึ่งการต่อต้านทางตรงคือการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ และทางอ้อม อาทิ การไม่เสียภาษีที่ดิน (ภาษีบำรุงท้องที่) ไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ส.ส.เป็นต้น - ฉบับที่สอง พิมพ์ภาษามลายูกลาง อักขระยาวี เนื้อหาโดยสรุป เรียกร้องให้ชาวมุสลิมยุติการให้ความร่วมมือกับผู้มิใช่มุสลิม โดยไม่รับราชการเป็น จนท.ตร.และไม่เข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารเกณฑ์ กล่าวโจมตี จนท.ทหาร และจนท.ทหารพราน ว่าเป็นอุปสรรคต่อการปฎิบัติงานของ กกล.มูจาฮิดินอิสลามปัตตานี แจ้งให้มุสลิมทราบว่ากลุ่มของตนได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับ Osama bin laden นักรบชาวอัฟกัน (พร้อมภาพถ่าย Osama bin laden) ดังนั้นในโอกาสต่อไปกลุ่ม ฯ อาจได้รับการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ด้วยอาวุธจาก Osama bin laden ให้มุสลิมหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่เป็นแหล่งอบายมุข เพราะเป็นเป่าหมายการโจมตีของกลุ่ม เรียกร้องมิให้ชาวมุสลิมปฎิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของพระเจ้า และสุดท้ายเรียกร้องให้ผู้ที่เก็บใบปลิวฉบับนี้ แล้วนำไปเผยแพร่ให้กับบุคคลอื่น ๆ ต่อไป ข้อพิจารณา/ความเห็น การเผยแพร่ใบปลิวของกลุ่มที่อ้างว่า เป็นกลุ่ม มูจาฮีดินอิสลามปัตตานี ได้ดำเนินการในพื้นที่ จว.น.ธ. มาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อ ๑๑ พ.ค.๔๒ มีบุคคลใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะ นำใบปลิวไปทิ้งบนถนนสาย อ.เมือง อ.บาเจาะ ท้องที่ บ.ครอแระ ม.๓ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จว.น.ธ. ซึ่งมีเนื้อหาใกล้เคียงกับใบปลิว ตามข้อ ๑ ๑.๖.๓ รายชื่อสมาชิก/แนวร่วมกลุ่มโจรมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (GMIP) ที่พำนักอาศัย/หลบหนีอยู่ใน มซ. (กอบปี้จาก ทกร.) .. ๑) ๒) ๓) ๔) ๑.๖.๓ รายชื่อกลุ่มโจรมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (GMIP) ที่ทราบว่าจบการศึกษาหลักสูตรการทหารจากกลุ่มตาลีบัน/ฏอลีบันในประเทศอัฟกานิสถาน ๑) นายหะยีดอรอแม กูเต๊ะ/เจ๊ะกูแม/อับบัส อาหมัด อดีประธาน GMIP ภูมิลำเนาเดิม ๑๙๔ ม.๔ บ.ตาลามอปาแป ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ๒) นายหะยีบือราเฮง กอเดร์บือซา/ดาโต๊ะอิบรอฮิม ปะจู หน.ฝ่ายทหาร ปัจจุบันอาศัยอยู่ บ.ปาซอาร์กา อ.ยือเต๊ะ รัฐตรังกานู มซ. (บุคคล ๒ สัญชาติ) ๓) นายอาแว แคและ (นายนาซอรี เซะเซ็ง) ๔) นายบือราเฮง เจ๊ะดี ๑.๖.๔ ความสัมพันธ์ระหว่าง GMIP กับ KMM ๑) ยังไม่ปรากฏข่าวสารที่แน่ชัด เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองกลุ่ม แต่ คาดว่า ในเบื้องลึกแล้วทั้งสองกลุ่มน่าจะมีความสัมพันธ์กันในระดับหนึ่ง เช่น ความสัมพันธ์ด้านจิตใจ โดยการแสดงออกในลักษณะเห็นอกเห็นใจกันในฐานะเป็นกลุ่มที่มีอุดมการณ์ต่อสู้ในแนวทางและเป้าหมายคล้ายคลึงกัน หรืออาจมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อสู้ ๒) ปัจจุบัน PULO. ได้คัดเลือกสมาชิกเตรียมจะส่งไปรับการฝึกอาวุธในต่างประเทศแล้วจำนวน ๕๐ คน โดยมีแผนจะส่งไปรับการฝึกประเทศละ ๑๐ คน คือประเทศอัฟกานิสถาน ๑๐ คน,ลิเบีย ๑๐ คน,อาเจ๊ะห์ ๑๐ คน และโมโร จ.มินดาเนา ฟิลิปปินส์ ๑๐ คน หลักสูตรการฝึกรุ่นละ ๖ เดือน เงินค่าใช้จ่ายในระหว่างรับการฝึกอบรมกลุ่มกบฎประเทศดังกล่าวจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย และเมื่อจบหลักสูตรการฝึกแล้ว จะส่งกลับมาปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป ๓) จากข่าวสารการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายซอรี แซะเซ็ง/อาแว แคและ ทราบว่า บุคลดังกล่าวเป็นผู้ที่มีความชำนาญด้านการรบแบบกองโจร และเคยผ่านการฝึกอบรมด้านการทหารในประเทศซีเรีย,ลิเบีย เป็นเพื่อนสนิทกับ นายนิก อัดลี นิก อับดุล อาซิส หน.กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM.) ซึ่งถูกทางการ มซ.จับกลุ่มเมื่อ ๔ ส.ค.๔๔ บุตรชายนาย นิก อับดุล อาซิส นิก มัต มุขมนตรีรัฐกลันตัน โดยทั้งสองเคยไปร่วมรบที่ประเทศอัฟกานิสถาน กับกลุ่มตาลิบัน สมัยที่อัฟกานิสถาน เป็นรัฐบาลคาบูล โดยมีสหภาพโซเวียตให้การสนับสนุน ส่วนทางด้านกลุ่มตาลิบัน มีสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุน แต่ภายหลังสู้รบชนะ โดยแยกไปปกครองตนเองได้แล้ว กลุ่มตาลิบันได้ให้ที่พักพิงต่อ นายโอซามา บินลาเดน ในประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้สหรัฐอเมริกาตัดการสนับสนุนต่อกลุ่มตาลิบันจนถึงทุกวันนี้ เพื่อนชาวไทยที่สนิทและไปร่วมรบในครั้งนั้น มีจำนวน ๑๘ คน ทราบชื่อ มีนายบือราเฮง เจ๊ะดี ราษฎรบ้านเจ๊ะดี ม.๘ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี สมาชิกกลุ่มโจรมิจฉาชีพ G.M.I.P. รับผิดชอบพื้นที่ จว.ป.น. ๔) ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า สมาชิกมูจาฮีดินมาเลซีย (KMM.) ได้หลบหนีการปราบปรามกดดันจากทางการ มซ. เข้ามาในเขตไทย จำนวน ๒๐ คน สืบเนื่องจากการขยายผลจากการจับกุมนาย นิก อัดลี นิก อับดุล อาซิส หน.กลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข่าวสาร ๕) ได้รับรายงานจากแหล่งว่า มีผู้ไม่หวังดีจะลอบก่อเหตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงที่ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ๑.๖.๕ ความสัมพันธ์ระหว่าง GMIP กับกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน จากเอกสารโฆษณาชวนเชื่อของ GMIP ซึ่งพบในเหตุการณ์ มีการสดุดีและนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการต่อสู้ของนักรบตาลีบัน/ฏอลีบันในอัฟกานิสถาน . ๑.๖.๖ ผลกระทบต่อกลุ่มโจร GMIP กรณีทางการ มซ.จับกุมสมาชิก KMM จากการที่ทางการ มซ. ได้ดำเนินการจับกุมสมาชิกกลุ่มมูจาฮีดินมาเลเซีย (KMM) ซึ่งรวมถึง นายนิกอัดลี นิกอับดุลอาซิส บุตรของนายนิกอับดุลอาซิส นิกมัต มุขมนตรีรัฐกลันตันเมื่อต้นเดือน ส.ค.๔๔ ทำให้แกนนำและสมาชิก/แนวร่วมกลุ่มโจรมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี (GMIP) ที่อยู่ใน มซ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐตรังกานู ได้ยุติการเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองใน มซ. เป็นการชั่วคราว เนื่องจากถูกทางการ มซ. เพ่งเล็ง และเกรงกลัวจะถูกจับกุมด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนของกองกำลัง GMIP ที่อยู่ในไทย ปัจจุบันยังคงปรากฏการเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่อง
Be sure to save your work often. In the event that your connection to the Internet "times out," your work will NOT automatically be saved.
Address Book
·
Alerts
·
Auctions
·
Bill Pay
·
Bookmarks
·
Briefcase
·
Broadcast
·
Calendar
·
Chat
·
Classifieds
·
Clubs
·
Companion
·
Domains
·
Experts
·
Games
·
Greetings
·
Home Pages
·
Invites
·
Mail
·
Maps
·
Member Directory
·
Messenger
·
My Yahoo!
·
News
·
PayDirect
·
People Search
·
Personals
·
Photos
·
Shopping
·
Sports
·
Stock Quotes
·
TV
·
Travel
·
Weather
·
Yahooligans
·
Yellow Pages
·
more...
Copyright © 2002
Yahoo!
Inc. All rights reserved.
Help
Terms of Service
Guidelines
Legal Disclaimers
Privacy Policy