ทรอย Troy

 

สงครามกรุงทรอย (The Trojan War)

สงครามกรุงทรอย (The Trojan War) อยู่ในบทนิพนธ์ที่ชื่อว่า อิเลียด (Iliad) และโอดีสซี (Odyssey) โดยโฮเมอร์ (Homer) กวีตาบอดชาวกรีก ประพันธ์ไว้เมื่อประมาณ 2,400 ปีก่อน แม้โฮเมอร์จะเป็นผู้เริ่มเรื่อง แต่มหากาพย์นี้ได้มีนักขับลำนำและกวีอีกหลายคน ประดิษฐ์คิดแต่งเสริมความจนยืดยาว

๏ อิเลียด เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงต้นเหตุของสงครามแห่งทรอย เล่าเรื่องความขัดแย้งของเหล่าเทพเจ้าและวีรบุรุษ ในสมรภูมิทรอย ในบทท้าย ๆ กล่าวถึงการตายของเฮกเตอร์ขุนพลชาวทรอย แล้วเล่ารวบรัดจนถึงนครทรอยแตก แต่อิเลียด ก็เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์ที่เป็นรากฐานของวรรณกรรมยุโรปเลยทีเดียว

๏ โอดีสซี บทแรกกล่าวถึงช่วงท้ายของสงครามกรุงทรอย และเล่าขยายความตอนกรีกพิชิตนครทรอยต่อจากอิเลียด และเน้นเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากนั้น คือการผจญภัยของวีรบุรุษกรีกคนหนึ่งคือ โอดีสซีอุส (Odysseus) หรือในชื่อโรมันคือ ยูลีซีส (Ulysses) ในระหว่างเดินทางกลับจากสงครามกรุงทรอย เป็นเรื่องต่อเนื่องกับมหากาพย์อิเลียด

๏ ยังมีกาพย์อีกเรื่องที่เล่าเรื่องต่อจากอิเลียด คือ อีนีอิด (Aeneid) แต่ผู้แต่งคือ เวอร์จิล (Virgil) กวีชาวโรมัน เล่าเรื่องของอีเนียส วีรบุรุษฝ่ายทรอยที่หนีออกมา และรอดพ้นการล่มสลายของทรอย เล่ากันว่าเขาเป็นบรรพบุรุษของชาวโรมัน

 

ก รี ก

๏ กรีก (Greek) เป็นชื่อที่ชาวต่างชาติ เรียกชาวกรีก
๏ ชาวกรีก จะไม่เรียกตัวเองว่าเป็นชาวกรีก แต่ตัวเองว่า เฮลีนส์ (Hellenes) หรือ Ellas และ Ellada ซึ่งมาจาก เฮลเลน (Hellen) ชื่อบุตรของ ดิวคาเลี่ยน (Deucalion) มนุษย์คนเดียวที่รอดตายจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกในเทพนิยาย เฮลเลนจึงได้ชื่อว่า เป็นบรรพบุรุษของชาวกรีก

๏ ชาวกรีก เรียกบ้านเมืองของตนว่า เฮลลัส (Hellas)
๏ เรียกประเทศตนเองในภาษากรีกว่า Elliniki Dhimokratia
๏ ในปัจจุบัน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮลเลนิก (Hellenic Republic)

๏ คำว่ากรีก เป็นคำที่พวกโรมันใช้เป็นครั้งแรก โดยใช้เรียกอารยธรรมเก่าทางตอนใต้ของแหลมอิตาลี ซึ่งเจริญขึ้นบนแผ่นดินกรีกในทวีปยุโรป ในคราวที่เติร์กยึดครองกรีซ ชาวเติร์กได้กดขี่ชาวเฮลีนส์ โดยเรียกว่ากรีก ซึ่งคำว่ากรีกนั้นมีความหมายว่า ทาส กรีซได้เอกราชจากอาณาจักรออตโตมันของเติร์ก ในปี 1829

๏ ผู้คนทั่วโลกนั้นนิยมเรียก เฮลีนส์ และเฮเลนิก ว่ากรีก และกรีซ (Greece - ประเทศของชาวกรีก) จนชินปากไปแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ทั่วโลกไม่รู้ ถึงรู้ก็ไม่ใส่ใจความหมาย หากจะรณรงค์เปลี่ยนให้คนทั่วโลกเรียกชาวกรีกว่า เฮลลีนส์ หรือประเทศกรีซว่า เฮเลนิก นั้นถือว่ายากเสียแล้ว

