คดีฆาตกรรม ตุตันคาเมน

 

1,300 ปีก่อนคริสตกาล ดินแดนอียิปต์ ปกครองโดย ฟาโรห์พระองค์หนึ่ง ซึ่งยังทรงพระเยาว์นามว่า ตุตันคาเมน บุรุษซึ่งเปรียบเสมือน องค์สมมติเทพ ของชาวอียิปต์ แต่ พระองค์ ก็สิ้นพระชนก่อนเวลาอันควร ด้วยสาเหตุที่ไม่มีใครอธิบายได้

หรือพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ จากหลักฐาน และข้อสงสัย ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายของบ้านเมืองในยุคนั้น รวมทั้งพิธีศพที่กระทำกันอย่างเร่งรีบ
นอกจากนี้ ภาพสลักหิน ในสุสานตุตันคาเมน มีลวดลายที่ไม่ค่อยจะเข้ากันสักเท่าไหร่ เหมือนกับว่าไม่ค่อยมีใครใส่ใจ ในการฝังพระศพของตุตันคาเมน ครับ

จากการรวบรวมหลักฐาน พบว่า กระดูกสันหลังของตุตันคาเมน มีอาการผิดปกติ ซึ่งน่าจะเป็นเบาะแสชิ้นสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่สาเหตุการสิ้นพระชนม์ที่แท้จริงได้ครับ

มีการศึกษาทางด้านจิตวิทยา เพื่อให้เข้าใจถึงจิตใจของตุตันคาเมน รวมทั้งผู้คนในสมัยอียิปต์โบราณได้ จากหัวกะโหลกของพระองค์ ที่ขุดพบได้ แต่การจะพิสูจน์ว่าใครกันแน่จะเป็นฆาตกรตัวจริง ซึ่งอยู่เบื้องหลังการลอบปลงพระชนม์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ

และต้องหาทางหาช่องโหว่ความปลอดภัยในวังหลวงเอง
วังหลวงที่ใกล้กับหุบผากษัตริย์ คือ เมมฟิส สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยนั้น ตัววังหลวงจะอยู่ไกลออกไปจากใจกลางเมือง โดยมีกำแพงล้อมรอบวังเอาไว้ และที่รอบห้องบรรทม ของตุตันคาเมน มีกำแพงล้อมรอบอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในสมัยนั้น ชาวอียิปต์ มีระบบการอารักขา เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลากลางคืน และนอกจากนั้น ยังมีทหารยามคอยเฝ้าประตูเป็นอย่างดี แม้กระทั่ง ยังอยู่ที่หน้าเตียงในเวลาบรรทมอีกด้วย

แทนที่จะเป็นคนจากภายนอก ตุตันคาเมน มีความปลอดภัยสูงมาก ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง เพราะฉะนั้น หากพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ตามความเชื่อของหลาย ๆ คน ฆาตกร ต้องเป็นคนใกล้ชิดนี่เองครับ

โครคือผู้ต้องสงสัย หรือเหตุจูงใจในการฆ่า?
แต่ไม่มีใครตั้งต้นเป็นปฏิปักษ์อย่างออกหน้าออกตา แต่ถ้าจะมีต้องเป็นคนสนิท ไม่ว่าจะเป็น สังฆราช ไอย์ มายา คนดูแลสมบัติ หรือ แม่ทัพโฮเรมเฮบ หรือแม้แต่ตัวมเหสี อานักซุนามุน เอง

คนแรก อนัคซุนามุน

คนที่ใกล้ชิดตุตันคาเมน มากที่สุด คงหนีไม่พ้น มเหสี อนัคซุนามุน แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์หละ
มเหสี อนัคซุนามุน มีความสนิทสนมกับ ตุตันคาเมนมาตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จึงไม่มีใครใกล้ชิดกว่าพระองค์มากกว่านี้อีกแล้ว ในฐานะมเหสี อนัคซุนามุน จึงมีอภิสิทธิ์เหนือใครในการเข้าออกวังหลวง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี หากนางคิดจะทำร้ายตุตันคาเมน

แรงจูงในการฆาตกรรม
อนัคซุนามุน จะลอบปลงพระชนม์ ตุตันคาเมน ไปทำไม? เพื่ออะไร? จากหลักฐานที่มีอยู่ ดูเหมือนว่า มเหสี อนัคซุนามุน จะเป็นมเหสีที่รักตุตันคาเมน มาก อียิปต์ในอดีต ก็เคยมีผู้ปกครองที่เป็นผู้หญิงมาแล้ว แล้วอานักซุนามุน จะหลงกับอำนาจ เหล่านั้นบ้างเหรอ หากกำจัดตุตันคาเมนไปได้ ในฐานะมเหสี จะได้ขึ้นเป็นฟาโรห์คนต่อไป นี่อาจจะเป็นแรงจูงใจ ครับ

ปี 1927 โฮเวิร์ด คาเตอร์ ผู้ค้นพบสุสานตุตันคาเมน ขุดค้นพบศพทารก ที่ถูกทำเป็นมัมมี่สองคน ศพทารกที่พบ ยังไม่มีการยืนยันว่า มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับตุตันคาเมน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า ศพทารกที่พบ น่าจะเป็นทายาทของตุตันคาเมน กับอานัคซุนามุน ซึ่งแสดงว่าทั้งสองพระองค์มีความพยายามที่จะสร้างครอบครัว
ปี 1932 ดักกลาส เดอร์รี ได้ทำการชันสูตร ศพทารกทั้งสอง พบว่า เป็นเพศหญิงทั้งคู่ คนหนึ่งมีอายุได้ 4 เดือน ส่วนอีกคนหนึ่งเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ปี 1978 ศาสตราจารย์ อาร์จี แฮริสัน ได้ทำการชันสูตร ทารก วัย 4 เดือนอีกครั้ง พบว่า เธอมีอาการผิดปกติที่กระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อทางกรรมพันธุ์ และศพทารกทั้งสองนี้ น่าจะเป็นทายาทของตุตันคาเมน ครับ

ริชาร์ต โบเยอร์ นักรังสีวิทยา กล่าวว่า ตุตันคาเมน ทรงมีสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ทั้ง ๆ ที่ทรงพระเยาว์ มีอาการผิดปกติที่กระดูกสันหลัง เขาเชื่อว่า ตุตันคาเมน ประชวนด้วยอาการผิดปกติที่หลัง ทำให้พระองค์ไม่สามารถหันพระพักไปซ้ายหรือขวา และก้มหรือเงยได้เหมือนคนปกติ เพราะกระดูกสันหลังของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ จะไม่มีความยืดหยุ่น หากหันหน้าไปทางใด ก็ต้องเคลื่อนร่างกายส่วนบนไปด้วยทั้งหมด และถ้าตุตันคาเมน ถูกของแข็งกระแทรกอย่างแรงที่ด้านหลังของศีรษะ พระองค์จะได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่าคนปกติ จากกระดูกสันหลังที่ไม่ยืดหยุ่น จะไม่สามารถกระจายแรงกระแทกที่กระทบมาได้ครับ ศีรษะก็จะเป็นตัวรับแรงกระแทกทั้งหมด

โฮเวิร์ด คาเตอร์ พบไม้เท้าถึง 130 อัน ในสุสานตุตันคาเมน ซึ่งทำให้แนวคิดที่กล่าวมาแล้ว เป็นการชี้ชัดให้น่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะมีร่องรอยที่บ่งชี้ว่า ไม้เท้าของตุตันคาเมน ไม่ได้เป็นไม้เท้าประจำตำแหน่งฟาโรห์เท่านั้น แต่พระองค์ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

 

ภาพเขียนโบราณก็มีภาพของตุตันคาเมน ที่ต้องใช้ไม้เท้าเวลาเดินรวมอยู่ด้วย ผลการเอกเรย์ หน้าอกของตุตันคาเมนพบว่า กระดูกสันหลังของพระองค์โก่งงอ ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับ ทารกมันมี่ วัย 4 เดือน ที่เป็นลูกของตุตันคาเมน

อนัคซุนามุน จึงน่าจะหัวใจสลาย จากการตายของลูกน้อยทั้งสองคน แล้วนางก็ไม่ได้มีลูกกับตุตันคาเมนอีกเลย และทำให้มีผู้สืบตระกูลต่อไป นางจึงต้องมองหาใครสักคน ที่จะมาเป็นพ่อของลูกที่ดี นอกจากตุตันคาเมน อนัคซุนามุน อาจถูกตำหนิ ที่ไม่สามารถกำเนิดทายาทแก่ตุตันคาเมนก็ได้ หรือบางทีนางอาจรู้สึกผิด ที่ไม่สามารถดูแลลูกให้ดี จนครบอายุขัยก็เป็นได้

หรือคนฆาตกรจะเป็นอานักซุนามุน แต่ ดร. ซาฮี ฮาร์วาร์ด นักอียิปต์วิทยา บอกว่า จากภาพเขียนโบราณ หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า อานักซุนามุน นั้น รักตุตันคาเมนมาก ทั้งสองพระองค์มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง

จากภาพ อนัคซุนามุน จะยืนอยู่เอามือแตะไหล่ของพระองค์ และนางกำลังวางดอกไม้ ในร่างมัมมี่ของพระองค์ ซึ่งแสดงถึงความรักที่มีให้ และนักจิตวิทยา ก็ไม่เชื่อว่า อนัคซุนามุน จะเป็นฆาตกร นางพยายามทุกวิถีทาง ให้รอดพ้นจากคนใกล้ชิด ที่ไม่ประสงค์ดีทั้งหลาย
เป็นอันว่า ผู้ต้องสงสัย อานักซุนามุน เป็นอันตกไปครับ

แล้วคนต่อไปหละ น่าจะเป็นมายา ไอย์ หรือ โฮเรมเฮบ มากกว่า
ดร. เบิร์น สไตนล์ บอกว่า หากตุตันคาเมน มีทายาทสืบสะกุล พระองค์ก็จะเปลี่ยนสภาพจากเด็กคนหนึ่ง ไปสู่การเป็นพ่อคน และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้คนที่วางแผนที่จะยึดอำนาจนั้น จะทำงานกันอย่างยากลำบากมากขึ้น เป็นเวลานับ 10 ปีที่ ไอย์ มายา และโฮเรมเฮบ ปกครองอียิปต์ โดยแอบอ้างพระนามของฟาโรห์มาโดยตลอด ต่างคนก็ต่างกระหายในอำนาจด้วยกันทั้งนั้น

นับเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากทีเดียว ที่ฟาโรห์อายุน้อย ก็มีคนที่หวังจะยึดอำนาจ มากมายด้วยกันทั้งนั้น อัย มายา และโฮเรมเฮป ใครกันแน่ที่จะได้ประโยชน์มากที่สุด หากตุตันคาเมน สิ้นพระชนม์ไป

เริ่มกันที่ มายา
ในฐานะผู้ดูแลท้องพระคลัง มายา นั้น เคยกู้เศรษฐกิจของอียิปต์ ที่กำลังย่ำแย่เอาไว้ได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากมายา เข้าควบคุม เงินทอง ในท้องพระคลังไว้ได้ทั้งหมด ประชาชนต้องถูกขูดรีดภาษีมากขึ้น บ้านเมืองคงระส่ำระส่าย มากกว่าเดิม แต่มายา ต้องลงมือ ปลงพระชนม์เลยเหรอ หากต้องการยึดอำนาจทางการเงินของอียิปต์เอาไว้เอง

มายา ต้องดูแล ท้องพระคลัง ตั้งแต่ ตุตันคาเมน ทรงพระเยาว์ แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีเหตุผลอะไร ที่เขาจะต้องทำร้ายตุตันคาเมน เพราะมายาเองก็มีฐานะร่ำรวย และไม่ได้ประโยชน์อะไรในการสิ้นพระชนม์ของตุตันคาเมน

หลังพิธีฝังพระศพตุตันคาเมน เสร็จสิ้นไม่นาน ของมีค่า ในสุสานก็ถูกขโมยไป มี มายา เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ตามเอาสมบัติคืนมา มายาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่า พระศพของตุตันคาเมน ถูก ฝังไว้ที่ไหน และเพื่อความปลอดภัยของพระศพและสมบัติทุกชิ้น เขาจึงทำลายนันทึกที่ตั้งของสุสานไปทั้งหมด หลังการสิ้นพระชนม์ มายาก็ยังคงทำงานในวังหลวงต่อไป เป็นการแสดงว่า เขามีความจงรักภักดี ต่อฟาโรห์ ต่อไป เป็นอันว่ามายาก็ตกไปอีกคนครับ

และผู้ต้อสงสัยคนถัดมา นั่นคือ นายพลโฮเรมเฮบ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพอียิปต์

โฮเรมเฮบ นั้นก้าวมาสู่แม่ทัพของอียิปต์ ตั้งแต่สมัยพระบิดาของตุตันคาเมน ยังเป็นฟาโรห์อยู่ แต่พอตุตันคาเมน ขึ้นเป็นฟาโรห์ได้ไม่นาน เขาก็กลายเป็นแม่ทัพที่มีอำนาจสูงสุด อาจเป็นรองแค่ฟาโรห์ด้วยซ้ำไป เขาเป็นคนควบคุมทหารทั้งหมดในกองทัพ จะก่อการปฏิวัติและยึดเอาอียิปต์มาเป็นของตนเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ในเวลานั้น อียิปต์ เริ่มมีศัตรูรอบด้าน โดยเฉพาะทางตอนเหนืออย่างเมือง ฮิตไทด์ ที่จะฉวยโอกาสบุกโจมตีอียิปต์ ในช่วงฟาโรห์พระองค์น้อย เพิ่งขึ้นครองบัลลัง

โฮเรมเฮปนั้นรู้เหตุการณ์ดีทุกอย่าง ในฐานะนักรบผู้กล้า เขาต้องปกป้องอียิปต์ทุกวิถีทาง จึงอาจไม่สรุปได้ว่า โฮเรมเฮป เป็นฆาตกรตัวจริง
แม้โฮเรมเฮปจะมีอำนาจมากก็จริง แต่เขาต้องถูกทำตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายในกองทัพ เพื่อรักษาความมั่นคงในอียิปต์ก็ได้ ทำให้เขา ต้องรักษากฎระเบียบบ้านเมืองเป็นพิเศษ

การหาหลักฐาน

จากผู้ต้องสงสัย โฮเรมเฮบ จากการชันสูตร มัมมี่ ตุตันคาเมน พบว่า พระศพอยู่ในสภาพเปียกชื้น ขณะที่มีการห่อร่างด้วยผ้าชุบน้ำยา ผิดจาก ขั้นตอนการทำมัมมี่ ที่ต้องทำให้ศพแห้งสนิท ขั้นตอนการทำมัมมี่ของตุตันคาเมนนั้น ไม่ดีเท่ากับมัมมี่อื่น ๆ ขณะมัมมี่ทารก ก็ยังทำได้ดีกว่า น่าแปลกที่ฟาโรห์อย่างพระองค์ กลับไม่ได้รับการดูแล จากช่างทำมัมมี่ ที่ฝีมือดีที่สุดในอียิปต์ แต่เป็นการทำมัมมี่อย่างลวก ๆ ขอให้เสร็จไปเท่านั้น หรือบางที อาจมีใครคอยบงการเบื้องหลังการทำมัมมี่ก็เป็นได้ หรือหยุดการทำมัมมี่ไว้กลางคัน

ถ้าหากพระศพของตุตันคาเมนเริ่มเน่าเปื่อย ระหว่างการทำมัมมี่ ทำให้รู้ว่าทำไม มีการพบขี้ผึ้งห่อร่างมัมมี่ มากกว่าปกติ จากบันทึกของโฮเวิร์ด คาเตอร์ ผู้ค้นพบสุสานตุตันคาเมน ระบุว่า มีการเทขี้ผึ้ง ลงไปเคลือบพระศพตุตันคาเมน ทั้งหมดสองถัง และเทเคลือบโลงพระศพอีก สองถัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเขาทำกัน และยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีการทำมัมมี่กับศพที่สลายไปแล้วได้ เพราะศพจะมีกลิ่นแรงมากกว่าปกติ และด้วยเหตุนี้ คนที่ทำศพ จึงต้องใช้ ขี้ผึ้งอาบศพมากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้พระศพส่งกลิ่นออกมาภายนอกโลง

