ชาวเมืองลับแลนับถือศาสนาพุทธ เป็นมรดกตกทอดมาจากพรรพบุรุษจึงไม่หวั่นไหวเอนเอียงไปถือศาสนอื่นอย่างเด็ดขาด ประมาณ พ.ศ. 1519 |
พระเจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร เสด็จขึ้นไปกราบถวายบังคมทูลขอพระราชทาน แบ่งพระบรมสารีริกฐาตุของพระพุทธเจ้าจากพระเจ้าพนธิราช |
พระเชษฐาองค์พระมหากษัตริย์พระนครนาคพันธ์สิงหนวัติโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน พระเชษฐาก็ได้พระราชทานแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ |
อนึ่ง ถ้าปีใดฟ้าฝนแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ราษฏรก็เดือดร้อนมีการทำพิธีขอฝนกันหลายอย่าง เช่น เทศน์มหาชาติ ทางปิ้นบ้าง ( เทศน์ |
กลับด้าน) แห่พระเจ้าไปสรงน้ำแจ (แห่พระพุทธรูปไปสรงน้ำเขาน้ำตก ) แห่นางแมว แห่อี่เมฆ เล่นนางกวัก เล่นนางโด้ง เจ้าเมืองก็ต้องจำศีล |
กินเพลแต่ละครั้งกำหนดเอา 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง คือ พระเจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร พร้อมกับราษฏรเสด็จไปจำศีลที่ม่อนจำศีล |
จึงได้ชื่อว่าม่อนจำศีลมาจนถึงทุกวันนี้ |
อ้างอิงจาก ฟู บุญถึง และคณะ . ( ม.ป.ป.) . ลับแลหรือจะแลลับ , สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอลับแล |