พระศรีพนมมาศ
"
คนดีเมืองลับแล"

  

  

  

      พระศรีพนมมาศเป็นนายอำเภอลับแลที่ได้สร้างคุณความดีให้แก่อำเภอลับแลและบ้านเมืองเป็นอันมาก จึงควรที่จะนำเอาประวัติและผลงานของทานมากล่าว เพื่อเป็นเกียรติประวัติ แลเป็นตัวอย่างตามลำดับต่อไป
     พระศรีพนมมาศเดิมชื่อ นายทองอิน มีบิดาเป็นชาวจีน ชื่อตั้วตี๋ แซ่ตัน มีมารดาชื่อ นิ่ม เป็นชาวอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พระศรีพนมมาศเกิดที่บ้านยางกะได เมืองลับแลเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๔ เมื่อเล็กๆ บิดามารดาได้ยกให้เป็นลูกของหลวงพ่อน้อย วัดป่ายาง หลวงพ่อน้อยได้ตั้งชื่อให้ว่า "ทองอิน" เมื่อมีอายุได้ ๑๒ ปี บิดามารดาก็นำไปฝากวัดไว้โดยอยู่กับหลวงพ่อต้นวัดน้ำใสเพื่อให้เข้าศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุครบที่จะบวช ได้อุปสมบทที่วัดน้ำใส ในเมืองลับแล ๑ พรรษา แล้วสึกออกมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ
     อาชีพเริ่มแรกของนายทองอินคือการค้าขาย เริ่มต้นแต่หาบแร่ของไปชายยัง ชุมชนต่างๆ ในท้องที่อำเภอลับแล และบางครั้งก็ไปจนถึงอำเภอหาดเสี้ย ซึ่งได้แก่ศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน ทำอยู่ ๕ ปี ก็ได้เข้าทำงานเป็นนายอากรโรงต้มกลั่นอำเภอหาดเสี้ยว เป็นเวลานานถึง ๑๐ ปี กิจการเจริญขึ้นเป็นลำดับ จนมีคนรู้จักและนับหน้าถือตาเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้น
     นายทองอิน มีภรรยาหลายคน แต่ไม่มีบุตรเลยนอกจากจะมีบุตรบุญธรรม ซึ่งนำมาเลี้ยงไว้หลายคน เท่าที่พอจะสืบทราบมาได้ก็ เช่น ขุนอำไพพานิช (บุย สีหาอำไพ) ซึ่งเป็นบิดาของหลวงนิตย์เวชวิศิษย์ นายกฤษณ์ อินทโกศัย หลวงพรรณานิคมเขต นายบ้วน อินทชัยศรี และนายประวิทย์ ธรรมโกวิทย์ เป็นต้น
     นายทองอิน เป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้ายิ่งกว่าคนอื่นในเขตเดียวกัน เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองอุตรดิตถ์ และเมืองลับแลเมื่อวันที่ ๒๓ ถึง ๒๖ ตุลาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๔๔ ทางอำเภอลับแลได้ตั้งพลับพลารับเสด็จบนม่อนจำศีล นายทองอินได้เป็นหัวหน้าคนสำคัญในการรับเสด็จในครั้งนี้ โดยจัดขบวนแห่บ้องไฟ และปราสาทผึ้ง มีช้างแห่ไปในขบวนถึง ๒๕ เชือก และมีการแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง พระแท่นศิลาอาสน์ด้วย
     ในการเสด็จประพาสจังหวัดอุตรดิตถ์และเมืองลับแลในครั้งนี้ นายทองอินได้จัด การรับเสด็จเป็นที่พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ งและได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทด้วยความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทราบข่าวการได้ทำงานต่างๆ ซึ่งเป็นการทำงประโยชน์ให้กับประเทศ เช่นการสร้างถนน การสร้างเหมืองฝายของ นายทองอิน อีกทั้งทราบนิสัยของนายทองอินอีกด้วย ว่าเป็นคนดีราษฏรรักใคร่ นับถือมากสมควรที่จะได้ความชอบเป็นพิเศษ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายทองอิน เป็น ขุนพิศาลจีนะกิจ
พระราชทานพนนสายที่นายทองอินเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดสร้างเสด็จว่า ถนนอินใจมี
     