๏ ดังนั้นในต้นฉบับของเทพนิยายกรีก หรือในมหากาพย์ของโฮเมอร์ จะไม่มีคำว่ากรีก ไม่มีชาวกรีก ไม่มีประเทศกรีซ คำว่ากรีกจึงเป็นคำแปลของชาวเฮลีนส์ ที่แปลไปเป็นภาษาต่างประเทศ

เ ฮ เ ล น แ ห่ ง ส ป า ร์ ต า

๏ เมืองลาคีดีมอน (Lacedaemon) แห่งแคว้นลาโคเนีย (Laconia) หรือภายหลังเรียกว่า นครสปาร์ตา (Sparta) อยู่ทางตอนใต้ของดินแดนเฮลลัส หรือกรีซ มีกษัตริย์ปกครองนามทินดารูส (Tyndareus) มีบุตรธิดาที่เกิดจากมเหสีลีดา (Leda) รวมกัน 4 คน คือ คาสเตอร์ (Caster) , พอลลิดูซีส (Pollydeuces) หรือในชื่อละตินคือ พอลลักซ์ (Pollex) , ไคลเตมเนสตรา (Clytemnestra) และคนสุดท้องคือ เฮเลน (Helen)

๏ คาสเตอร์กับพอลลิดูซีส เป็นวีรบุรุษฝาแฝดที่โด่งดัง ไคลเตมเนสตรา ได้เข้าวิวาห์กับจอมกษัตริย์อกาเมมนอน (Agamemnon) เจ้านครไมซิเน (Mycenae) และนครอาร์กอส (Argos) ส่วนเฮเลนน้องสุดท้อง เจริญวัยเป็นหญิงที่งดงามที่สุดบนผืนแผ่นดินในยุคนั้น ความงามของเธอเป็นที่เลื่องลือ

๏ เมื่อถึงเวลาที่เฮเลนต้องมีคู่ครอง บรรดาเจ้านคร เจ้าชาย และวีรบุรุษทั่วกรีซที่หมายปองเธอต่างมายังนครสปาร์ตา กษัตริย์ทินดารูสและราชินีลีดา ต่างก็จนปัญญาที่จะเลือกราชบุตรเขย คุณสมบัติของทุกคนนั้นเพียบพร้อม แต่กษัตริย์วิตกต่อความหมางใจกันของผู้ที่ไม่ได้รับเลือก

๏ โอดีสซีอุส กษัตริย์หนุ่มแห่งเกาะอิธากา (Ithaca) เป็นผู้เสนอแก่กษัตริย์ ให้ทุกคนที่เสนอตัวเป็นคู่ครองเฮเลน ต้องปฏิญาณสัตย์สาบานเป็นพันธสัญญารับรองป้องกันเจ้าสาวและสนับสนุนผู้ที่ได้เลือกไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางระหว่างกัน ส่วนการเลือกนั้นให้เป็นธุระของเฮเลนเอง

คู่ ค ร อ ง ข อ ง เ ฮ เ ล น

๏ สุดท้ายแล้ว เฮเลนคนงามได้เลือก เมเนเลอัส (Menelaus) เจ้าชายหนุ่มแห่งนครไมซินี แม้เมเนเลอัสจะดูสง่าแข็งแกร่งสักเพียงใด ก็ยากจะรู้ใจเฮเลน ว่าเหตุผลที่ต้องเลือกนั้น เพราะความรัก หรือจำใจเลือกตามจารีตประเพณี หรือเพราะเหตุผลทางการเมือง

๏ ไม่ว่าเช่นไร กษัตริย์ทินดารูสพึงพอใจในตัวราชบุตรเขยมาก เพราะเหตุที่เมเนเลอัสเป็นน้องชายที่รักยิ่งของอกาเมมนอน จอมกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจเกรียงไกรแห่งแคว้นอเคี้ยน (Achaean) ซึ่งประกอบเป็นอาณาจักรใหญ่ทางตอนกลางของดินแดนกรีซ

