"คำว่าบริหารเวลาเป็นคำคุ้นหู ทั้งในแวดวงคนทำงาน
รวมไปถึงนักเรียนนักศึกษา"

     ไม่น่าเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใส่ใจที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้
เวลานัก ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลมากมาย บางคนอาจบอกว่าไม่ใช่ความจำเป็นรีบด่วน
(แต่หารู้ไม่ว่า หากคุณทำอะไรก็ต่อเมื่อ "เร่งด่วน" เท่านั้น แสดงว่า
คุณบริหารเวลาไม่ดีเสียแล้ว) หลายคนคิดว่าเวลาเป็นของฟรี มีใช้อย่าง
ไม่รู้จบ หมดวันนี้แล้วก็มีวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วทุก ๆ
วันที่หมดไป ย่อมหมายถึงโอกาสที่ไม่หวนกลับมา การบริหารเวลาทำให้
ความเครียดลดลง หรือหัวข้อหนึ่งของการบริหารความเครียดก็คือการบริหาร
เวลา ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความเครียดในการทำงาน การเรียน หรือการใช้ชีวิตก็ตาม ก็สมควรเรียนรู้การบริหารเวลา

     1. วางแผนการทำงานและเป้าหมายในการทำงาน ตัวอย่างเช่น คุณได้รับ
งานมาชิ้นหนึ่ง คุณก็ตั้งเป้าว่ามันควรจะเสร็จเมื่อไร ได้ผลอย่างไร (เคร่า ๆ)
หลังจากนั้นก็วางแผนการทำงานเป็นขั้นตอนไป เช่น วันนี้จะหาข้อมูล พรุ่งนี้จะ
ติดต่อประสานงาน ฯลฯ

     2. ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานที่วางแผนไว้ ขณะที่มีเวลานิดหน่อยก็เอางานที่
จุกจิกมาทำ อย่างการเปิดดูจดหมาย การดูหนังสือเวียนในหน่วยงาน เรื่องที่
รับทราบ

     3. อย่าเอางานคนอื่นมาทำโดยไม่จำเป็น ทางที่ดีควรสอนให้คนเหล่านั้น
สามารถทำงานด้วยตนเอง โดยคุณอาจแนะนำเทคนิคบ้างเท่านั้น

     4. คุณควรมีเวลาที่ไม่ถูกรบกวน เพื่อทำงานที่ใช้ความคิดมาก ๆ ประเภท
โทรศัพท์ดังทุก 5 นาที คงไม่ไหวแน่

     5. ประเมินผลอยู่เสมอว่าคุณใช้เวลาอย่างคุ้มค่าได้ผลลัพท์หรือไม่ มี
คำกล่าวว่า ทุกคนมีเวลาเท่า ๆ กัน คือวันละ 24 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่
ทุกคนที่ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าครบ 24 ชั่วโมง

คุณบริหารเวลาได้ดีแค่ไหน

1. คุณเข้ามาในห้องทำงานพบว่ามีเอกสารหนังสือเวียนวางอยู่บนโต๊ะ
   คุณจะ
     ก. ดูรายละเอียดของเอกสารให้เรียบร้อย ทิ้งเอกสารที่ไม่จำเป็นไป
     ข. หยิบมาพลิกดูเคร่า ๆ แล้ววางไว้ กะว่าจะดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
2. อีก 5 นาที จะมีการประชุม คุณพบว่าตนเอง
     ก. นั่งอยู่ในห้องประชุม กำลังทบทวนเอกสารที่จะนำเสนอ
     ข. กำลังหาเอกสารสำคัญที่จะนำเข้าห้องประชุม
3. งานที่คุณทำอยู่เป็นประจำ
     ก. มีเรื่องเร่งด่วนฉุกเฉินค่อนข้างมาก
     ข. ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่วางแผนไว้ล่วงหน้า
4. สำหรับกิจกรรมที่คุณชื่นชอบอย่างงานอดิเรก หรือการ
   ออกกำลังกาย
     ก. ไม่ค่อยได้ทำเพราะไม่มีเวลาว่างเลย
     ข. มีเวลาว่างเป็นประจำ
5. คุณรู้สึกว่างานประจำที่ทำอยู่นั้นเยอะมาก มีเรื่องจุกจิกกวนใจ
    อยู่ตลอดเวลา
     ก. รู้สึกเป็นบางครั้ง จนต้องตัดเรื่องไม่จำเป็นทิ้งไปบ้าง
     ข. รู้สึกอย่างนั้นบ่อย พยายามแก้มานานอยู่เหมือนกัน
6. เมื่อคุณได้รับมอบหมายงานจากเจ้านาย
     ก. ลองวางแผนดูว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไร
     ข. ทำเรื่องเร่งด่วนก่อน เอาไว้ใกล้ ๆ กำหนดเวลาค่อยมาลงมือก็ไม่สาย
7. กับงานที่ต้องส่งตามกำหนด แต่คุณล่าช้าไปบ้างเนื่องจาก
   ต้องการความสมบูรณ์ของงาน
     ก. ส่งช้าแต่สมบูรณ์แบบยังดีกว่ามานั่งแก้ภายหลัง
     ข. ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก ทำให้ดีที่สุดและทันเวลาที่กำหนด
8. เมื่อมีลูกน้องหรือเพื่อนมาปรึกษาเรื่องงานของเขาที่มีอุปสรรค
     ก. รับฟัง แนะนำให้เขาไปทำในแบบที่คุณคิดว่าดีสำหรับเขา
     ข. รับปากว่าจะช่วยทำให้ แต่จะย้ำว่าครั้งนี้ครั้งเดียวนะ
9. คุณมีเป้าหมายและวางแผนในการทำงาน
     ก. ใช่ แต่มักถูกขัดจังหวะด้วยงานด่วนเสมอ
     ข. รู้ตัวว่าบางครั้งไม่ได้ทำตามแผนที่วางไว้
10. ความเครียดทำให้คุณไม่สบายอยู่บ่อย ๆ หลายครั้งทำให้
     นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเรื่องงาน
     ก. ปวดศีรษะหรือนอนไม่หลับอยู่เสมอ
     ข. เวลานอนคือเวลานอน เวลางานคือเวลางาน

