เรื่องของชาแมน

 

ซาแมน(Shamanism)



ซาแมน(Shamanism) หรือ ชามาน ตามแต่จะออกเสียง เป็น"วิถีความเชื่อ หรือ Spiritual path" เก่าแก่ที่มีมาแต่ยุคโบราณกาล
ชาแมนเป็นเส้นทางที่มีเป้าหมายในการค้นพบ วิถีแห่งความสงบ และ การอยู่อย่างเป็นสุข ในโลกและสรรพสิ่งรอบๆตัวเราของมัน ว่ากันว่าชาแมนเป็นวิถีที่มีความเก่าแก่เป็นอันดันต้นๆของวิถีทางจิตวิญญาณทั้งหมดในโลก หรือบางฝ่ายก็ถึงขนาดสันนิฐานออกมาว่า ชาแมนเป็นวิถีทางจิตวิญญาณ แรก ของโลกเราเลยทีเดียว
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าชาแมนจิงๆแล้วเกิดขึ้นมาในช่วงเวลาอันแน่นอนช่วงใดกันแน่ แล้วก็แทบไม่มีใครเลยที่สามารถนิยามเหตุผลการเกิด หรือที่มาที่แท้จิงของมัน บ้างว่าๆ ชาแมนเริ่มต้นจากการวิวัฒทนาการทางระบบสังคมและวัฒนธรรม บ้างว่าๆ ชาแมนเริ่มต้นจากแกนของสัญชาติญาณความเป็นมนุษย์ ที่กระตือรือร้นที่จะปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ แห่งความเชื่อที่เกิดขึ้นในจิตใจของเรา ให้งอกงามเป็นความรู้(The light from the unknown)
แต่ก็ไม่มีข้อสันนิฐานอันในที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทฤษฏีที่ถูกต้องที่สุด และในขนาดที่กาลเวลาผ่านไป ในปัจจุบันนี้ ชาแมนก็ได้แผล่หลายออกไปทั้วโลกแล้ว แล้วยังมีทั้ง แขนง รูปแบบ วิถีทาง ความรู้ ใหม่ๆเฉพาะตัวเป็นของตัวเองอีกด้วย

มาพูดถึง การเริ่มต้นเส้นทางสายชาแมน (Becoming a shaman) จากประสบการณ์การศึกษาเส้นทางสายนี้ในฐานะวิคคาคนนึงมาได้ระยะใหญ่ๆ(เนื่องด้วยวิถีทางของวิคคานั้นเป็นหนึ่งใน ผลผลิตทางจิตวิญญาณที่สะท้อนวิถีทางความเป็นชาแมนได้เด่นชัดและเข้มข้นได้ดีเป็นอย่างยิ่ง)
การที่คุณเราเป็นชาแมนได้นั้น คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะ "เดินเป็นก้นหอย" เพื่อที่จะเรียนรู้เส้นทางทั้งจากภายในของมัน และ จากภายนอกของมัน และเป้าหมายสำคัญที่สุดก็คือ การเรียนรู้และหาหลักความสัมพันธุระหว่างตัวคุณเองกับโลกใบนี้อย่างลึกซึ้ง
ในขนาดที่วัฒนธรรมและสังคมต่างๆจากทั้วโลก เริ่มมีวิธีการทำความเข้าใจในความเป็นชาแมนที่แตกต่างกันออกไปมากขึ้นทุกที และแน่นอนห่างออกไปจากวิถีชาแมนแต่โบราณที่มันเคยมาเป็นเช่นกัน
แต่ตามหลักความจิงแล้ว วิธีที่ชาแมนจะแสดงออก พูด ตอบรับ โต้แยง หรือ คิดตัดสินใจนั้น ล้วนจะขึ้นอยู่กับตัวเค้าเองทั้งนั้น และแน่นอนว่าไม่มีใครที่เหมือนกับใคร....
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่ควรทราบก็คือ ภาษาของชาแมน การใช้ภาษาในการพูดของชาแมนนั้นจะมีความน่าสนใจมากอยู่อย่างนึง คือชาแมนมักจะใช้ ภาษา สำเนียง ความหมาย คำเฉพาะ และโดยเฉพาะ คำคม ของชนชาติต่างๆจากทั้วโลกมารวมกัน จนทำให้สิ่งที่เค้าพูดนั้นฟังยากมากจนถึงฟังแทบไม่รู้เรื่องเลยก็มี เหตุผลที่ชาแมนนิยม ที่จะใช้วิธีการพูดแบบนี้ก็เพราะว่า คนที่เป็นชาแมนนั้นจะต้องเป็นผู้ที่วางตัวอยู่ระหว่างภายนอกและภายในของทุกๆสิ่งที่เค้าร่วมสายใยอยู่ในทุกๆขนาด (จนบางที่ โดนหาว่าเป็นคนที่คลุมเคลาพูดไม่รู้เรื่อง) โดยเฉพาะถ้าผู้ฟังยิ่งเพ่งความสนใจไปไว้ที่ความหมายเบื่องหน้าของคำแต่ละคำที่เค้าพูด จนลืมที่จะนึกถึงความหมายเบื่องลึก และสาเหตุที่ชาแมนสื่อออกมา ก็จะยิ่งทำให้ผู้ฟังผู้นั้นหลงทางอยู่กับความคิดตัวเอง จนตามสิ่งที่ชาแมนพูดและเหตุผลที่เค้าพูดไม่ทัน
*ซึ่งการที่จะเรียนรู้วิธีการพูดแบบชาแมนนั้น ก็จะอาศัยเรื่องของ ประสบการณ์ทางภาษา ทักษะความเข้าใจเรื่องเสียง หลักปรัชญา และ ความรู้ทางประวัติศาสตร์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งโลก เป็นสำคัญ
เพราะนี่ถือเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญๆแรกๆในการเดินทางสายชาแมน....

เส้นทางแห่งก้นหอย และ ความเสียงของมัน
จงจำและคิดดีๆไว้เถิด การเริ่มเส้นทางสายชาแมนนั้นมีความจำเป้นอย่างมาก ที่ผู้สนใจจะต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับสิ่งที่เรียกว่า "คุณภาพทั้ง5" ของการวางตัวเยี่ยงชาแมน
ไม่ว่าผู้เริ่มต้นประสงค์ที่จะเรียกตัวเองว่า ชาแมนผู้รักษา ชาแมนผู้ทำนาย ชาแมนผู้สื่อสาร ชาแมนผู้เป็นเพื่อน หรือ อะไรก็ตาม ล้วนจะต้องรักษาความสมดุลทั้งภายในและนอกของคุณภาพทั้ง5นี้ ในตัวเองไว้ให้ได้ เยี่ยงวิคคารักษาความหมายของRede และผู้วิเศษรักษาความสำคัญของกฎเกณฑ์

คุณภาพทั้ง 5

1. ความสื่อสัตย์(Honesty) : จงมีความสื่อสัตย์ในตัวเองในฐานะของความเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งเหมือนกัน จงยอมรับต่อความขัดแย้งและความต่างของความหลากหลายทางอารม จิตใจ ความรู้ และ ความคิด ที่ทำให้ตนรู้สึกแตกแยกเหมือนกับที่ผู้เป็นบุคคลของอีกฝ่ายรู้สึก ด้วยความรักและสงบ

2. ความมั่นคง(Integrity) : จงมั้นคงกับความเข้มแข็งของตนที่เกิดจากการดำเนินชีวิตและความสัมพันธุ์กับจิตวิญญาณของทุกๆสรรพสิ่งในล้า เยี่ยงทุกๆอย่างในชีวิตตน

3. ทรรศนะการมองโลก(Vision) : จงมีความพร้อมที่จะ หยุดแล้วฟัง เสียงของความไร้ขีดจำกัด โดยปราศจากของเขตที่เกิดจากตนหรือกิเลสในใจทั้งภายนอกและภายใน และ จงวางใจกับสิ่งที่คู่ชะตากรรมเอ่ยด้วยไมตรีจิต

4. ความถ่อมตัว(Humility) : ทั้งด้วยความเข้มแข็งของตนก็ดี ความกระจ่างของตนก็ดี จงอย่าได้พยอง และจงรำลึกไว้ว่าตนนั้นก็ยังคงเดินอยู่ในก้นหอย ยังคงอยู่ภายใต้อำนาจอันน่าเกรงขามของธรรมชาติ ยังคงเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความงดงามของโลกและจักรวาลแห่งผู้สร้างอันไร้ที่สิ้นสุด

5. ความอดทน(Passion) : จงเอื้อมมือเหนือตัวตน เหยียดผ่านความโกรท ความผิดหวัง และ กิเลสทั้งปวง เพื่อคว้ามาซึ่งปัญญาและความสงบ สำหรับพวกเราผู้ปิติยินดีเหลือล้นเป็นอย่างยิ่งกับความน่าเกรงขามของสรรพสิ่ง อันแม้จะถ่อมตนแต่ก็ทรงอำนาจและดุร้ายรุนแรงกว่าอื่นใด

เสริมอารายนิดหน่อยคับ
ว่าด้วย Traditional และ Modern Shamanism (พอสังเขป)

เงื่อนไขที่ว่า "การเป็นชาแมนจะต้องสืบโดยสายเลือด" , "ชาแมนจะต้องได้รับการรับทอดหน้าที่ภายในตระผมลเท่านั้น" หรือ "ชาแมนจะต้องเป็นมาตั้งแต่กำเนิด และได้รับการเลี้ยงดูโดยบุคคลที่ถูกเลือก" นั้นเป็นเงื่อนไขเฉพาะทาง อันอยู่นอกเหนือ"คุณภาพทั้ง5" ที่มักจะสืบทอดกันมาในตระผมล กลุ่มคน หรือ ชุมชน ทีจะจัดอยู่ในกลุ่มของ Traditional Shamanism ซึงย่อมจะพยายามเต็มที่ๆจะรักษาขนมธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณกาลที่ตนได้รับมาให้คงอยู่ต่อไป

 

 


 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1