คนอีสาน
อีสานมีคนอยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อาจมีอายุถึงหมื่นปี สันนิษฐานจาก เครื่องมือเครื่องใช้ ประเภทหินซึ่งพบทั่วไป บริเวณฝั่งแม่น้ำโขง
จนกระทั่งเมื่อ 5,600 ปีก่อนโน้น มีหลักฐานยืนยันว่าคนอีสานโดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในแอ่งสกลนคร เริ่มอยู่กันเป็นชุมชน โดยเลือกชัยภูมิที่เป็นเนินดิน น้ำท่วมไม่ถึง แต่มีน้ำไหลผ่าน หรือมีแอ่งน้ำอยู่ไม่ไกลนัก และมีที่ราบ เพื่อใช้เพาะปลูก
หลักฐานทางโบราณคดีชี้ให้เห็นว่าคนอีสานรุ่นนั้นอยู่รวมกันภายใต้ระเบียบของสังคม รู้จักเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ มีการค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้า มีการทำเครื่องประดับต่างๆ มีความเชื่อทางแบบแผนพิธีกรรมต่างๆ
นักโบราณคดีจัดให้คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มชนสังคมกสิกรรม ในราว 3,600-2,000ปีมาแล้ว มีการใช้เหล็กในการทำการเกษตรต่างๆ ทำให้เกิดการขยายตัวของชุมชนใหม่ๆตลอกเวลา มีหลักฐานระบุว่ามีชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ไม่น้อยว่า 500แห่ง ทั้งในอีสานเหนือ และอีสานใต้
ตอนปลายของสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในราว 2,000 ปีมาแล้ว หรือในราวพุทธศตวรรษที่10 โดยเฉพาะเรื่องของศาสนา นักประวัติศาสตร์เรียกตามลักษณะศิลปะกรรมว่า "สมัยทวาราวดี" พบหนาแน่นมากที่สุดในลุ่มน้ำชีในอีสานตอนบน
ในระยะเวลาเดียวกัน พื้นที่อีสานตอนล่างแถบแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง มีร่องรอยของอิทธิพลอินเดีย และศาสนาฮินดู ซึ่งได้อิทธิพลจากอาณาจักรเจนละ ในลาวและกัมพูชาในปัจจุบัน
ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15-18 อีสานได้รับอิทธิพลงจากอาณาจักรกัมพูชา เป็นผลมาจากความเชื่อในศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธแบบมหายานกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป เรียกว่า "ศิลปะเขมรโบราณ" หรือบางครั้งเรียกว่า "ศิลปะลพบุรี"
ในพุทธศตวรรษที่ 19 คนอีสานได้รับวัฒนธรรมจากคนลาว วัฒนธรรมนี้เผยแพร่เข้าสู่อีสานพร้อมๆกับการเจริญของ อาณาจักรล้านช้าง ต่อมาเมื่ออาณาจักรล้านช้างแตกแยก คนลาวก็อพยพมาที่ภาคอีสาน และมีการผสมผสานวัฒนธรรมเดิม ทำให้มีประเพณีอีสานสืบต่อมาจนปัจจุบัน