     ข้อ 1, 2, 5, 6, 8   ตอบข้อ ก. ได้ 2 คะแนน      ข้อ ข. ได้ 1 คะแนน
     ข้อ 3, 4, 7, 9, 10 ตอบข้อ ก. ได้ 1 คะแนน      ข้อ ข. ได้ 2 คะแนน

     คุณกำลังติดกับดักของการเสียเวลาไปในเรื่องไม่สำคัญ คุณมักคิดอยู่เสมอ
ว่าไม่ค่อยมีเวลาอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักที (อาจเป็นคำบ่นของลูกคุณก็ได้นะ
ว่าไม่มีเวลาให้กับเขาเลย) มันทำให้คุณเครียดที่ต้องคอยไล่ตามงานให้เสร็จทัน
เวลา ความสามารถในการใช้สมองก็ดูเฉื่อยชาไป เพราะเหลือพลังงานสำหรับ
เรื่องสำคัญจริง ๆ น้อย มีคำแนะนำว่าคุณจะต้องสำรวจการใช้เวลาของคุณ
ด้วยการจดบันทึกสักหนึ่งสัปดาห์ เพื่อตรวจดูว่าคุณใช้เวลาในการทำกิจกรรม
ใดบ้างก่อนจะทำตามข้อแนะนำในบทความ

     คุณรู้จักวางแผนในการทำงานพอสมควร มันทำให้คุณจัดการกับภารกิจได้
ลุล่วงทันเวลา แต่มันไม่ใช่ทุกครั้งหรอก คุณอาจยังมีกองเอกสารกองใหญ่ที่รอ
ตรวจอยู่บนโต๊ะ ยังหมกมุ่นอยู่ในรายละเอียดเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากจนเกินไป จน
ทำให้ไม่มีเวลาไปสนใจงานชิ้นอื่น ๆ ความที่คุณเป็นคนเก่ง ก็อาจจะมีเพื่อนฝูง
หรือลูกน้องมาปรึกษาอยู่เสมอ บางครั้งคุณเผลอคิดว่าเป็นงานของคุณ อย่างไร
ก็ตาม ความรู้ตัวย่อมทำให้ปรับปรุงตนเองได้ สอนงานให้กับลูกน้องให้เขายืนได้
ด้วยตนเอง คุณจะได้มีเวลาพักผ่อนสมองเสียบ้าง

     คุณเป็นคนเก่งในเรื่องการบริหารเวลา วางเป้าหมายและแผนการทำงานได้
เป็นอย่างดี สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี สามารถทำได้อย่างเป็นฉาก ๆ มัน
ทำให้คุณมีเวลาพัฒนาตนเอง หรือแม้กระทั่งพักผ่อนหย่อนใจ คนอื่น ๆ อาจ
คิดว่าคุณนี่ช่างว่างงานเสียจริง เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีเจ้านายที่บริหารเวลาไม่เป็น
แล้ววัดผลงานของบุคลากรด้วยการดูว่าเขา "ยุ่ง" กับงานมากน้อยแค่ไหนแล้ว
ละก็ คุณก็ควรแสดงว่าคุณยุ่งไปกับงานเสียบ้าง