การปรับโครงสร้างกองทัพ
ความฝันหรือ การพัฒนาสู่สุดยอด
ประเทศไทยในอดีตมีความเกี่ยวพันกับกองทัพเป็นอันมาก โดยเฉพาะการต่อสู้
เพื่อเอกราช และ อธิปไตย บูรณภาพ
แห่งดินแดน ความจำเป็นที่จะต้อง มีกองทัพเป็นเสมือนบ้านที่ต้องการรั้ว กองทัพไทยเป็นกองทัพที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่สมัยเริ่มของการทหารสมัยใหม่
ในยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการนำเอาระบบต่าง ๆ เข้ามาใช้มากมาย
สมัยเริ่มต้นของการทหารสมัยใหม่การแบ่งแยกกองทัพยังไม่มีอย่างเด่นชัดทุกส่วน คือ
กองทัพไทย แต่ต่อมาเริ่มมีการแยกกันอย่างเด่นชัดขึ้นมาตามกาลเวลา
กองทัพไทยเริ่มใหญ่ขึ้นมีความซับซ้อนมากขึ้น ส่วนที่ใช้เครื่องบินก็เริ่มแยกมาเป็น
กองทัพอากาศ ส่วนที่ใช้เรือก็แยกออกมาเป็นกองทัพเรือ เมื่อเริ่มมีการแยก
ก็เริ่มมีการแบ่งพวก ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ทำให้เกิดทั้งข้อดีและข้อเสียมากมาย
เมื่อมีการแบ่งทำให้เกิดความชำนาญเฉพาะทางมากขึ้น แต่เมื่อใดที่มีการแบ่งแยก
การประสานงานก็ยากขึ้นด้วย ทุกคนล้วนมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ ในส่วนของตน
ทหารอากาศก็ปกป้องหน่วยฟ้า ทหารเรือก็ปกป้องน่านน้ำ ทหารบกก็ปกป้องแผ่นดิน
จนในบางครั้งลืมไปว่าเรากำลังปกป้องในสิ่งเดียวกัน คือประเทศไทย ในทางทฤษฎีการป้องกันประเทศ มีไว้อย่างสวยหรู ต้องสนธิกำลังกัน มี
โรงเรียนเสนาธิการทหาร
ที่ฝึกการปฏิบัติงานร่วมกัน
แต่ในทางปฏิบัติมีน้อยมากที่จะทำการฝึกร่วมกันในสิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติจริง
จะมาอ้างเรื่องงบประมาณก็ไม่ได้ เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตการทางการเงิน
มีงบเพียงพอ แต่กองกทัพ ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าก้มตาฝึก
ไปไม่หันมาทำงานร่วมกันมากเท่าที่ควร
ผลที่ออกมาและเป็นสิ่งที่เตือนให้กองทัพไทยได้รู้สึกตัว คือเหตุการณ์บ้านร่มเกล้า
ทำให้ต้องมีการฝึกการประสานงานระหว่าง
กองทัพ แต่ก็เหมือนไฟไหม้ฟาง
การเรียนรู้งานของกันและกันในระดับผู้ปฏิบัติจริง ๆ มีแต่การฝึก มีหรือไม่มี
แต่เพียงในหลักสูตร ถ้าไม่มีการฝึกร่วมต่างประเทศการฝึกคงจะไม่มี
ระบบการติดต่อสื่อสารของอากาศยาน และภาคพื้นมีการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ประสบการณ์ ในการฝึกร่วมของทหารไทยยังต่ำ
การสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด การใช้อากาศยานในการโจมตี ก่อนทำการเข้าตี
ตั้งแต่ตั้งหลังสงครามกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ สิ้นสุดลง
กองทัพอากาศมามีการฝึกปฏิบัติร่วมกับหน่วยทหารจริงจังไม่กี่ครั้ง
แต่ที่รู้กันอยู่มีว่าครั้งเดียวที่มีการปฏิบัติจริงและดัง
ๆจนได้บทเรียนที่หลายคนลืมไปแล้ว
ตราบใดที่ยังไม่มีการประชุมกันอย่างจริงจัง
ในการป้องกันประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ไม่ใช่ต่างคนต่างวาดรูปแล้วมาประกอบกันขัดเกลาในห้องปรับอากาศ
ออกมาเป็นแผนที่สวยหรูแต่ทำไม่ได้ ที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง
ที่ต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองฝ่าย
ในปัจจุบันหาลองสมมติสถานการณ์