๏ ถึงแม้โอดีสซีอุสผู้เสนอความคิดอันเฉียบแหลม จะไม่ได้ครองคู่เฮเลน แต่กษัตริย์ได้ยกเพเนโลเป้ (Penelope) หลานสาวที่งามไม่แพ้กัน เป็นการตอบแทนความปรีชาสามารถของเขา เมื่อเสร็จงานวิวาห์ของเฮเลน กษัตริย์ เจ้าชาย และวีรบุรุษทั้งปวงต่างกลับไปยังภูมิลำเนาของตน พร้อมด้วยข้อผูกพันในสัตย์ปฏิญาณ
4
๏ โอดีสซีอุส พาเพเนโลเป้กลับเกาะอิธากา เมเนเลอัสและเฮเลน ครองคู่อยู่ด้วยกันด้วยความผาสุกในสปาร์ตา เป็นเวลาล่วงเลยถึง 10 ปี จนมีบุตรธิดาด้วยกัน บรรดาวีรบุรุษ กษัตริย์ และเจ้าชายทั่วกรีก รวมทั้งชาวทรอยคงจะอยู่ด้วยกันด้วยความสุขสงบ ถ้าไม่มีปารีส (Paris)

น ค ร โ ท ร จั น

๏ ทรอย (Troy) ตั้งชื่อตามกษัตริย์ ทรอส (Tros) ผู้เริ่มก่อตั้งนคร หรืออีกชื่อหนึ่งคือ อิเลียม (Ilium, Iliom) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อมหากาพย์อิเลียดนั้น ถูกเรียกตามกษัตริย์รัชกาลที่ 4 แห่งทรอย เป็นบุตรของกษัตริย์ทรอส ชื่อว่าอิลัส (Ilus) ส่วนชาวเมืองทรอย มีชื่อเรียกว่า ชาวโทรจัน (Trojan)

๏ ทรอย ตั้งอยู่ในแคว้นโทรด (Troad) บนผืนแผ่นดินเอเชียน้อย หรือเอเชียไมเนอร์ ริมฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลอีเจี้ยน (Aegean) ทะเลที่กั้นกลางระหว่างดินแดนกรีซและเอเชียน้อย ตัวเมืองตั้งอยู่ลึกจากชายฝั่งทะเลเข้าไปในหุบเขาเป็นชัยภูมิที่มั่นคง แวดล้อมด้วยเนินเขาและแม่น้ำสองสาย

๏ ทรอย มีกำแพงเมืองล้อมรอบประกอบด้วยค่ายคูประตูหอรบและเชิงเทินอันแข็งแกร่ง เล่าว่า เมื่อครั้งกษัตริย์อิลัสเสริมสร้างป้อมปราการและกำแพงนครให้มั่งคงแข็งแรงนั้น พระองค์ได้รับเทวรูปศักดิ์สิทธิ์มาองค์หนึ่ง เป็นประติมากรรมเทวีอาธีน่า (Athena) ซึ่งชาวโทรจันเชื่อว่าตราบใดที่เทวรูปนี้ยังอยู่ในนคร ทรอยจะไม่มีวันแตกได้ เทวรูปเทวีอาธีน่าจึงเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองทรอย

๏ ต่อมาท้าวเพรียม (Priam) หรือ โพดาร์ซิส (Podarces) ได้ถูกสถาปนาเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งทรอย มีคู่ครองคือเฮกคิวบา (Hecuba) มีบุตรธิดาด้วยกัน 19 คน ผู้ที่ควรกล่าวถึงคือ เฮกเตอร์ (Hector) , ปารีส (Paris) , ไดโฟบัส (Deiphobus) , เฮลเลนัส (Helenus) , โพลิกซีนา (Polyxena) และคาสซันดรา (Cassandra)

ป า รี ส เ จ้ า ช า ย ผู้ นํ า พ า ค ว า ม วิ บั ติ

๏ เมื่อราชินีเฮกคิวบาตั้งครรภ์ ได้ฝันบอกเหตุร้ายว่าบุตรจะเป็นผู้ก่อเหตุเดือดร้อนให้บ้านเมืองถึงคราวล่มสลาย กษัตริย์เพรียมจึงสั่งให้นำทารกไปสังหาร แต่เพราะโชคชะตา หรือความสงสาร ทารกได้ถูกทิ้งไว้บนเขาไอดา (Ida) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทรอย คนเลี้ยงแกะบริเวณนั้นนำทารกไปเลี้ยงจนเติบใหญ่เป็นหนุ่มรูปงาม ชื่อว่า ปารีส

๏ ปารีสได้เป็นผู้คุมฝูงแกะ และได้อีโนนี (Oenone) เป็นภรรยา พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรกับปารีส ปารีสครองคู่กับอีโนนีด้วยความผาสุก จนกระทั่งวันหนึ่งปารีสติดตามคนเลี้ยงแกะเข้าสู่ทรอยซึ่งขณะนั้นมีงานฉลอง และมีการแข่งขันประลองฝีมือระหว่างบรรดาลูกเจ้านครและแม่ทัพนายกอง

๏ ปารีสซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงคนจรได้เข้าร่วมประลองฝีมือ ได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ปรากฏต่อหน้าบัลลังก์และผู้คนชาวโทรจัน จนชนะใจกษัตริย์เพรียมและปวงชน เมื่อได้ไล่เลียงถึงประวัติถึงได้รู้ว่าเป็นเจ้าชายคนหนึ่งแห่งทรอย

๏ ด้วยรูปโฉมที่งดงามและเพรียบพร้อมด้วยความสามารถ กษัตรย์เพรียมลืมคำพยากรณ์ไปเสียสนิท อีกทั้งยินดีปรีดิ์เปรมในตัวบุตรชาย ปารีสจึงได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งทรอยอย่างสมเกียรติ ได้เข้ามาเสวยสุขอยู่ในนคร จนลืมอีโนนีและลูกน้อย

 

ป า รี ส ลั ก พ า เ ฮ เ ล น

๏ กษัตริย์เพรียมคิดถึงฮีไซโอนี (Hesione) น้องสาวที่พลัดพรากจากกันไป จึงได้แต่งตั้งให้ปารีสคุมขบวนเรือไปยังดินแดนกรีซ เพื่อไปรับตัวอาของปารีสลับสู่นครทรอย แต่ความมุ่งหมายของปารีส คือได้ยลโฉมเฮเลนแห่งนครสปาร์ตา เพราะได้ยินกิตติศัพท์ความงามที่สุดของสตรีผู้นี้

๏ สปาร์ตาในขณะนั้นอยู่ในความปกครองของเมเนเลอัส ซึ่งได้สืบวงศ์ต่อจากกษัตริย์ทินดารูส ทั้งกษัตริย์เมเนเลอัสและราชินีเฮเลน ต้อนรับอาคันตุกะหนุ่มรูปงามอย่างเอิกเกริกสมเกียรติเจ้าชายแห่งทรอย อีกทั้งเชื้อเชิญให้พำนักอาศัยอยู่ในราชวังในระหว่างเดินทางมาเยี่ยมเยียน

๏ ปารีส เมื่อเห็นเฮเลนที่งดงามหมดจด จึงเกิดความพิศวาสหลงรัก หลงใหลเฝ้าประสงค์ในความเป็นเจ้าของต่อเธอ จนลืมถึงไมตรีจิตที่เมเนเลอัสมอบให้โดยไม่ซื่อ อนิจจา! เหตุใดเล่า พระนางเฮเลนก็เช่นกัน พระนางต้องใจชายหนุ่มรูปงามผู้นี้ในครั้งแรกที่ได้พบด้วยความเสน่หา

๏ เมื่อกษัตริย์เมเนเลอัสมีกิจธุระต้องเดินทางข้ามทะเลไปยังเกาะครีต (Crete) ทิ้งเฮเลนไว้ลำพังในสปาร์ตา ด้วยอำนาจรักและใคร่ที่มิอาจหักห้ามใจได้ ปารีสได้ลักพาเฮเลนหนีลงเรือไปยังทรอยทันที ไม่ว่าเฮเลนจะสมยอมหรือไม่ กษัตริย์เพรียมได้รับรองเธอเป็นสะใภ้ด้วยความยินดี หรือเพื่อเป็นการทดแทนการกลับมาของฮีไซโอนีน้องสาวก็หารู้ได้

๏ ทางฝ่ายเมเนเลอัสเมื่อกลับจากครีต ได้ทราบข่าวก็เสียใจ โกรธแค้นปารีสยิ่งนัก ได้แต่งขบวนเรือรบพร้อมอาวุธเต็มอัตราเพื่อไปยังน่านน้ำแคว้นโทรด หมายจะรบพุ่งชิงตัวเฮเลนกลับคืน พร้อมกับประกาศร้องขอความช่วยเหลือไปตามแว่นแคว้น และนครใหญ่น้อย รวมทั้งพันธมิตรทั่วกรีก โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่กระทำสัตย์สาบานไว้

 

ป ร ะ นั ง พ ล

๏ อกาเมมนอนจอมกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจ ครองแคว้นอเคียนส์ แคว้นที่มีความเกรียงไกร และเป็นราชประมุชของกษัตริย์ทั้งหลายในดินแดนกรีซ เปรียบได้ว่าเป็นกษัตริย์แห่งกษัตริย์ จึงขานรับความต้องการของน้องชายสุดที่รัก ได้มีหมายเรียกประนังพลเหล่าพันธมิตรทั่วกรีซ