ต่อมาในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ปีพุทธศักราช ๒๔๔๗ นายทองอินได้รับการเลื่อนบรรดาศักดิ์และพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงศรีพนมมาศ ตำแหน่งเจ้าเมืองลับแล ขึ้นตรงต่อเมืองพิชัย ถือศักดิ์นา ๑๐๐๐ ไร่ ได้บังคับบัญชาปลัดยกกระบัตรกรรมการเมืองและบรรดาราษฏรอยู่ในแขวงเมืองลับแลทั้งสิ้น
     ต่อมาวันที่ ๑๓ สิงหาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๕๑ นายทองอินได้รับการเลื่อศักดิ์ให้เป็น พระศรีพนมมาศ ตำแหน่งนายอำเภอเมืองพิชัย ถือศักดิ์นา ๑๐๐๐ ไร่ ให้ทำหน้าที่ช่วยผู้ว่าราชการเมืองพิชัย ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้เป็นอำมาตย์ตรี ในราชทินนานในตำแหน่งเกษตรมณฑลพิษณุโลก
     พระศรีพนมมาศได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคลม อันเนื่องมาจากโรคเบาหวานเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๖๔ รวมอายุได้ ๖๐ ปี โดยได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันพุธที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๔๖๕ ณ ประรำพิธีซึ่งตั้งขึ้น ข้างบ้านพระศรีพนมมาศ โดยพระกัลยาวัฒนวิศิษฐ์เป็นประธานการจัดงาน และพร้อมด้วยบุตรหลานและภริยาของท่าน
ผลงานที่โดดเด่นและสำคัญของพระศรีพนมมาศที่ได้ประกอบกิจสำคัญอันเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและอำเภอลับแล พอที่จะแยกออกเป็นข้อๆได้ดังนี้
     การคมนาคม
    
 ในขณะที่พระศรียังมิได้รับราชการ คือในขณะที่เป็นนายอากรสุราอยู่นั้น ได้เริ่มทำงานชิ้นสำคัญคือ การสร้างถนนจากลับแลมาถึงตลาดบางโพ โดยความร่วมมือ ของราษฏรคือถนนอินใจมี โดยที่มิได้ใช้เงินของทางราชการเลย นอกจากนั้นยังได้วางผังเมืองลับแล และตัดถนนอีกหลายสาย เช่น ถนนสายลับแล-หัวดง ถนนสายลับแล-พระแท่นศิลาอาส์น-ทุ่งยั้ง และถนนในซอยสายต่างๆในเมืองลับแล
     การชลประทาน
    
 เดิมทีเดียวเมืองลับแลไม่มีน้ำที่จะอุดมสมบูรณ์อยู่ ได้ตลอดปีเหมือนทุกวันนี้ พระศรีพนมมาศได้เริ่มสร้างฝายหลวงขึ้น ในการสร้างฝายหลวงนี้ ได้ใช้กำลังของราษฏรแท้ๆ และมิได้รับงบประมาณจากทางแผ่นดินเลยท่านเกณฑ์แรงงานทุกคนทุกตำบลให้มาช่วยงานบ้านละ ๑ คน โดยผลัดเปลี่ยนเวียนกันทำงานทุกคนต้งอพร้อมกันที่ฝายหลวงตั้งแต่เวลาตีห้า ทุกวัน ถ้าผู้ใดมาช้ากว่ากำหนดหรือขาดงาน ก็ต้องได้รับโทษหนักเบาตามสมควรแก่โทษานุโทษ เยี่ยงบิดากับบุตร ตัวท่านเองเป็นผู้ควบคุมงาน ท่านต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ และถือสังข์เป่าเป็นสัญญาณ ให้ชาวบ้านเตรียมตัวลุกไปทำงานทุกวัน จนได้รับสมญานานว่า "พระศรีทองสังข์" ด้วยความตั้งใจจริงของทาน ฝายหลวงก็สำเร็จตามความปรารถนาเดิม ฝายนี้สร้างด้วยไม้ นานปีเข้าก็ทานกระแสน้ำไม่ไหว จึงพังลงมาทำให้น้ำท่วมเมืองลับแลครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อพระศรีพนมมาศย้ายไปเป็นเกษตรมณฑลเมืองพิษณุโลก แล้วทางราชการได้เห็นความสำคัญของฝายนี้จึงได้สร้างเสริมต่อเติม ให้เป็นฝายที่ถาวรและใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง
     นอกจากนี้ท่านยังสร้างฝายอื่นๆ อีกเช่น ฝายสมเด็จ ซึ่งมีประวัติเล่ากันมาว่าเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวเมือครั้งดำรงตำแหน่งเป็นมงกุฏราชกุมาร ได้เสด็จไปเยี่ยมเมืองลับแล ได้ทรงทำพิธีทิ้งดินก้อนแรก ถือเป็นปฐมฤกษ์ ในการสร้างฝายขึ้น และโปรดประทานนามว่า ฝายสมเด็จ และยังมีฝายอีกหลายแห่งด้วยกันเช่น ฝายหิน ฝายหนองแม่อิน หนองเด่นหมาก และฝายจอมแจ้ง นับว่าพระศรีพนมมาศ เป็นผู้วางรากฐานแห่งความเจริญในด้านการชลประทาน ให้แก่อำเภอลับแลเป็นคนแรก

