ในสมัยคริสตวรรษที่ 18 W. Lewis
นักเคมีชาวอังกฤษเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่เรียกโลหะเช่น
ทองคำ แพลททินัม พัลลาเดียม ฯลฯ ว่าเป็นโลหะมีตระกูล
(noble metal) เพราะโลหะเหล่านี้เชื่องช้า
ไม่กระตือรือร้นในการทำปฏิกิริยาทางเคมีกับธาตุอื่นๆ
เลย
นั่นเป็นเรื่องในอดีต แต่ในปัจจุบัน
นักเคมีกำลังประสบความสำเร็จในการนำโลหะมีตระกูลเหล่านี้
มาทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่นๆ
เป็นสารประกอบที่สามารถใช้เป็นวัสดุชนิดใหม่ๆ
ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติ
ปฏิรูปวงการเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย
วิธีหนึ่งที่ใช้ในการสังเคราะห์วัสดุที่ประกอบด้วยโลหะมีตระกูลเป็นดังนี้
นักเคมีจะเผาโลหะในเตาสุญญากาศ
จนกระทั่งอุณหภูมิร้อนจัดถึง 5,000 องศาเซลเซียส
ที่อุณหภูมิสูงเช่นนี้ โลหะจะระเหยเป็นไอ
อะตอมที่มีสภาพเป็นไอมีสมบัติทางเคมีแตกต่างจากอะตอมของธาตุเดียวกันที่อยู่ในสภาพของแข็ง
ก็เช่นกันเวลาอยู่คนเดียวกับเวลาอยู่กันหลายคน
จะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
ฉันใดก็ฉันนั้น
อะตอมที่อิสระเหล่านี้จะเคลื่อนที่ว่องไวและพร้อมที่จะทำปฏิกิริยาเคมีกับอะตอมอย่างอื่นๆ
ดังนั้นเวลามันปะทะละอองแก๊สอื่นๆ เช่น
คาร์บอนหรือไฮโดรเจน มันจะจับตัวกัน
และเมื่อมันลอยไปปะทะผนังที่เย็นจัด
กลุ่มอะตอมจะกลั่นตัวจับแข็งเป็นสารประกอบชนิดใหม่
นักเคมีใช้เทคนิคนี้ในการทำสารประกอบ
mercurochrome (ยาแดง) สาร tetraethyl
ที่ใช้ในน้ำมันรถยนต์ป้องกันการน๊อก
และ alkyls ที่ใช้ในยาฆ่ารา เป็นต้น
ส่วน krypton
ซึ่งเป็นแก๊สมีตระกูลนั้นก็เช่นกัน
ในตามปรกติอะตอมของ Krypton จะอยู่