ว่ามีกองกำลังบุกเข้ายึดพื้นที่ตามแนวชายแดน และ กองกำลังต้องการใช้
ถ้าต้องใช้กำลังทางอากาศลึกเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการฝ่ายข้าศึก ในขณะที่กองกำลังทบ.วางแผนที่จะรุก เพื่อยึดพื้นที่
กลับคืน ใครจะเป็นผู้ที่ชี้เป้าให้กับอากาศยาน ... เป้าหมายในพื้นที่ ป่าภูเขา
ไม่ใช่เรื่องง่ายในการ พิสูจน์ทราบ ส่วนเป้าหมายในเมืองก็อุดมไปด้วย
อาวุธต่อสู้อากาศยาน
ที่ไม่สามารถให้นักบินใช้อาวุธได้อย่างหมูๆเหมือนที่สนามฝึกใช้อาวุธชัยบาดาล ...ผบ.ทบ
กับ ผบ.ทอ จะไปอยู่ที่ไหน เราจะใช้ที่ไหนเป็นที่บัญชาการ
....เพื่อให้สามารถมีการประสานงานกันอย่างเป็นรูปธรรม
.นี่เป็นเรื่องสมมติที่ไม่ค่อยมีใครสมมติกันแต่ว่าเป็น
หนทางปฏิบัติที่ต้องเกิดถ้ามีเหตุการณ์
จริงและกองทัพก็เป็นหน่วยงานเดียงที่ต้องรองรับเรื่องนี้ จะให้ตำรวจ
หรือกรมชลประทาน หรือ กระทรวงมหาดไทยมาช่วยไม่ได้ แน่.. นี่คือโจทย์ ที่นำมาสู่
สภาวะปัจจุบันที่งบประมาณกองทัพถูกลดลง ตามกระแสโลก
(จะมาเพิ่มอีกทีก็ตอนจะมีสงคราม )
การจัดและปรับกำลังให้มีเอกภาพและเกิดประสิทธิภาพสุด
เป็นส่งที่ทุกหน่วยต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะงบประมาณที่จำกัดลง
สิ่งหนึ่งที่ต้องมีการปรับคือ
การสนธิหน่วยงานที่ซ้ำซ้อนหรือเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ใกล้เคียงกัน
ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้
ที่ผ่านมาโดยหลักการคือ ทุกกองทัพต้องมีการมีความสมบูรณ์ในตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็น หน่วยส่งกำลัง หรือที่เรียกว่า พลาธิการ ส่วนที่ทำหน้าที่สื่อสาร
สรรพวุธ โรงเรียนที่ฝึกความสามารถเฉพาะทาง เช่น โรงเรียนสอนการกระโดดร่ม
ทีมีอยู่ในทุกเหล่าทัพไม่เว้นแม้กระทั่งกรมตำรวจ ที่อาจจะต้องยกให้เพราะ
อเมริกันมาสร้างรากฐานไว้ มีหลายส่วนมีหน้าที่คลายกัน ยกตัวอย่างเช่น
หน่วยพลาธิการ
มีสิ่งอุปกรณ์ที่คล้ายกัน เช่นรองเท้า เสื้อผ้าที่ต่างกันแค่สี
และรายละเอียดเล็กน้อย สิ่งตาง ๆ
เหล่านี้บางครั้งสามารถให้ร่วมกันได้ การจัดซื้อจัดหาเป็นของจำนวนมาก
ย่อมสะดวกและถูกกว่า ลดปริมาณเจ้าหน้าที่ลงได้ มีความจำเป็นแค่ไหนที่ทหารอากาศต้องใส่ชุดฝึกสีน้ำเงิน
ทหารเรือต้องใส่สีพรางแบบหนึ่ง ทหารบกใส่แบบหนึ่ง สีต้องแบบนี้ แบบนั้น ขอถามว่า
ทหารนาวิกโยธินไทย กับทหารบกไทย รบในภูมิภาคเดียวกันหรือไม่ คำตอบคือ รบในพื้นที่
ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะรวมงบประมาณของสามเหล่าทัพในการจัดหาเสื้อผ้า
จัดทำขึ้นมาเป็นสีของกองทัพไทย โดยใช้เทคโนโลยี
วิเคราะห์จากสีโดยรวมของพื้นที่ปฏิบัติการส่วนใหญ่
ตัวอย่างของสีพรางของบางประเทศใช้วิเคราะห์จากภาพถ่าย ดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศ
และนำมาประมวลหาสีโดยเฉลี่ยของพื้นที่ ออกมาเป็นสีพรางมาตรฐานของกองทัพสามารถใช้ในพื้นที่ทั่วไปได้
แต่หากต้องไปในพื้นที่ที่แปลกออกไปจะเป็นสีที่ทำมาพิเศษเช่น สีพรางสำหรับหิมะ
เพียงเท่านี้ก็สามารถได้สีที่เป็นมาตรฐานได้ ทั้งกองทัพ แต่อุปสรรคประการสำคัญคือ
คน ความไม่ยอมกันของแต่ละเหล่าทัพ ข้ออ้างนา นา ประการ ผลประโยชน์ในการจัดหา ฯลฯ
ในด้านของส่วนที่ให้ความรู้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนการบิน .
โรงเรียนฝึกการกระโดดร่มร่ม . หน่วยที่ฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ตัวอย่างแรกที่จะพูดถึงคือโรงเรียนการบินก่อน
คือต้องกล่าวถึงที่มาคือความต้องการที่จะสมบูรณ์ในตัวเองของกองทัพ กองทัพบก
มีศูนย์การบินทหารบก ทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่ ทั้งที่การบินของทหารบกมีมานานกว่า
ทหารอากาศแต่ความเจริญ ต่างจากกองทัพอากาศ
ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเป็นเพราะว่าความใหญ่โตเกินไป เหมือนครอบครัวที่มีลูกมาก
ทำให้สิ่งที่ต้องนำมาหล่อเลี้ยง ที่มีความจำเป็นในการพัฒนา ไม่เพียงพอ
การที่นำมารวมกัน จะทำให้ งบประมาณที่เคยเป็นเบี้ยหัวแตก เป็นก้อนมากขึ้น
อาวุธที่ได้จะได้มีความทันสมัยขึ้น
การบินส่วนใหญ่เป็น เรื่องของเทคโนโลยี ที่ต้องการพัฒนา และติดตามตลอดเวลา
การส่งกำลังเป็นสิ่งหลักประการหนึ่ง ที่ทำให้บรรดาเครื่องบินทั้งหลายยังคงปฏิบัติการได้เป็นอย่างดี สิ่งที่กองทัพบกต้องการบินทหารบก
คือการสนับสนุนกำลังทางพื้นดินเป็นหลักซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ ในสภาพปัจจุบัน
การปฏิบัติการประสานงานในการฝึกการปฏิบัติการต่าง ๆ (ก่อนหน้าวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ) ต้องยอมรับว่าไม่ดีเท่าที่ควร
การวางแผนการปฏิบัติการแต่ละครั้งในระดับฝ่ายอำนวยการไม่ค่อยจะมีนักบินมาร่วมในการวางแผนมาก็มาบินเลย
บางคนสักแต่ว่าบินไม่รู้ว่าทำอะไรด้วยว่ารู้แต่ว่าปล่อยนักกระโดดร่ม
รู้แต่ว่าบินไม่รู้เลยว่าลงไปทำอะไร, ข้อจำกัดขีดจัดกัดยิบย่อย
ของอากาศยานนอกตำรามีมากมายจนดูเหมือนขาดมาตรฐานในการดูแลรักษาปรนิบัตรบำรุง
การยุทธส่งทางอากาศ เรามีทหารราบส่งทางอากาศ มีการวางแผนการยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศ
ส่งที่ทำการฝึก คือกำลังภาคพื้นในส่วนของนักบินไม่ได้มีการวางแผนร่วม
ไม่มีการฝึกการยุทธการบินทางยุทธวิธีร่วมกัน ไม่มีแผนฉุกเฉินที่อากาศยานต้องปฏิบัติร่วมกับกำลังภาคพื้น
โดยปกติการบินทางยุทธวิธี นักบินจะไปฝึกต่างหาก ไม่ทราบด้วยเหตุผล
ความยากลำบากประการใด ไม่สามารถปฏิบัติร่วมกันได้บ่อย ๆ
ไม่มีความพยายามที่จะหันหน้าเข้าหากัน การฝึกบินต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องลำเลียง
เป็นที่นินทาอย่างสนุกปากว่า ไปเชียงใหม่ ขนลำใย ไปหาดใหญ่ขนเหล้าเรดเลเบิ้ลมาขาย
การรบคงไม่ต้องการบินเดินทางเท่าใดนัก หลายครั้งที่เครื่องปฏิเสธ
ภารกิจอย่างมีข้อสงสัย
ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกภารกิจในช่วงเช้าวันจันทร์
หรือเย็นวันศุกร์ ความเป็นอยู่ที่แตกต่าง
นักบินต้องนอนโรงแรมนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับเพราะต้องการความสดในการปฏิบัติภารกิจ
แต่ก็เป็นที่รู้กันโดยนัยว่า ยังมีนักบินที่ไร้วินัยบางคน ดื่มก่อนปฏิบัติภารกิจ
ละเมิด กฏนิรภัย อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เป็นที่มาของการยกเลิกบางภารกิจ
ในส่วนของการประสานอากาศยาน หากเป็นต่างเหล่าทัพ
ย่อมมีความซับซ้อนมากขึ้น
ภารกิจของกองทัพต้นสังกัดย่อมสำคัญกว่า ไม่ว่าจะเป็นภารกิจอะไร
เช่นการฝึกกระโดดร่มทางยุทธวิธี ที่ในการแทรกซึมเข้าพื้นที่
ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจในการยุทธ กับ ภารกิจด่วนขนของทางธุรการของ
ผู้บัญชาการทหารอากาศ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะต้องยกเลิกภารกิจใด
ความยุ่งยากในการประสานงานเป็นสิ่งหนึ่ง ทำให้ต้องมี ศูนย์การบินทหารบก หากกำจัดกำแพงดังกล่าวได้ ให้งานด้านการบินเป็นของ ทหารอากาศ อย่างเดียว ซึ่งอาจจะเรียกเป็นหน่วยบิน กองทัพ
( หาชื่อเรียกใหม่
ที่น่าจะลดความแบ่งแยกได้บ้าง )
โรงเรียนการบินสามารถที่จะรวมกันได้
ระบบการส่งกำลังก็สามารถที่จะใช้ร่วมกันได้ ระบบการป้องกันฐานบินก็
โดยให้ระบบการป้องกันฐานบินเป็นความรับผิดชอบ ของส่วนภาคพื้น (ทบ.)
ทุกสิ่งกล่าวถึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกระทำ
มีเรื่องมากมายมหาศาลที่ต้องแก้ไขปรับปรุง แต่สิ่งได้รับคือ
การบินที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ความประหยัด และกองทัพบกก็ลดความอุ้ยอ้ายลง
อีกหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทมากขึ้นทุกวันคือในเรื่องของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ซึ่งเป็นหน่วยที่ตอบสนองคำว่า เล็กแต่มีประสิทธิภาพ
หน่วยปฏิบัติการพิเศษของทุกเหล่าทัพจะผลิต บุคลากรที่มีประสิทธิภาพสูง
เนื่องจากต้องการคุณภาพสูง จึงสามารถ หน่วยปฏิบัติการพิเศษของไทย
เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ มีการฝึกฝน
รับเทคโนโลยีทางทหารมาอย่างมากมายทั้งขีดความสามารถ และทำงานเป็นหน่วยที่มีคุณภาพ
ความซับซ้อนแบบก่ำกึ่งมีอยู่เช่นกัน ยกตัวอย่างในเรื่องของหลักสูตร การลาดตระเวน
ซึ่งในพื้นฐาน มีหลักการใกล้เคียงกันมาก
จนแยกแทบไม่ออกต่างกันเพียงภูมิประเทศที่ปฏิบัติ ความเน้นหนัก
การจุดระเบิดที่วัสดุอุปกรณ์ เทคนิคไม่ต่างกันเท่าใดนัก การรบประชิด
หรือที่เรียกว่า ซีคิวบี หลักการพื้นฐานเดียวกัน อาวุธที่ใช้ต้องการคุณลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก
แต่หากกระทำได้แล้วจะเกิดประโยชน์สูงสุด
ประโยชน์อีกอย่างคือการ
ที่จะตอบสนองปัญหาการก่อการร้ายสากลที่จะเกิดขึ้นเมื่อไรไม่มีใครรู้
การปฏิบัติการดังกล่าวต้องใช้บุคลากรมากในการ ปฏิบัติงานในหนึ่งภารกิจ ความเป็นหนึ่งเดียวมีความจำเป็นมากในหน่วยงานดังกล่าว
การปฏิบัติงานจริงไม่เหมือนในภาพยนตร์ที่มีกลุ่มพระเอก แค่ หก เจ็ดคน วางแผนเตรียมเข้า
และเข้าไปปฏิบัติและเป็นฝ่ายชนะทุกครั้ง ในความเป็นจริงต่างกันมาก
ในปัจจุบันการปฏิบัติการพิเศษในเรื่องของการต่อต้านการก่อการร้ายสากล
มีการฝึกร่วมกันอยู่เสมอ แต่มันคงจะดีกว่าถ้าทุกคนรู้สึกว่าเป็นหน่วยเดียวกัน
