เซอร์ กาลาฮัด - อัศวินศักดิ์สิทธิ์

 

 

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกท่าน หลังจากที่บทความเรื่องเซอร์ลานสล๊อตได้ผ่านสายตาเพื่อนๆ ไปแล้ว ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีผู้แสดงความเห็นมากมาย สร้างความปลาบปลื้มใจให้ผมเป็นยิ่งนัก ที่หายหน้าหายตาไปนานนี่ไม่ใช่ไม่อยากทำนะครับ หากแต่ว่าครูเลขชาวมะกันของผมแกให้การบ้านเยอะเหลือเกิน ผมจึงต้องเคลียร์การบ้านให้เสร็จก่อนฮะ แทบไม่มีเวลามานั่งแปลเลย เอาล่ะครับ ในวันนี้ผมจะแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับอีกหนึ่งอัศวินโต๊ะกลมผู้โด่งดัง - เซอร์ กาลาฮัดครับ


เซอร์กาลาฮัด อัศวินศักดิ์สิทธิ์ ผู้ซึ่งใส่เกราะสีแดงเพลิงและมีจิตใจอันบริสุทธิ์ จิตใจของกาลาฮัดไม่เคยมีความโลภอยู่เลย ดาบ Fleur-de-lis ดาบของเขาตีขึ้นมาจากทองแดงและเงินเพื่อให้เข้ากับชุดเกราะสีแดงของเขา กาลาฮัดเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเซอร์ลานซล๊อตกับเอลีนแห่งคาร์บอเนค (Elaine of Carbonek) กาลาฮัดเติบโตขึ้นมาโดยมีแม่ชี 12 นาง เป็นคนเลี้ยงดูมา (ใช้ศัพท์ถูกป่าวหว่า) ผมจึงกล้ารับประกันความซิงของกาลาฮัดได้เลยครับเขายังบริสุทธิ์จริงๆ


เมื่อเวลานั้นมาถึงกาลาฮัด ได้ถูกนำตัวเข้าสภาอัศวินของอาเธอร์ เขาก็มองหาที่นั่ง แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นว่ายังเหลือที่นั่งอยู่ 1 ที่ ใช่แล้วครับ นั่นคือเก้าอี้อันตราย the siege perilous เก้าอี้ที่มีแต่อัศวินที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่จะสามารถครอบครองได้ เก้าอี้ตัวนี้มีพร้อมกับโต๊ะกลมแล้วครับ และเหล่าอัศวินโต๊ะกลมของอาเธอร์ก็ลองนั่งมาหมดแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่มีคนนั่งได้นานๆ เพราะเก้าอี้จะร้อนจนนั่งไม่ได้หากอัศวินที่มานั่งไม่ใช่อัศวินที่ได้รับเลือกครับ ( เหมือนเก้าอี้นายกประเทศไทยมั้ง) และทันทีที่กาลาฮัดได้ครอบครองเก้าอี้ของเขา สภาอัศวินโต๊ะกลมของพระเจ้าอาเธอร์ก็สมบูรณ์


ในที่สุดการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเหล่าอัศวินโต๊ะกลมก็เริ่มทันที ใช่ครับ การตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ในการเดินทางครั้งนี้ เซอร์กาลาฮัด เดินทางไปพร้อมกับเพื่อนอัศวินอีก 2 นายคือเซอร์บอร์ กับเซอร์เพอซิวัล และน้องสาวของเซอร์เพอซิวัล ก่อนการเดินทางกาลาฮัดได้รับโล่ห์สีขาวที่มีรูปกางเขนสีแดงอยู่ตรงกลางขซึ่งเขียนด้วยเลือดของ Joseph of Arimathea ด้วย เหล่าคณะเดินทางได้เดินทางโดยใฃ้เรือของโซโลมอนเป็นยานพาหนะ ระหว่างนี้กาลาฮัดได้รับดาบของดาวิดมาด้วย และหลังจากการตายของน้องสาวเซอร์เพอซิวัล อัศวินทั้งสามก็แยกทางกันค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์ ( จากต้นฉบับของผม เขาไม่ได้กล่าวไว้ครับว่าไปทำไรกันบนเรือของโซโลมอน เดิดอะไรขึ้นบนเรือ ดาบของดาวิดแรงขนาดไหน น้องสาวของเซอร์เพอซิวัลสวยหรือเปล่า ผมตอบไม่ได้ครับ เพราะไม่สามารถหารายละเอียดตรงนี้ได้เลย ขออภัยที่บกพร่องครับ)


จนเมื่อทั้งสามอัศวินได้รวมตัวกันอีกครั้ง เนื่องจากภาพนิมิตของจอกศักดิ์สิทธิ์ได้ชักจูงจนทั้งสามมาพบกัน ทั้งสามจึงเดินทางมาจนถึงปราสาทคาร์บอเนคและก็พบจอกศักดิ์สิทธิ์ และเป็นโชคของพวกเขาที่มีวาสนาที่ได้เห็นจอกศักดิ์สิทธิ์ (ในภาพนิมิตนะ) แหะ แหะ แน่นอนครับมีเพียงเซอร์กาลาฮัดเท่านั้นที่ได้เห็นจอกศักดิ์สิทธิ์ของจริง เนื่องจากเพราะเขาเป็นอัศวินที่บริสุทธิ์ไงครับ (พูดง่ายๆ ยังซิงอยู่นั่นแหละ) และอัศวินผู้กล้าทั้งสามก็ได้รับการอวยพรจาก Joseph of Arimathea (เศรษฐีผู้บริจาคหลุมฝังพระศพให้แก่พระเยซู ตาคนนี้ดังนะ) และเขายังบอกกาลาฮัดอีกว่า ให้นำหอกโลหิต ( Bleeding Spear ) ไปที่ปราสาทของราชา Pelles ผู้พิการและนำหอกโลหิตนี้ไปรักษา อาการผิดปกติของราชาเพลเลสก็หายเป็นปลิดทิ้ง (นี่ก็ไม่รู้เรื่องอีกนั่นแหละว่าหลังจากรักษาราชาเพลเลสจนหายแล้ว กาลาฮัดได้สิ่งใดตอบแทน)


หลังจากภารกิจของเขาสิ้นสุดลง ด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยมของกาลาฮัด เขาก็ได้เห็นภาพนิมิตของจอกศักดิ์สิทธิ์อีกเป็นครั้งที่สอง เขาเฝ้าภาวนาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทูตสวรรค์ได้เอ่ยวาจาว่าจะลงมารับดวงวิญญาณของเขาไปอยู่บนสวรรค์ หากแต่ยังมิถึงเวลา


วันเวลาผ่านไป ปาฎิหาร์ก็บังเกิด ในที่สุดเวลาของเขาก็มาถึง Joseph of Arimathea ได้เข้าไปพบเขาและอนุญาตให้กาลาฮัดแตะจอกศักดิ์สิทธิ์ได้ และทันทีที่กาลาฮัดคุกเข่าภาวนาขอพรต่อพระเป็นเจ้า ทูตสวรรค์ได้ลงมารับดวงวิญญาณของเขาทันที และนี่ก็คือเรื่องเล่าที่น่าทึ่งของเซอร์กาลาฮัด อัศวินศักดิ์สิทธิ์ครับ (กาลาฮัดก็เลยบรรลุพระโสดาบันด้วยประการฉะนี้แล นอกเรื่อง ผมชอบบาทหลวงมอคกุสในเบอร์เซิคมากเลย "เจ้าคนไม่มีศรัทธา" แล้วก็ทุบหนังสือสวดมนต์เป้งลงไป หัวแยกเลย น่ากัว)





 

 

 


 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1