Health Tips
by ~nawo~ [Feb 3, 2003] |
รวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อสุขภาพค่ะ เรื่องน่ารู้ ที่ทุกคนควรต้องรู้ ลองอ่านดูค่ะ
หัวข้อที่เอามาให้อ่านกันนี้ เป็นข้อมูลที่นาวคิดว่าความน่าเชื่อถือ บางส่วนมาจากการหาข้อมูลหลายๆแห่ง บางส่วนมาจากประสบการณ์ทั้งจากตนเองและคนที่รู้จัก และสุดท้ายก็มาจากความรู้ที่เรียนมาค่ะ
MENU | |
Sunscreen Tips (คลิก เพื่อไปดูที่หน้า Sun Safety Info ค่ะ) | |
1. | น้ำต้ม, น้ำกลั่น, น้ำกรอง, น้ำ RO และน้ำ DI ต่างกันอย่างไร แบบไหนควรดื่ม ไม่ควรดื่ม [Feb 3, 2003] |
2. | วิธีการตรวจสอบมะเร็งผิวหนังด้วยตนเอง [Feb 3, 2003] |
3. | I.U. ในวิตามิน คืออะไร [Feb 6, 2003] |
4. | วัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร [Feb 6, 2003] |
1. น้ำต้ม, น้ำกลั่น, น้ำกรอง, น้ำ RO และน้ำ DI ต่างกันอย่างไร แบบไหนควรดื่ม ไม่ควรดื่ม | |
น้ำต้ม
คือการนำน้ำประปาไปต้มจนน้ำเดือด
ซึ่งคือที่อุณหภูมิ
100
องศาเซลเซียส
ดังนั้น
เชื้อโรคที่ทนความร้อนได้น้อยกว่า
100
องศาเซลเซียส
ก็จะตายไป
น้ำกลั่น คือการนำน้ำไปต้ม จนระเหยกลายเป็นไอ แล้วปล่อยให้น้ำควบแน่นกลับมาเป็นของเหลวอีกครั้ง หลักการก็คือสิ่งที่ไม่ระเหยกลายเป็นไอ ก็จะเหลือทิ้งอยู่ ไม่ได้ไปรวมกับน้ำที่ควบแน่นกลับลงมา ดังนั้น น้ำนี้จะสูญเสียแร่ธาตุต่างๆที่มีอยู่ไป แต่สำหรับเชื้อโรค ก็จะเหมือนกันน้ำต้ม เพราะกระบวนการเกิดที่ 100 องศาเซลเซียสเหมือนกัน น้ำกรอง จะมี 2 ลักษณะ คือ กรองด้วยคาร์บอน กับ กรองด้วย UV การกรองด้วยคาร์บอน คาร์บอกจะช่วยดูดซับกลิ่นและรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งคลอรีน ออกไป คาร์บอนที่ใช้ มี 2 แบบ คือ Solid Block Carbon กับ Granular Activated Carbon ซึ่งแต่ละแบบ จะมีข้อดีและเสีย ต่างกันไป การกรองด้วย
UV
เป็นการใช้รังสียูวี
เพื่อฆ่าจุลชีพ
หรือเชื้อโรคต่างๆที่อยู่ในน้ำ
โดยการไปตัดวงจรการแพร่พันธุ์ของจุลชีพเหล่านั้น น้ำ RO (Reverse Osmosis) คือ การกรองโดยใช้ membrane ภายใต้ความดันค่ะ ซึ่งเมมเบรนนี้จะรูเล็กมากๆพอแค่ให้โมเลกุลของน้ำผ่านไปได้เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งเจือปนจะผ่านไม่ได้ รวมถึงแร่ธาตุต่างๆก็จะถูกกำจัดออกไปด้วย เป็นระบบการทำความสะอาดน้ำดื่มตามบ้านที่ปัจจุบันใช้กันโดยทั่วไป ส่วนตัวนาวว่าน้ำ RO ดื่มได้ไม่อันตรายค่ะ สะอาดด้วย แต่ก็จะไม่ได้รับแร่ธาตุที่มีประโยชน์ที่อยู่ในน้ำ น้ำ DI ( De-ionization) เป็นการแยกประจุของสิ่งเจือปนออกจากโมเลกลของุน้ำ (recharge) โดยใช้คอลัมน์ที่มี ion exchange media บรรจุอยู่ เพื่อทำให้น้ำบริสุทธิ์ น้ำที่ได้จะบริสุทธิ์มากๆๆ (ultra pure water) จากการที่น้ำ DI บริสุทธิ์มากๆนี้ ประกอบกับกระบวนการที่ทำให้มันสะอาด ซึ่งต้องนำน้ำเข้าไปผ่านในตัวกลางซึ่งเป็น Sodium Hydroxide ซึ่งเป็นด่าง ทำให้มีการถกเถียงอย่างมาก ว่าน้ำนี้สมควรนำมาใช้ดื่มหรือไม่ เนื่องจากน้ำ DI มีความบริสุทธิ์มาก มันจึงอาจจะกลายสภาพเป็นตัวทำละลายชั้นเยี่ยม เมื่อเราดื่มเข้าไปก็จะส่งผลให้แร่ธาตุที่อยู่ในร่างกายเข้าไปละลายอยู่ในน้ำนี้แทน ร่างกายเราก็จะเสียแร่ธาตุ และเกิดภาวะ osmotic shock ได้ ความเห็นส่วนตัวคือ
น้ำ DI
เหมาะที่จะเอาไปใช้ในทางวิทยาศาสตร์
ทางวิศวกรรม
หรือ
การแพทย์ที่ต้องการความบริสุทธิ์สูง
มากกว่านำมาดื่มค่ะ |
|
References:
http://www.eng-tips.com/gviewthread.cfm/lev2/7/lev3/37/pid/798/qid/29596
http://www.rinsepure.com/DI%20Water%20Explanation.html http://www.finishing.com/156/65.html http://www.rdmag.com/basics/0108basl.asp |
2. วิธีการตรวจสอบมะเร็งผิวหนังด้วยตนเอง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
A STEP-BY-STEP GUIDE TO SKIN SELF-EXAMอย่านึกว่าคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง มีแค่คนผมบลอนด์ ผิวขาม ตาสีฟ้าเท่านั้น เพราะที่จริงแล้วทุกคนมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ทั้งนั้น ต่อไปนี้คือวิธีการตรวจสอบผิวหนังด้วยตนเอง ให้ทำเดือนละครั้ง คุณจะสามารถเห็นความผิดปกติของการเกิดเนื้อร้ายได้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งยังมีโอกาสรักษาให้หายได้สูง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
References: http://www.vsd.cape.com/~falcoawm/va-skincare.htm |
3. I.U. ในวิตามิน คืออะไร | |||||||
I.U.
ย่อมาจากคำว่า
International Units
เป็นหน่วยของ
biological material เช่น enzymes, hormones,
vitamins, etc. ตัวอย่างข้างล่างแสดงวิตามินในหน่วย milligrams (mg) or micrograms (µg) ที่ equivalent กับ 1 international unit.
|
|||||||
References: http://newton.dep.anl.gov/askasci/chem99/chem99136.htm |
4. วัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร | |
ข้อความด้านล่าง copy มาจากเวบไซต์ของ อ.ย. คิดว่าน่าสนใจดีค่ะ หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิษภัยอันเกิดจากวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร กรุณาคลิกที่ reference ด้านล่างค่ะ ชนิดของวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร วัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร 12 ชนิด ได้แก่
|
|
References: http://vm.cfsan.fda.gov/~dms/flg-7a.html |