ความใกล้ชิดจะมีมากกว่า แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่บอกไว้ในทุกหัวข้อที่ผ่านมาคือ
มันเป็นการยาก
ที่จะนำเอาคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงมารวมกันแล้วต้องมีใครคนใดคนหนึ่งยอมกัน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องจัดหาวิธีการที่เหมาะสม
แนวความคิดในการรวมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
เป็นแนวความคิดที่หลายประเทศคิดจะทำเพราะสามารถลดต้นทุนการผลิต
และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหน่วยได้เป็นอย่างดี
แตลายละเอียดการปรับเปลี่ยนนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ในชั่วอายุคน การจะทำให้ลดขนาดกองทัพให้กะทัดรัด
และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในสหรัฐก็มีแนวความคิดดังกล่าว
แต่ทุกหน่วยมีเกียรติประวัติอันยาวนาน ไม่อยากให้ชื่อของตนลบเลือนหายไป
ความภาคภูมิใจหายไป
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หน่วยเหล่านี้ดำรงอยู่ได้
แต่เมื่อหันกลับมามองสภาพ การที่เปลี่ยนแปลงไป กองทัพทุกแห่งถูกลดงบประมาณลง
นั่นหมายถึงจะต้องทำตัวเองเล็ก หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เป็นหน่วยที่ขนาดเล็กอยู่แล้ว
ต้องทำให้ตนเองกะทัดรัดมากขึ้นต้องเสียสละบางอย่าง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อย ในหลายองค์กร
การรวมกันมีประโยชน์มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของงบประมาณที่จะสามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ทุก ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน ลดความมี ทิฐิ
ลดความเห็นแก่พวกพ้องเห็นแก่ลูกน้องตนเอง เห็นแก่ผลประโยชน์ เสียสละ พวกเราก็เริ่มต้นกันได้
เริ่มจากการประสานงานที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นนึกถึงเสมอว่า เราต้องทำงานร่วมกัน
รบกับศัตรูเดียวกัน
การฝึกร่วมเหล่าทัพเป็นเพียงจุดเริ่ม
ต้นที่ดีอย่างหนึ่งในการปรับตัวเข้าหากันเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงโครงสร้างและแนวทางปฏิบัติของกองทัพเพื่อให้สามารถป้องป้องพื้นแผ่นดินไทยได้จริงๆ อย่าให้ต้องมีบทเรียนเพิ่มเติม
เพื่อเตือนความจำของนักเรียนขี้ลืมคนนี้อีกเลย
การปรับโครงสร้างกองทัพเป็นสิ่งที่ดีและเป็นไปได้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนัก, น่าเป็นความฝันที่ทหารอาชีพทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกัน
เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของชาติ ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลง
และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นการสืบทอด เจตนารมณ์ ของเหล่านักรบไทยในอดีต
ที่ได้พลีชีพ เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองได้อยู่รอดปลอดภัย และจะต้องดำรงอยู่ตลอดไป