      
ด้านการปกครอง
    
 พระศรีพนมมาศเป็นนายอำเภอคนแรกที่ดำเนินการปกครอง แบบบิดาปกครองลูก เช่นในยามว่างทานจะออกเดินตรวจตราดูแลความทุกข์สุขของราษฏร์ แนะนำและตักเตือนให้ได้ปฏิบัติไปในทางที่ถูกต้อง และในทางที่ชอบถ้าท่านพบราษฏรคนใดทำผิดท่านจะว่ากล่าวตักเตือนทันที
     
ด้านการศึกษา
   
 เมื่อครั้งพระศรีพนมมาศยังมีอาชีพเป็นนายอากรสุรา ท่านมีความสนใจเกี่ยวกับการศึกษาอยู่มา ท่านได้ตั้งโรงเรียนราษฏร์ส่วนตัวขึ้นเป็นแห่งแรกของอำเภอลับแล แต่ตั้งอยู่ได้เพียงห้าปี ก็ยุบเลิกไปเมื่อท่านดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอลับแล ท่านได้ตั้งโรงเรียนขึ้นใหม่ ได้รับพระราชทานนามว่าโรงเรียนพนมมาศพิทยากร เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๔๕๐
     
ด้านการอุตสาหกรรม
     
งานชิ้นสำคัญของพระศรีพนมมาศอีกอย่างหนึ่งก็คือการทำไม้กวาดตองกง ท่านให้ราษฏรช่วยกันเก็บดอกตองกง ซึ่งมีอยู่มากมาย มาเก็บรวบรวมไว้ แล้วเรียกราษฏรตำบลแม่พูล ตำบลฝายหลวง และตำบลหัวดง มาตำบลละ ๒ คน ให้มาฝึกทำไม้กวาดกับท่าน ท่นเป็นผู้หาส่วนประกอบมาให้เอง เมื่อฝึกทำจนเป็นแล้วก็เรียกราษฏรมาผลัดเปลี่ยนกันฝึกทำ จนทุกบ้านสามารถทำไม้กวาดตองกงชนิดนี้ได้หมด ท่านได้นำไม้กวาดทูลเกล้าถวาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และถวายเจ้านายอีกหลายพระองค์ด้วยกัน ต่อมาพระศรีพนมมาศได้ประกาศให้ราษฏรทำไม้กวาดส่งไปขายเป็นสินค้าจนถึงปัจจุบันนี้

อนุสารีย์พระศรีพนมมาศในปัจจุบัน

อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศในปัจจุบัน


ประตูเมืองลับแล

ประตูเมืองอำเภอลับแล


ป้ายอนุสารีย์พระศรีพนมมาศ

ป้ายอนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศในปัจจุบัน


บ้านพระศรีพนมมาศในปัจจุบัน

บ้านพระศรีพนมมาศในปัจจุบัน


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Hosted by www.Geocities.ws

1