๏ พันธมิตรแห่งอเคียนส์ทั้งหมดโยธาทัพเรือพร้อมทหารกล้า มาตามหมายเรียกพล ทั้งผู้ที่ให้สัตย์ปฏิญาณ และผู้ที่ไม่ได้ให้สัตย์ ซึ่งยกทัพมาสมทบ เพราะความเคืองแค้นที่ทรอยไม่ให้เกียรติกรีซ และยังย่ำยีอีกด้วย ยกเว้นแต่โอดีสซีอุส แห่งเกาะอิธากา

๏ โอดีสซีอุสที่กำลังมีความสุขอยู่กับเพเนโลเป้ผู้ชายา และทีแลมมาคัส (Telemachus) ลูกน้อยอันเป็นที่รัก ที่เพิ่งเกิดได้ไม่ถึงปี จึงไม่อยากออกศึกสงครามที่ต้องจากบ้านเมืองไปนาน พร้อมอ้างเหตุที่เฮเลนเป็นหญิงมีราคีคาวเสียแล้ว หาควรที่จะลงทุนยกทัพใหญ่หลวงด้วยเหตุมิชอบที่จะนำตัวกลับมา

๏ เมื่อผู้นำสารของเมเนเลอัสมาถึง โอดีสซีอุสแสร้งทำเป็นบ้าโดยไถนาแล้วเอาเกลือหว่าน ฝ่ายผู้นำสารนึกสงสัยจึงออกอุบายนำบุตรน้อยของโอดีสซีอุสขวางทางไถ โอดีสซีอุสจึงยอมจำนนร่วมเข้าทัพ ฝ่ายกรีกยังขาดวีรบุรุษผู้เยาว์แต่มีฝีมือเก่งกล้าสามารถคนสำคัญ นั่นคือ อคิลลีส (Achilles)

อ คิ ล ลี ส ห นี ทั พ

๏ อคิลลีส บุตรกษัตริย์พีลูส (Peleus) แห่งแคว้นพิเธีย (Phthia) อคิลลีสมิได้ปฏิญาณสัตย์เหมือนนายทัพคนอื่น ๆ เพราะในช่วงเวลานั้นเขายังเป็นทารก แต่มีคำทำนายว่าทรอยจะแตกไม่ได้ถ้าปราศจากเขา ทัพกรีซจึงต้องการตัว ขณะนั้นอคิลลีสมีอายุเพียง 15 ปี แต่มียศได้เป็นแม่ทัพของเหล่าทหารหาญเมอร์มิดอน (Myrmidons) ทหารกล้าแห่งพิเธีย

๏ ธีทิส (Tetis) มารดาของอคิลลีส มีความห่วงใยและรักบุตรชายอย่างมาก หวั่นเกรงว่าบุตรจะตายในสนามรบตั้งแต่ยังเยาว์ คิดหลบเลี่ยงการตามตัวไปทัพ จึงส่งตัวอคิลลีส ไปยังวังของท้าวลิกโกมิเดส (Lycomedes) แห่งเกาะสไกรอส (Skyros) ให้อคิลลีสปลอมตัวเป็นหญิงปะปนอยู่ในราชสำนัก

๏ โอดีสซีอุสรู้ทัน จึงปลอมเป็นพ่อค้าเร่นำข้าวของเครื่องประดับและศาตราวุธปะปนไปขายในวัง หญิงชาววังต่างเลือกเครื่องประดับมีค่า โอดีสซีอุสแสร้งทำทีเข้าบุกจู่โจมทำร้าย อคิลลีสเผลอตัวคว้าอาวุธป้องกัน เมื่อความลับเผย โอดีสซีอุส และปโตรคลัส (Patroclus) สหายรักของอคิลลีสที่เติบโตเป็นเพื่อนเล่นมาด้วยกัน ก็เกลี้ยกล่อมเขาให้ไปศึกได้สำเร็จ

๏ เมื่อแม่ทัพทุกคนทุกฝ่ายมาพร้อมหน้า เมเนเลอัส จึงประกาศแต่งตั้งกษัตริย์อกาเมมนอนพี่ชายของตนเป็นจอมทัพหลวง ด้วยความเห็นชอบของทุกฝ่าย ทัพกรีกทั้งหมดในศึกนี้ จึงถูกเรียกขานแทนด้วยนาม อเคียนส์ (Achaeans) ซึ่งเป็นชื่อแคว้นที่อกาเมมนอนปกครองอยู่

 

ย ก พ ล ขึ้ น บ ก

๏ กองเรืออเคียนส์ทั้งหมดชุมนุมอยู่ ณ ท่าเรือเมืองออลิส (Aulis) ตอนกลางของดินแดนกรีซ คอยเวลาลมส่ง แต่คอยค้างอยู่เป็นแรมปีก็ไม่มีลมอำนวยให้ออกเรือ กาลคาส (Calchas) โหรพยากรณ์ประจำทัพ ทายทักว่าอกาเมมนอนต้องสังเวยอิฟฟิจีไนอา (Iphigenia) ธิดาสุดที่รักแก่เทพเจ้า

๏ เหตุนี้เองทำให้ราชินีไคลเตมเนสตรา ชายาของอกาเมมนอนไม่พอใจสามี ไม่ทันที่อิฟฟิจีไนอาจะถูกบูชายัญ ลมก็ได้พัดอำนวยให้ขบวนเรือรบอเคียนส์ทั้งหมดเคลื่อนทัพออกไปได้ ระหว่างทาง ฝ่ายอเคียนส์ได้ละทิ้งฟิลอกทีทิส (Philoctetes) ผู้มีลูกธนูอาบเลือดไฮดร้า ไว้ที่เกาะเลมนอส (Lemnos) ด้วยเหตุที่เขาเจ็บป่วยหนักจากการถูกงูพิษกัดไม่อาจร่วมรบได้

๏ เมื่อกองเรืออเคียนส์ยกมาถึงน่านน้ำไซเจียม (Sigeum) ปลายแคว้นโทรด กองทัพโทรจันประกอบด้วยแม่ทัพใหญ่อย่างเฮกเตอร์ อีเนียส (Aeneas) รวมทั้งเหล่าเครือญาติและพันธมิตร ขบวนเรือโทรจันระดมยิงธนูดังห่าฝน แต่นายท้ายผู้สามารถของเรืออเคียนส์แต่ละลำพาเรือเข้าเกยฝั่งได้ เมื่อยกพลขึ้นบก ไพร่พลก็พากันกรูลงจากเรือเปิดฉากการรบขึ้นเป็นวาระแรก

๏ โพสเทสสิเลอัส (Protesilaus) กษัตริย์แห่งนครไพลาซ (Phylace) ถูกหอกของเฮกเตอร์ซัด เสียชีวิตเป็นคนแรก ยังมีคนอื่น ๆ ตายลงอีกมากกว่าที่ทัพอเคียนส์สามารถขึ้นบกจัดเป็นขบวนทัพยกเข้ากระทำสัประยุทธกับฝ่ายโทรจันได้ เมื่อทัพอเคียนส์หนุนหนักเข้าไป ทัพโทรจันสู้ไม่ไหวก็ถอยทัพเข้าเมืองทรอย ฝ่ายอเคียนส์ยึดที่มั่นริมทะเลได้จึงตั้งค่ายอย่างมั่นคง

 

ร ะ ย ะ ต้ น ข อ ง ส ง ค ร า ม

๏ แต่ด้วยชัยภูมิอันเป็นเยี่ยมและกำแพงอันแข็งแกร่งของทรอย แม้ทัพอเคียนส์ยังคงยึดมั่นระดมพลเข้าทำลายกำแพงเมือง จนการศึกยืดเยื้อติดพันมานานหลายปี ยังบุกตีเข้าเมืองไม่สำเร็จ เสบียงอาหารเริ่มฝืดเคือง และเครื่องใช้ไม้สอยร่อยหรอ กำลังใจเหล่าทหารหาญมีน้อยลง เพราะก็เป็นห่วงบ้านเมืองที่จากมานาน

๏ จอมทัพอกาเมมนอนจึงปรึกษาด้วยแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ทั้งหมดต่างเห็นชอบพร้อมกันว่า ยังไม่ควรตีหักเอาเมืองทรอย ซึ่งกว่าจะสำเร็จต้องสูญเสียไพร่พลมาก ทั้งเสบียงอาหารอาจหมดเสียก่อน ยังมีหัวเมืองเล็กเมืองน้อยที่อยู่ในอำนาจของทรอย อีกทั้งพันธมิตรทรอยที่ยกทัพมาช่วย จึงตกลงแบ่งทัพเป็นสองส่วนคือล้อมทรอยไว้ และเข้าตีนครใกล้เคียง

