ตำนานแห่งทวยเทพของเหล่า Aztec

 

ตำนานแห่งทวยเทพของเหล่า Aztec ซึ่งเป็นชนชาติที่เคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ในอเมริกากลางนั้นได้ถูกเล่าขานมาเนิ่นนาน และยังเป็นส่วนสำคัญที่กำหนดวัฒนธรรมต่างๆของเหล่าชนชาติปริศนาแห่งอเมริกากลางแห่งนี้ โดยเทพเจ้าที่สำคัญและมีบทบาทต่อความรุ่งเรืองตลอดจนความล่มสลายของ Aztec นั้น มีอยู่ 5 องค์ โดยจัดจำแนกขึ้นมาแทนดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลนั่นเอง


เทพีแห่งปฐพีมารดรแห่งเหล่าทวยเทพ Coatlicue

จัดเป็นเทพองค์หนึ่งที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมของพวกแอซแท็คอย่างมาก เพราะเธอมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับพิธีการบูชายัญมนุษย์ของชาวแอซแท็ค หน้าที่ของเธอคือควบคุมชีวิตและความตายของชาวแอซเท็ค สำหรับรูปร่างของเธอเองนั้นอาจจะทำให้ผู้พบเห็นต้องร้องขึ้นมาด้วยความสยดสยองได้ เนื่องจากเธอเป็นหญิงสาวที่สวมใส่กระโปรงที่ทำด้วยงู และมีสร้อยคอที่ทำด้วยหัวใจของเหยื่อที่โดนเซ่นสังเวยต่อเธอ (จัดเป็นเทพธิดาที่ควบคุมความตายและการมีชีวิตจริงๆ แม่คุณเธอเล่นใส่ชุดสยองขวัญเหมือนอยู่ในเทศกาลฮัลโลวีนอยู่ตลอดเวลา ^^!) โดยชื่อ Coatlicue แล้วก็มีความหมายว่า “กระโปรงอสรพิษ” ซึ่งพวกแอซเท็คที่นับถือเธอคงจะตั้งชื่อเธอตามสัญลักษณ์เสื้อผ้าของเธอนั่นเอง ส่วนรูปร่างหน้าตาของเธอนั้นเธอเองก็สวยซึ้ง ตามลักษณะของเทพีที่คอยควบคุมความตาย โดยเธอมีกรงเล็บที่แหลมคมอยู่ที่แขนและขา และกระหายชีวิตของมนุษย์ที่เป็นเหยื่อสังเวยอยู่ตลอด และสวามีของเทพีแห่งชีวิตและความตายองค์นี้คือ Mixcoatl ซึ่งเป็นพระเจ้าแห่งการล่าสัตว์ โดยมีร่างเป็นอสรพิษแห่งหมู่เมฆ(อา ช่างคล้ายกับตำนานบางตำนานของชาวมายาจริงๆ)

Coatlicue เป็นเทพมารดรของ เทพ Jiotzilopochtli โดยเธอให้กำเนิด Huitzilopochtli โดยลูกบอลขนนกที่ตกลงมายังเทวสถานที่เธอกำลังลูบไล้ในบริเวณหน้าอกของเธอ ก็ได้เกิดการตั้งครรภ์อันสุดพิสดารเกิดขึ้น Coatlicue ได้ทำให้ลูกๆของเธอทั้งสี่ร้อยคนไม่พอใจ แและจากการถูกชักจูงของ Coyolxauhqui ที่เป็นลูกของ Coatlicue เช่นเดียวกัน แต่ว่า อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน Huitzilopochtli ที่อยู่ในท้องของเธอก็ได้ปรากฎตัวออกมาจากท้องของ Coatlicue ในสภาพอาวุธครบมือและไล่ฆ่าเหล่าพี่น้องของตนเองทั้งหมด (ชักจะคล้ายๆ กับมหาภารตะยุทธของทางอินเดีย และตำนานสงครามไตตันของกรีกแล้วแฮะ )

 

รายละเอียดของกระโปรงอสรพิษ งานอีกไสตล์ที่สร้างตามศิลปะแอสเท็ค

หลังจากที่ Huitzliopochtli นั้นได้ตัดหัวของ Coyolxauqui และขว้างออกไปในอวกาศแล้ว ส่วนหัวของเธอก็กลายเป็นพระจันทร์ ลอยเคว้งอยู่กลางหาว และนับจากนั้นเป็นต้นมา Huitzilopochtli ก็ถูกรู้จักกันในนามเทพเจ้าแห่งสงครามและผู้เป็นเจ้าแห่งเวทย์มนตร์ และเขาได้ช่วยเหลือ Tenochtitlan ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งเมืองหลวงของชนเผ่าแอซเท็ค และในบางครั้งก็ถูกนับเป็นเทพเจ้าแห่งการตกปลาอีกด้วย

เทวีแห่งดวงจันทร์ผู้เปล่งฉวีสีทอง Coyolxauhqui

Coyolxauhqui นั้นเป็นเทพแห่งจันทราในตำนานของพวก แอซเท็ค โดยชื่อของเธอนั้นมีความหมายว่า “ระฆังทองคำ” เธอถูกฟาดฟันโดยน้องชายของเธอ ผู้เป็นสุริยะเทพ คือ Huitzilopochtli เนื่องจากเธอทำการชักจูงพี่น้องทั้ง 400 คนนั้นเพื่อร่วมมือกันฆ่า Coatlicue มารดาของเธอ เพราะได้ตังครรภ์ Huitzilopochtli ซึ่งก็คือสุริยะเทพที่ได้ทำการสังหารเธอและพวกพี่น้องนั่นเอง หลังจากที่สุริยะเทพ Huitzilopochtli ได้ตัดหัวของเธอออกไปและขว้างออกไปบนท้องฟ้าจนกลายเป็นพระจันทร์นั้น สีของดาวดวงนี้ก็ได้ส่องประกายสีเหลืองทองตามชื่อของเธอ

Huitzilopochtli สุริยะเทพเจ้าแห่งสงครามและแสงสว่าง

Huitzilopochtli เป็นเทพที่ชนเผ่าแอซเท็คโบราณในเม็กซิโกให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ชื่อของเทพองค์นี้นั้นสามารถแปลได้ตามภาษาแอซเท็คว่า “ผู้มีนำฮัมมิงเบิร์ดสีน้ำเงินอยู่ด้านซ้าย” Huitzilopochtli อยู่ในฐานะของสุริยเทพและสงคราม ของชาวแอซเท็ค รูปร่างของเทพเจ้าองค์นี้นั้นเป็นชายหนุ่มที่มีผิวกายเป็นสีน้ำเงินมีอาวุธครบมือ และประดับส่วนหัวด้วยขนนกฮัมมิงเบิร์ด

มารดาของเทพองค์นี้คือ พสุธาเทวี Coatlicue ซึ่งให้กำเนิด Huitzilopochtli จากลูกบอลขนนกที่ตกลงมายังวิหารที่เธอนอนอยู่ และจากการตั้งท้องที่แปลกประหลาดนี้เองทำให้เป็นชนวนของสงครามแห่งเหล่าทวยเทพของชาวแอซเท็คขึ้น โดยฝ่ายหนึ่งคือ ผู้ที่เป็นเชษฐาและภคินีของ Huitzilopochtli นั้นเอง โดยมีผู้นำของเหล่าพี่น้องคือ Coyolxauhqui เป็นหัวหน้าการกระทำครั้งนี้

(สามารถอ่านการกำเนิดสุริยเทพองค์นี้ได้จาก ตำนานของ “เทพีแห่งปฐพีมารดรแห่งเหล่าทวยเทพ Coaticue” )

สงครามครั้งนั้นจบลงด้วยการที่สุริยเทพได้ทำการฟาดฟันเหล่าบรรดาพี่ ที่คิดจะประหารมารดาและตัวเขาไปพร้อมกัน และตัดหัวของผู้นำเหล่าพี่ของพระองค์เขวี้ยงไปในนภากาศ จนกลายเป็นพระจันทร์
Huitzilopochtli นั้นก็ถูกถือว่าเป็นเทพเจ้าผู้ที่คอยสนับสนุนและชี้ทางให้กับ ชนชาติของเหล่าแอซเท็ค ไปยังแผ่นดิน”แห่งพันธสัญญาในทิษใต้” และเป็นเทพองค์สำคัญที่ส่งเสริมให้ประชาชนชาวแอซเท็คนั้น ต่อสู้ด้วยความอำมหิตต่อผู้ต่อต้านในการสร้างอาณาจักรของแอซเท็ค และนำเชลยศึกนั้นมาทำการบูชายัญให้แก่เทพเจ้า (ซึ่งเทพเจ้าหลักองค์หนึ่งที่ถูกบูชายัญโดยเหยื่อสังเวยนั้นก็คือ เทพมารดรของสุริยะเทพนั่นเอง) ชาวแอซเท็คนั้นได้ทำการใช้เหยื่อเคราะห์ร้ายเพื่อทำการบูชายัญเป็นจำนวนมาก และมีการประกอบพิธีดังกล่าวถี่มาก โดยวัตถุประสงค์ ต่างๆ เหตุผล ตั้งแต่ ขอฝนให้กับอาณาจักร และเพื่อการเก็บเกี่ยวธัญพืช รวมถึงการบวงสรวงเพื่อเซ่นสังเวยให้ชนะในสงคราม เหยื่อสังเวยเหล่านั้นมักจะเป็นนักโทษที่ถูกจับได้ในสงครามเพื่อการขยายอาณาจักรแอซเท็คไปยังอาณาจักรข้างเคียงนั่นเอง โดยส่วนมากแล้วเหยื่อเซ่นสังเวยจะถูกแหวะอกและควักหัวใจออกมา เพื่อสังเวยให้แก่ Huitzilopochtli สุริยะเทพแห่งสงครามนั่นเอง

Tlahuizcalpantecuhtli เป็นเทพแทนดาวศุกร์ และเป็นร่างของ Quetzalcoatl ซึ่งเป็นร่างของอสรพิษปีก ความหมายของชื่อ
Tlahuizcalpantecuhtli นั่น คือ “เจ้าผู้ครอบอาชาแห่งรุ่งอรุณ” ซึ่งตั้งตามนามของเทพองค์นั้ที่เป็นเจ้าของเวลาทั้ง 12 ชั่วโมงในยามกลางวันพิธีการทางศาสนาต่างๆ ของชาวแอซเท็คนั้นจะเริ่มต้นขึ้น ยามดวงอาทิตย์นั้นอยู่ในตำแหน่งบนท้องฟ้าที่สัมพันธ์กันกับตำแหน่งของดาวศุกร์ โดยจะตรวจดูจากการโคจรของดาวศุกร์และดาวลูกไก่ ซึ่งชาวแอซเท็คเรียกว่า ” Tianquiztli “ ซึ่งทุกวันนี้เราจะรู้จักในชื่อว่า “Tula” นั่นเอง และโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของเม็กซิโก ก็คือวิหารของ Tlahuizcalpantecuhtli ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสักการะดาวศุกร์ นั่นเอง

เทวะแห่งอสุนีบาตและความอุดมสมบูรณ์ Tlaloc

Tlaloc เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งที่มีหน้าที่สำคัญในการดลบันดาลสายฝน และความอุดมสมบูรณ์ในตำนานของชาวแอซเท็ค

ประชาชนชาวแอซเท็ค ในศตวรรษที่ 15 ถึง 16 นั้น Tlaloc จะถูกเขียนรูปภาพมาในลักษณะของ ชายหนุ่มที่สวมใส่ตาข่ายเมฆ และประดับดวงมงกุฎขนนกกระสา และสวมใส่รองเท้าแตะ รวมถึงมีเครื่องเล่นของเด็ก ที่ในยามเขย่าะทำให้เกิดสายฟ้า Tlaloc นั้นเป็นเทพผู้ควบคุมกฎของสวรรค์ โดยจะผู้คนที่ถูกถ่วงน้ำจนตายว่า เรียกว่า Tlalocan
เหล่าเด็กๆ ที่มีชื่อพิเศษแตกต่างออกไปนั้นจะถูกบูชายัญแก่เทพเจ้า Tlaloc ในเดือนแรกตามปฏิทินของแอซเท็ค ซึ่งก็อยู่ในช่วง ระหว่าง วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม. โดยเด็กๆ เหล่านั้นจะถูกนักบวชนำไปยังยอดของภูเขาสูง ในบริเวณภูเขาวงกลมของหุบเขา Mexico city และถูกบูชายัญให้แก่เทพเจ้า Tlaloc และหยาดน้ำตาของมารดาเด็กผู้เป็นเหยื่อเซ่นสังเวยเหล่านั้นจะถูกนำมาใช้ในการพยากรณ์ถึง ปริมาณฝนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ความโกรธเคืองของ Tlaloc นั้นจะปรากฎออกมาโดยการใช้สายฟ้าฟาดของพระองค์ทำให้ประชาชนล้มป่วย โดยมีความเชื่อว่า Tlaloc นั้นมีเหยือกน้ำอยู่ 4 เหยือกในครอบครอง โดย เหยือกแรกนั้นยามที่แห้งเหือดนั้นจะทำให้พืชงอกงาม เหยือกที่สองนั้นจะทำให้เกิดกองทัพแมลงทำลายผลผลิตของชาวไร่ เหยือกที่สามนั้นทำให้เกิดหิมะ และเหยือกสุดท้ายนั้นจะนำมาซึ่งการทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

 

 

 

 

 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1