แต่ใครกันแน่ที่เป็นคนอนุญาตให้ทิ้งพระศพไว้ จนเน่าเปื่อยไปอย่างนั้น แม่ทัพโฮเรมเฮป จะมีส่วนในเรื่องนี้หรือไม่ โอเวิร์ด คาเตอร์ ได้ขุดค้น พบ รถม้าไม่ต่ำกว่า หกคัน ในสามคัน นั้น จะใช้ในงานพิธี แลอีกสองคันใช้ล่าสัตว์
ส่วนตุตันคาเมนนั้นแม้ว่าร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่พระองค์ก็ชอบขับรถม้าเป็นชีวิตจิตใจ บางที พระองค์อาจสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุ นอกเขตวังหลวงก็ได้ ศาสตราจารย์ โรดิน จึงวิเคราะห์เหตุการณ์ว่า สมมุติ ว่าตุตันคาเมน ทรงออกไปล่าสัตว์ แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพระองค์ กว่าคณะผู้ติดตามจะหาพบ และกว่าที่พระศพไปเข้ากระบวนการทำมัมมี่ ก็ต้องกินระยะเวลานานมากขึ้น ด้วยแสงแดดที่แรงจัดในอียิปต์ พระศพจะเริ่มสลายได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมาเวลา ที่มีการทำมัมมี่

แต่ การที่ตุตันคาเมน ทรงออกไปล่าสัตว์จะต้องมีผู้ติดตามใกล้ชิดแน่ นอกเสียจากว่าคนที่ทำหน้าที่นั้น จะต้องการกำจัดพระองค์ให้พ้นทาง ซึ่งคนที่ทำหน้าที่องค์รักษ์ใกล้ชิด คงเป็นไปใครไม่ได้ นอกจากโฮเรมเฮบ
เขาเป็นคนเดียวที่มีโอกาสที่นั่งรถม้าไปตามลำพังกับตุตันคาเมน ซึ่งดูเหมือนว่า จะเป็นใจ สำหรับการลอบปลงพระชนม์ซะด้วย

แล้วอะไรคือแรงจูงใจของโฮเรมเฮบ?
นักรกอย่างโฮเรมเฮบ จะทำอะไรไปโดยไม่มีมูลเหตุจูงใจที่แน่ชัด หรือว่าเขาจะมีเหตุผลอื่น นอกจากนี้ คนที่มีความผิดปกติทางร่างกาย อย่างตุตันคาเมนแล้ว ในอียิปต์ จะเป็นที่น่ารังเกียจของผู้อื่นอีกด้วย
ในสมัยอียิปต์โบราณ ความผิดปกติทางร่างกาย ส่งผลต่อจิตใจของผู้คนในสมัยนั้นมาก มีบันทึกว่า มีการสังหารคนพิการทิ้ง เพราะเห็นว่าเป็นคนไร้ค่า แม้แต่ฟาโรห์อย่างตุตันคาเมน อาจไม่ได้รับการยกเว้นด้วยครับ พระองค์จึงอาจเป็นเป้าการลอบปลงพระชนม์ก็ได้ โฮเรมเฮบ จึงคิดกำจัดตุตันคาเมน ด้วยสาเหตุนี้
หรือว่า พระองค์ทรงตกจากรถม้า ดร. ธอร์ท เกรย์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลังฐาน บอกว่า ถ้าตุตันคาเมนตกจากรถม้า แรงกระแทกตรงด้านหลังของศีรษะจะรุนแรงต่อกะโหลกมากกว่าคนปกติ เพราะกระดูกสันหลังของพระองค์ไม่มีความยืดหยุ่นเพียงพอ จึงอาจทำให้ตุตันคาเมน สิ้นพระชนม์ได้ทันที แต่อุบัติเหตุเป็นเรื่องจัดฉากขึ้น ก็ถือเป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบก็ว่าได้

ถ้าเป็นไปตามนี้ โฮเรมเฮบ ก็เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งครับ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นเป็นฟาโรห์ต่อ จากตุตันคาเมน ไม่ยากนัก

ผู้ต้องสงสัยคนสุดท้าย สังฆราช ไอย์

ไอย์ เป็นคนดูแลตุตันคาเมนอย่างใกล้ชิด หลังจากที่พระบิดา อเคนาเตน สิ้นพระชนม์ ดร. ซาร์ฮี ฮาร์วาร์ด นักอียิปต์วิทยา บอกว่า ที่จริงแล้ว อัย ไม่สามารถขึ้นเป็นฟาโรห์แทนตุตันคาเมนได้ เพราะตามประเพณีโบราณของอียิปต์แล้ว เขาไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากฟาโรห์ และเป็นเพียงแค่นักบวชเท่านั้น
แต่สังคราชย์ อัย กลายมาเป็นคนสนิทของมเหสี อานักซุนามุน ได้อย่างไร
คำตอบอยู่ที่แหวนวงหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนพบในร้านขายของเก่าที่อียิปต์ ในปี 1931 แหวนวงนี้ มีสลักชื่อ อานักซุนามุน และอัย คู่กัน และสันนิฐานว่า อัย บังคับให้อานักซุนามุน แต่งงานกับตน เพราะเป็นเพียงหนทางเดียวที่ทำให้เขาเป็นฟาโรห์องค์ต่อไป

ไอย์ คงแต่งานกับ อานักซุนามุน เพื่อเป็นบันไดสู่ฟาโรห์ครับ และชาวอียิปต์คงจะต้องยอมรับอัย ในฐานะฟาโรห์ หลังจากที่เขาแต่งงาน กับ มเหสี ตุตันคาเมน ฟาโรห์พระองค์ก่อน

จากหลักฐาน
ฟาโรห์ตุตันคาเมน นั้น วางแผนไว้ว่า จะฝังพระศพของพระองค์ไว้ที่เดียวกันกับ ปู่ของพระองค์ แต่ปรากฏว่า พระศพของตุตันคาเมน กลับไม่ได้ฝังในที่ที่วางแผนไว้ แต่กลับเป็นศพของสังคราชย์อัย แทน

 

สุสานไอย์

ตามความเชื่อของชาวอียิปต์คงไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการฝังพระศพอีกแล้ว แต่ตุตันคาเมน กลับถูกปล้นสุสานไป ซึ่งคนร้าย จะต้องเป็นคนที่สืบทอด ฟาโรห์องค์ต่อไป สังคราชย์ อัย

เป็นเรื่องเศร้าที่ตุตันคาเมน ไว้ใจคนผิด พระองค์ทรงมอบอำนาจไว้กับคนที่คิดจะ ครอบครองอียิปต์เอาไว้ แต่เพียงผู้เดียว
ดร. ฮาร์โร เบิร์นสไตน์ นักนิติเวช จากมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด ให้ความเห็นว่า อัยเป็นฆาตกร

คือ อัย มีแรงจูงใจในการฆ่าตุตันคาเมน เขาอยากมีอำนาจเหนือใคร และเขาเพียงคนเดียวที่เหมาะที่สุด ที่จะฆ่าตุตันคาเมน เพราะใกล้ชิดฟาโรห์ และมีช่องทางที่เป็นฟาโรห์องค์ต่อไปได้

จากหลักฐานที่มีอยู่
พอสรุปได้ว่า ไอย์ โลภ อยากเป็นฟาโรห์ และคิดว่าตนเองทำหน้าที่ฟาโรห์ได้ดีกว่าตุตันคาเมน เพราะฟาโรห์ พระองค์น้อย ยังไม่ประสีประสาในการปกครองบ้านเมือง จึงเทียบไม่ได้เลย กับสังคราชย์ ที่อยู่ในวังมานาน และก็เป็นโอกาสเหมาะที่จะกำจัด ตุตันคาเมน ให้พ้นทางไป
ดร. เบิร์ดสไตน์ ฟันธงลงไปว่า ตุตันคาเมน จะต้อง ถูกลอบปลงพระชนม์อย่างแน่นอน และคนที่เป็นฆาตกรก็คือ สังฆราช อัย นั่นเอง