๏ ที่ประชุมขุนศึกอเคียนส์จึงตกลงแยกย้ายไปตีเมืองเหล่านั้น ถือเป็นการตัดกำลังทรอย ในการนี้บรรดาเมืองต่าง ๆ ได้สู้รบป้องกันเป็นสามารถ แต่ทัพอเคียนส์ได้เที่ยวตีหัวเมืองรายรอบแคว้นโทรดได้เป็นอันมาก ในบรรดากองทัพอเคียนส์ทั้งหลาย กองทัพของเจ้าชายอคิลลีสที่ขณะนี้เติบใหญ่เป็นหนุ่มฉกรรจ์ โจมตีเมืองได้มากที่สุด

๏ ไพร่พลทหารเมอร์มิดอนของอคิลลีส ได้ทั้งเสบียงอาหาร ทรัพย์สมบัติและเชลยเป็นอันมาก ในบรรดาเชลยเหล่านั้นมีหญิงงามนางหนึ่ง ชื่อไบรเซอิส (Briseis) เป็นผู้มีความรักและเทิดทูนอคิลลิสเป็นอย่างยิ่ง และอคิลลีสก็รักนางเช่นกัน

เ ฮ ก เ ต อ ร์ จ อ ม ทั พ แ ห่ ง โ ท ร จั น

๏ ระหว่างที่บรรดานายทัพอเคียนส์เที่ยวตีปล้นหัวเมืองชายทะเลและที่ราบอยู่นั้น ข้างฝ่ายเฮกเตอร์จอมทัพหลวงผู้เป็นกำลังหลักสำคัญของฝ่ายทรอย ก็ยกทัพโทรจันออกต่อตีทัพอเคียนส์มิได้ขาด ในบางครั้งโทรจันต้องถอยทัพเข้าเมือง แต่ในบางคราวฝ่ายอเคียนส์ก็ต้องแตกร่นกลับเข้าค่ายเช่นกัน

๏ เฮกเตอร์บุตรคนโตของกษัตริย์เพรียม ผู้มกุฏราชกุมารแห่งทรอย ถือเป็นวีรบุรุษผู้อาจหาญ ประหนึ่งศูนย์รวมจิตใจของชาวโทรจัน มีใจยุติธรรมควรแก่การสรรเสริญ เป็นที่ยกย่องเสมอด้วยอคิลลีส แม้ศึกครั้งนี้ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ แต่เหตุนั้นได้กลายเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับเกียรติภูมิของบ้านเมือง ซึ่งจะต้องป้องกันอย่างสุดความสามารถเต็มภาคภูมิจนถึงที่สุด

๏ เมื่อเฮกเตอร์นำทัพโทรจันออกรบ อันโดรมาคี (Andromache) ชายาและบุตรน้อยอัสไตยานักส์ (Astyanax) มักขึ้นไปบนเชิงเทินเฝ้าดูการรบนั้นด้วยความอาลัย ก่อนที่เฮกเตอร์จะออกรบทุกครั้งอันโดรมาคี ต้องอ้อนวอนไม่ให้เฮกเตอร์ออกสู่สมรภูมิ แต่ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบ และเกียรติยศศักดิ์ศรี จำให้เฮกเตอร์ต้องกระทำ

๏ เหล่าทหารและชาวโทรจันต่างรักใคร่เฮกเตอร์เป็นอย่างมาก ต่างจากปารีสที่ไพร่พลและแม่ทัพเกลียดชัง เพราะเขาเป็นเหตุแห่งการศึก เฮกเตอร์ต้องเตือนปารีสน้องชายผู้ขลาดและย่อท้อว่า ควรแล้วหรือที่ออกเสียจากการรบ เพียงเพราะไม่พอใจชาวเมือง ก่อนที่นครจะถูกเผา จงพิสูจน์ตนเองให้ผู้กล่าวหาได้เห็นเถิด ทำให้ปารีสมีจิตฮึกเหิมทะมัดทะแมงขึ้นมาบ้าง

 

โ ท ส ะ ข อ ง อ ก า เ ม ม น อ น

๏ ทัพอเคียนส์ในบังคับบัญชาของแม่ทัพคนอื่น ๆ ตีได้เมืองครีเซ (Cryse) เป็นที่ตั้งวิหารเทพอพอลโลอันศักดิ์สิทธิ์ มีไครเซส (Chryses) เป็นเจ้าพิธีผู้ชรารักษาวิหาร พวกอเคียนส์ไม่แต่จะปล้นบ้านเรือนและเก็บทรัพย์สินมีค่าในศาลไปเท่านั้น ยังจับเอาไครเซอิส (Chryseis) ธิดาไครเซสเป็นเชลยเพื่อกำนัลแด่จอมทัพอกาเมมนอน

