การปกครองเมืองลับแลในยุคต้น แบ่งหมู่บ้านออกเป็นหลัก แต่ละหลัก มีหัวหน้าปกครองหนึ่งคน เรียกตามตำแหน่งว่าเจ้าหลัก ขึ้นกับเจ้าแคว้น |
เจ้าแคว้นขึ้นกับ เจ้าเมือง อำนาจสิทธิ์จขาดอยู่กับเจ้าเมืองแต่ผู้เดียว เทียบได้กับผู้สำเร็จราชการแทนพระอง๕ื เมืองลับแลขึ้นคงต่ออาณาจักรโยนก |
ตำนานทางภาคพายัพ ได้พรรณาไว้ว่าอาณาจักรโยนกมีเวียงอยู่ 4 เวียง คือ |
1. เวียงโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอำเภอเชียงแสน จังหวีดเชียงราย |
2. เวียงชัยนารายณ์ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็ฯน อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ |
3. เวียงชัยปราการ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ |
4. เวียงสี่ตวง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพระนครนาคพันธ์สิงหนวัติโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน |
เป็นนครหลวง พระเจ้าสิงหนวัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ มีพระมหากษัตริย์สืบราชวงศ์ ติดต่อกันมาถึง 46 รัชกาล |
อนึ่งเจ้าคำลือ และเจ้าคำแสน บิดาผู้ให้กำเนิดเมืองลับแล ซึ่งมีเชื้อชาติสัญชาติสืบต่อมาจากตระกูลกษัตริย์เวียงโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน |
ย่อมมีความสำนึกรักชาติรักตระกูล เป็นพื้นฐานเมืองลับแล ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าเรืองธิราช รัชกาลที่ 21 เป็นพระมหากษัตริย์ |
ครองพระนครนาคพันธ์สิงหนวัติโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน ได้ส่งราชโอรสมาครองเมืองลับแล เป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตทิศใต้ ของอาณาจักรโยนก |
นับเป็นยุคต้นของเมืองลับแลซึ่ง ติดต่อกับอาณาจักรละโว้ อนิจจังความไม่เที่ยงต่อมา อาณาจักรโยนกก็เปลี่ยนเป็นอาณาจักรลานนาไทย |
อ้างอิงจาก ฟู บุญถึง และคณะ . ( ม.ป.ป.) . ลับแลหรือจะแลลับ , สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอลับแล |