แอตแลนติส ทวีปปริศนาจากมุมมองทางโบราณคดี

 

 

ว่ากันว่าที่เกาะแอตแลนติสอันมั่งคั่ง เป็นที่อยู่อาศัยของพลเมืองผู้ทรงคุณธรรม กำแพงเมืองเป็นทองคำและวิหารสร้างด้วยเงิน มีอุทยานหย่อนใจและสนามแข่งม้า ทว่ามันถูกทำลายพังพินาศด้วยความพิโรธของเทพเจ้าผู้เนรมิตรมันขึ้นมา เรื่องราวขงแอตแลนติสเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่ทว่า... ดินแดนในฝันนี้มันมีอยู่จริงหรือไม่ อยู่แห่งหนใด และเมื่อในช่วงเวลาใด ที่อาณาจักรนี้ตั้งตระหง่านท้าทายอำนาจภูตเทพอยู่

ตำนานเกี่ยวกับทวีปอันมั่งคั่งโอ่อ่าที่พลเมืองอาศัยอยู่อย่างสุขสันต์ทว่าถูกกวาดทำลายสิ้นเพียงชั่วข้ามคืน ได้ติดตรึงอยู่ในใจของชาวตะวันตกมานานกว่า 2000 ปีแล้ว เพลโตปรัชญาเมธีชาวกรีกได้พรรณนาถึงการอุบัติและวิบัติของแอตแลนติสไว้ คำพรรณนาของเขาดลบันดาลใจให้มีคนพากันเขียนเรื่องเกี่ยวกับดินแดนนี้ประมาณ 2000 เล่ม มีการค้นหาแอตแลนติสเป็นเวลานับไม่ถ้วนจำนวนปี บางคนทั้งนักวิชาการและวิชาเกินต่างพากันเสนอว่า ดินแดนนี้ควรจะอยู่ตรงนั้นตรงนี้บ้างต่างๆกันไป เบ็ดเสร็จจนถึงปัจจุบันแล้วก็ราวๆ 40 กว่าแห่ง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่ามันมีอยู่จริง

ภาพจำลองแอตแลนติสตามคำบรรยายของเพลโต

ที่มาของแอตแลนติสที่พวกเรารู้จักกันดีนั้น มาจากงานเขียนของเพลโตที่ชื่อ ทิไมอุส และ ครีติอัส ในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ซึ่งกล่าวถึงเรื่องราวของเกาะที่"ใหญ่กว่าลิเบียและเอเชียไมเนอร์รวมกัน" กับพลเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะอันอุดมสมบูรณ์ โดยท้าวความถึงเทพนิยายกรีกที่เมื่อแรกมีการแบ่งดินแดนกัน โปเซดอนเทพแห่งห้วงสมุทรและแผ่นดินไหวได้รับแอตแลนติสมาเป็นสมบัติ ชาวแอตแลนติสทุกคนจึงเป็นเชื้อสายของโปเซดอนกับเคลริโอ ชายาซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวโลก

ตามที่เพลโตกล่าวเอาไว้นั้น แอตแลนติสเป็นชาติที่กุมอำนาจทางทะเลเอาไว้ มีที่ตั้งอยู่ ณ ที่ซึ่งเลยเสาหินของเฮอร์คิวลิส หรือช่องแคบยิบรอลต้าในปัจจุบันออกไป อาณาจักรนี้ครอบคลุมน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจรดอียิปต์และตุรกี เป็นดินแดนอันอุดมด้วยทรัพยากรและอาหารนานาชนิด ทิวเขาสูงกำบังลมจากทางเหนือ สรรพสัตว์ทั้งช้างและม้าเล็มหญ้าอยู่ในท้องทุ่ง ดื่มกินน้ำจากทะเลสาบและลำธาร มีกษัตริย์สิบองค์ครองดินแดนสิบแคว้น พลเมืองทั้งหมดอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีและสันติสุข "พวกเจารังเกียจทุกอย่างนอกจากคุณธรรมอันดีงาม ไม่สนใจใยดีต่อสมบัติพัสสถาน ไม่ว่าจะเป็นทองคำหรือทรัพย์สมบัติอื่นๆ" ชาวแอตแลนติสเป็นทั้งพลเมืองตัวอย่างและนักขี่ม้าที่เก่งกาจ นอกจากนั้นพวกเขายังเชี่ยวชาญด้านการเดินเรืออีกด้วย

ต่อมาชาวแอตแลนติสไม่พอใจกับโชคลาภที่มีและพยายามจะแผ่ขยายอาณาเขต เพื่อทำการครอบครองโลก เกิดสงครามที่รุนแรงตามมาหลายต่อหลายครั้ง ชาติเล็กชาติน้อยย่อยยับกับการกรีฑาทัพของแอตแลนติสไปเป็นแถวๆ มีนครเอเธนส์ของเทพีอาเธน่าเพียงแห่งเดียวที่ยืนหยัดต่อต้านแอตแลนติสเอาไว้ได้ โปเซดอนพิโรธชาวแอตแลนติสมาก และประมาณ 9,500 ปีก่อน คริสตกาลก็เกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นบนตัวทวีป ทำให้แอตแลนติสจมหายไปใต้เกลียวคลื่น ไม่เหลือร่องรอยใดๆเอาไว้จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

เพลโตยืนยันว่าแอตแลนติสเป็นเรื่องจริง และอ้างว่าเขาได้รับฟังเรื่องนี้มาจากรัฐบุรุษโซลอน ซึ่งรับฟังมาอีกทอดจากนับวชก่อนหน้านั้น เรื่องราวได้รับการบอกเล่าสืบทอดกันมาเป็นรุ่นๆ พูดแล้วน่าเศร้าครับ ในแง่ของประวัติศาสตร์ปัจจุบัน แม้กระทั่งท่านอริสโตเติลลูกศิษย์ของเพลโตเองก็ไม่ยอมรับว่าแอตแลนติสเป็นเรื่องจริง การอุบัติและวิบัติของแอตแลนติสนั้นมีปัญหาอยู่สองประการ นั่นคือเรื่องของระยะเวลาและสถานที่ตั้ง ครับ... นั่นคือมุมมองและบทสรุปของวิชาประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน ซึ่งนายโซนิคอ่านดูก็ออกจะขัดใจอยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขาเพิกเฉยต่อหลักฐานหลายๆอย่างที่พอจะเอามาอ้างอิงได้ แต่ก็เอาเถอะครับ ลองมาดูกันดีกว่าว่า ประวัติศาสตร์และโบราณคดีในปัจจุบัน สรุปเรื่องของแอตแลนติสเอาไว้อย่างไรกันบ้าง

แอตแลนติสเป็นอาณาจักรเจ้ากรรมที่มีข้อขัดแย้งกับนักประวัติศาสตร์ปัจจุบันอยู่มากครับ หลายๆท่านค้านว่าอาณาจักรนี้น่าจะเป็นเพียงอาณาจักรในนิทานมากกว่าที่จะมีอยู่จริงๆ เพราะอะไรน่ะหรือครับ เรามาดูมุมมองของนักประวัติศาสตร์กันดีกว่า

อารยธรรมแห่งแรกเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตกาลหรือราวๆห้าพันปีก่อน ในดินแดนแถบตะวันออกกลางที่เป็นที่ตั้งของประเทศอิรัคในปัจจุบัน ครับ ดินแดนเมโสโปเตเมียนั่นเอง ถ้าจะอิงตามตำราประวัติศาสตร์มันก็ใช่อยู่หรอก เพราะไม่มีชุมชนถาวรของมนุษย์ตั้งอยู่เลยก่อนหน้าอารยธรรมสุเมเรียนจะบังเกิด และก่อนหน้า 7,000 ปีก่อนคริสตกาล ไม่มีร่องรอยของชุมชนมนุษย์ที่เป็นเมืองใหญ่เลยด้วยซ้ำ และประการสำคัญนครเอเธนส์ก็ยังไม่มีขึ้นบนโลกนี้ แล้วเอเธนส์ที่ทำศึกกับแอตแลนติสนั้นมาจากไหนเล่าครับ?

ในยุค 9,500 B.C. ที่เพลโตอ้างถึงนั้น มนุษย์ยังไม่รู้จักใช้ม้ากันเลย เพิ่งมาเริ่มใช้กันตอนเริ่มยุคสำริดเมื่อประมาณ 300 BC. แต่ในเรื่องของเพลโตนั้นกลับกล่าวถึงม้าเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง และที่เพลโตย้ำว่าเกาะแอตแลนติสตั้งอยู่เลยเสาหินของเฮอร์คิวลิสออกไปนั้น ยิ่งทำให้ระบุสถานที่ได้ลำบากเข้าไปใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าอะไรต่อมิอะไรมันอยู่ตรงนั้นบ้าง ที่ตั้งที่พอจะใกล้เคียงกันกับแอตแลนติสของเพลโตนั้นก็มีเกาะธีราหรือซานโตริโนของกรีก (แต่มันไม่ยักกะตรงกันเลยในความเป็นจริง) แล้วก็เมืองทรอย ซึ่งอาจถูกเล่าลือกันว่ามันคือแอตแลนติส ในปี 1992 ดร.เอเบอร์ฮาร์ท ซังเงอร์ นักธรณีโบราณคดีผู้โยงโบราณคดีเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาได้ตีพิมพ์ผลงานการค้นคว้า ซึ่งว่าด้วยเรื่องการค้นหาตำแหน่งของแอตแลนติส ซึ่งกินเวลาศึกษานานนับสิบปีในหนังสือชื่อ The Flood from Heaven เขาเสนอว่าเมืองทรอยบนผืนแผ่นดินใหญ่ของตุรกีนั้นตรงกับคำบรรยายของเพลโตเกี่ยวกับแอตแลนติส เมืองทรอยตั้งอยู่ทางเหนือของที่ราบติดกับช่องแคบ มีลมจากทางเหนือพัดกระหน่ำเข้าใส่ รวมทั้งมีบ่อน้ำร้อนน้ำเย็นอยู่ใกล้ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเชื่อว่า "เสาหินของเฮอร์คิวลิส" เพิ่งจะเอามาเรียกช่องแคบยิบรอลต้าเมื่อราวๆ 500 ปีก่อนคริสตกาลนี่เอง ก่อนหน้านั้นคำนี้ใช้เรียกช่องแคบดาร์คาแนลซึ่งคั่นระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย ช่องแคบดังกล่าวเชื่อต่อไปถึงทะเลดำ ส่วนเรื่องการจมหายไปของทวีปแอตแลนติสนั้น(อย่าลืมนะครับว่า กรุงทรอยไม่ได้จมหายไปไหน) ดร.ซังเงอร์กล่าวว่า เมื่อประมาณ 1,200 BC. มีอุทกภัยฉับพลันทำให้น้ำท่วมในดินแดนทรอยส่วนที่เป็นที่ราบ และมันกลายไปเป็นตำนานน้ำท่วมแอตแลนติสไป เฮ้อ...

บทแทรกและแผนที่

ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟและหน้าผาสูงชัน เป็นข้อพิสูจน์ถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแก่เกาะธีราหรือซานโตริโน เมื่อประมาณ 1500 BC. นับแต่ปี ค.ศ. 1967 เป็นต้นมามีการขุดพบซากอารยธรรมอันรุ่งเรืองยุคสำริด ซึ่งมีภาพเขียนปูนเปียกและโบราณวัตถุคล้ายคลึงกับที่พบบนเกาะครีตของพวกไมโนอัน ที่อยู่ห่างออกไปทางทิศใต้ 120 กม. มีข้าวของเครื่องใช้ของลัทธิบูชาวัว ซึ่งตรงกับคำบรรยายของเพลโตเกี่ยวกับควมเชื่อทางศาสนาของแอตแลนติส

ตาภูเขาไฟอันโด่งดัง มันคือชอนิมปล่องภูเขาไฟซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางกิโลเมตร เป็นซากของภูเขาไฟที่เคยตระหง่านอยู่บนเกาะธีรา มีหลักฐานบ่งว่าแรงระเบิดแผ่ไปไกลถึงเกาะครีตและชายฝั่งตะวันตกของตุรกี และเป็นไปได้มากว่าเถ้าจากภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้ บดบังแสงอาทิตย์ทั่วทั้งแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกไปหลายวัน ยิ่งไปกว่านั้น ภูเขาไฟระเบิดที่ธีรายังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับการล่มสลายของอารยธรรมไมโนอัน ซึ่งกำลังเรืองอำนาจอยู่บนเกาะครีตอีกด้วย

แล้วอะไรมันเกิดขึ้นหรือครับ? นอกเหนือจากการไม่ยอมรับกันในเรื่องแอตแลนติสแล้ว คนอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อเรื่องการคงอยู่ของทวีปนี้กลับมองไปที่เกาะธีร่า เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันหลายประการระหว่างคำบรรยายของเพลโตกับซากโบราณคดีบนเกาะนั้น โดยเฉพาะแหล่งโบราณคดีในยุคสำริดรอบๆทะเลอีเจียน เมื่อประมาณ 3000-1500 ปีก่อนคริสตกาล นักโบราณคดีชาวกรีกชื่อศาสตรจารย์มารินาทอสขุดค้นที่อ่าวอะโคทิรีบนเกาะธีรา และพบซากเมืองใหญ่ในยุคสำริด มารินาทอสสันนิษฐานว่าเมืองที่ขุดพบเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของอารยธรรมไมโนอัน บ้านเรือนสูงสองสามชั้นซึ่งถูกตบแต่งอย่างงดงามด้วยภาพเขียนปูนเปียกนั้น บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปะ เมื่อประมาณ 1500 BC. เกาะธีราก็ถึงแก่การพินาศ ๓ุเขาไฟบนเกาะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงทำให้ทั้งเกาะถูกกลืนหายลงสู่ท้องทะเล...

ทว่านะครับ เมืองทรอยและธีราไม่ได้ตรงกับคำอธิบายของเพลโตว่าแอตแลนติสมีอยู่จริงเมื่อ 9000 ปีก่อนสมัยของโซลอน มีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดการเผลอเติมเลขศูนย์เข้าไปอีกตัวนึง หากเพลโตหมายถึงสมัย 900 ปีก่อนสมัยของโซลอน ระยะเวลาก็จะตรงกับที่ภูเขาไฟระเบิดพอดิบพอดี

ถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆมายืนยันชัดแจ้งว่า แอตแลนติสที่เพลโตเขียนเอาไว้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง หากมีการพิสูจน์ได้ว่าเกิดการคลาดเคลื่อนของเวลา และว่าเสาหินของเฮอร์คิวลิสนั้นไม่ได้หมายถึงช่องแคบยิบรอลต้าเสมอไป ปริศนาเรื่องแอตแลนติสก็อาจจะคลี่คลายไปก็ได้

นี่คือบทสรุปจากนักโบราณคดี ว่าด้วยเรื่องราวที่"เป็นไปได้"ของอาณาจักรแอตแลนติสครับ ก็ลองใช้ความคิดใช้วิจารณญาณดูนะครับ ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด แต่โดยส่วนตัวแล้วนายโซนิคไม่ค่อยยอมรับเรื่องของเกาะธีราหรือทรอยเท่าไหร่ เพราะหลักฐานที่ว่าด้วยอาณาจักรปริศนานี้ยังมีอยู่อีกมาก ซึ่งก็ติดตามอ่านได้จากเรื่องราวของการค้นหาอาณาจักร "แอตแลนติส" ในซีรีส์ที่ผมกำลังปั่นอยู่ละกันนะครับ

ร่องรอยอารยธรรมยุคสำริดบนเกาะธีราและรอบทะเลอีเจียน

บทแทรก 2.

คำพรรณนาอันวิจิตรพิสดารของเพลโตเกี่ยวกับแอตแลนติส บันดาลใจให้หลายคนจำลองภาพของแอตแลนติสออกมาตามจินตนาการเมืองหลวงประกอบด้วยลำคลองยาว 22.5 กิโลเมตร กำแพง อุทยาน ที่ตั้งกองทหารและสนามแข่งม้า ทุกอย่างที่กล่าวมาอยู่รอบๆพระราชวังและวิหารอันใหญ่ใจกลางของอาณาจักร โดยแอตแลนติสมีจุดสำคัญดังต่อไปนี้

  • เกาะศูนย์กลางซึ่งมีพระราชวังและวิหารของเทพโปเซดอน กำแพงรอบนอกทำด้วยออริชอล์กซึ่งเป็นโลหะมีค่าชนิดหนึ่ง
  • ท่าเรือภายใน
  • เกาะวงแหวนเล็ก เป็นที่ตั้งสถานเล่นกีฬาและวิหาร กำแพงรอบนอกเป็นดีบุก
  • เกาะวงแหวนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามแข่งม้าและกองทหาร
  • ท่าเรือใหญ่
  • คลอง ลอดใต้เกาะวงแหวนไปสู่ท่าเรือภายใน
  • บริเวณนอกเมือง
  • กำแพงหินรอบเมือง
  • ทางเข้าสู่คลองจากทะเล บริเวณที่ประเทศอื่นๆใช้ติดต่อค้าขายกับแอตแลนติส

 

 

 

 


 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1