แต่เยื่อฆาตกรรมของอัย ไม่ได้หยุดแค่ตุตันคาเมนเท่านั้น จากหลักฐาน ปรากฏว่า ไอย์ไม่น่าที่จะบังคับ มเหสี อนัคซุนามุน อภิเษกกับตนอย่างที่เข้าใจกัน แต่อัย กลับสังหารนางให้พ้นทางไป หลังจากที่ อนัคซุนามุน ได้มอบอำนาจฟาโรห์ให้ กับเขาสมความตั้งใจ

 

โจแอน นักอียิปต์วิทยา เล่าว่า ภาพการล่าสัตว์ พบเฉพาะในสุสานของอัยเท่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีฟาโรห์พรองค์ไหนเคยทำมาก่อน และการที่ไอย์ สั่งให้เขียนภาพการล่าสัตว์ ไว้ในสุสานของเขา ย่อมแสดงว่าเขายังสับสนอยู่ว่า เขาเป็นฟาโรห์หรือไม่ได้เป็นกันแน่

สามัญชนคนธรรมดาเท่านั้น

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต อัย รู้สึก ละอายในสิ่งที่เขาทำกับตุตันคาเมน ด้วยการยอมให้มีภาพการล่าสัตว์ในสุสานของตนเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในใจของเขา ตนเองเป็นแค่เพียง สามัญชนคนหนึ่งเท่านั้น

อัยขึ้นเป็นฟาโรห์อยู่แค่ 4 ปี เขาก็เสียชีวิต แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะผู้คนขึ้นเป็นฟาโรห์ต่อจากเขาก็คือ โอเรมเฮบ ไม่ทัพใหญ่

โฮเรมเฮบ พยายามลบชื่อ อัย ออกจากประวัติศาสตร์อียิปต์ จนเกือบหมดสิ้น เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าครั้งหนึ่ง เคยมีฟาโรห์ที่ชื่อ อัยอยู่ ในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้ อัย รอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย ในอดีต ลอบปลงพระชนม์ตุตันคาเมนได้

ระหว่างที่เป็น ฟาโรห์อยู่ 27 ปี โฮเรมเฮบ ได้นำประเพณีความเชื่อเก่า ๆ ของ กลับมาใช้ใหม่ พร้อมกับ จะลบตุตันคาเมนออกไปประวัติศาสตร์ด้วย ให้ดูเหมือนว่าไม่มีชื่อฟาโรห์พระองค์นี้มาก่อน
ผู้เชี่ยวชาญบางท่านจึงเชื่อว่า อัยมีผู้ช่วยในการลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้ นั่นคือ โฮเรมเฮบนั้นเอง

ตุตันคาเมน ถูกใช้เป็นหุ่นเชิด นับตั้งแต่ขึ้นเป็นฟาโรห์ ต้องระหกระเหินไปยังต่างเมือง ในเวลาต่อมา ซ้ำ ยังต้องตกเป็นเหยือสังหารของคนละโมบ ที่อยากจะครอบอียิปต์ไว้แต่เพียงผู้เดียว อย่างสังฆราช ไอย์ มันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับฟาโรห์ อยากเป็นอิสระจากคนใกล้ชิด ที่ถูกคอยยุ แหย่ แต่กลับถูกปลงพระชนม์อย่างเหี้ยมโหด

 


สุสานของตุตันคาเมน ที่ยังมีสิ่งของเครื่องใช้อยู่

ห้องทางเข้า (ภาพจำลอง) จะดูสะอาดไปหน่อย แต่ตำแหน่งเหมือนครั้งยังค้นพบใหม่ ๆ

อันนี้ภาพจริงครับ ค่อนข้างรก

 

ห้อง ฝังพระศพครับ มี อนูบิส เฝ้าอยู่หน้าประตูด้วย กล่าวกันว่า ถ้าใครเปิดประตูเข้ามา จะพบอนุบิส มองออกมาทันที ทำให้ผู้คนพบกลัวครับ

 

 

 

 

 

 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1