๏ อกาเมมนอน หลงนางไครเซอิส ต้องการจะเอาไปเป็นสนมในวัง แม้ไครเซสจะมาไถ่ตัวลูกสาวด้วยทองคำเป็นอันมากก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจอกาเมมนอนได้ แม่ทัพคนอื่น ๆ เห็นสมควรในการรับค่าไถ่ ก็ไม่สามารถจะหว่านล้อมทิฐิของอกาเมมนอน ทำให้ผู้เฒ่าไครเซสเสียน้ำใจยิ่งนัก

๏ ระหว่างนั้นเกิดโรคระบาดขึ้นในกองทัพอเคียนส์ สัตว์พาหนะและไพร่พลล้มตายเป็นอันมาก ณ ริมฝั่งทะเลที่ตั้งค่ายของกองทัพมีควันพลุ่งโขมงไม่มีเวลาสร่าง เพราะฝ่ายอเคียนส์ต้องการเผาศพอยู่ตลอดเวลา กาลคาสโหรประจำทัพไขว่าเพราะอกาเมมนอนไม่คือไครเซอิสให้แก่บิดา เป็นเหตุทำให้ผู้เฒ่าไครเซสอ้อนวอนให้เทพเจ้าช่วย อกาเมมนอนโกรธกาลคาสเป็นอย่างมาก

๏ ถึงที่ประชุมมีมติให้คืนไครซีอิสให้แก่บิดาของนาง อคิลลีสและแม่ทัพอื่น ๆ พยายามเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมอกาเมมนอน โดยให้ข้อแม้ว่าหากเมื่อนครทรอยแตก จะยกทรัพย์สินที่ยึดได้ในส่วนตนเป็นสิทธิ์แก่อกาเมมนอนชดเชยแทนนาง ถึงกระนั้นแล้วจอมทัพอกาเมมนอนก็คงยืนกรานไม่ยอมปฏิบัติตามด้วยโมหะจริตกล้า

 

ส า มั ค คี เ ภ ท ข อ ง พ ว ก ก รี ก

การโต้เถียงระหว่างอคิลลีสหนุ่มและอกาเมมนอน เกรี้ยวกราดรุนแรงมากขึ้น ถึงขนาดที่อคิลลีสเกือบชักดาบออกมาฟาดฟันอกาเมมนอนด้วยความโกรธเคือง ในที่สุดก็ยุติด้วยการไกล่เกลี่ยของสัตบุรุษผู้อาวุโสเนสเตอร์ (Nester) กษัตริย์แห่งนครไพลอส (Pylos) เนสเตอร์เป็นที่นับถือของแม่ทัพกรีกทั้งปวงโดยเฉพาะอกาเมมนอน

๏ เพราะการเจรจาของเนสเตอร์ ยังผลให้อกาเมมนอนยอมส่งตัวไครเซอิสไป แต่มีข้อแม้ให้เอานางไบรเซอิสของอคิลลีสเป็นของตนทดแทน เพราะวุฒิภาวะที่ด้อยกว่า อคิลลีสจำใจยอมยกไบรเซอิสให้แก่อกาเมมนอน เหตุนี้ทำให้อคิลลีสโกรธแค้นมากในการที่ถูกข่มเหงน้ำใจ หมดความนับถืออกาเมมนอน จึงไม่ยอมร่วมการรณรงค์รบกับทัพอเคียนส์อีกต่อไป

๏ ด้วยความแค้นใจอคิลลีสอยากให้ฝ่ายทรอยมีชัยชนะ เพื่อจะดูท่าทีอกาเมมนอนผู้มักแต่จะบัญชาการมากกว่าออกไปรบ ว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร เมื่ออกาเมมนอนเกิดฮึกเหิมยกทัพอเคียนส์ออกประนังพลอย่างเอิกเกริกจนประชิดกำแพงทรอย อคิลลีสและทหารเมอร์มิดอนของตนก็สงบเฉยอยู่ในค่าย หายกกำลังออกไปร่วมรบไม่

 

ต ร ะ บั ต สั ต ย์

๏ ฝ่ายทรอยเมื่อเห็นทัพอเคียนส์ยกมาแต่ไกล ก็แต่งทัพโทรจันยกออกจากเมืองเข้าหาทัพข้าศึก บรรดาบุตรหลานของกษัตริย์เพรียมที่คุมทัพโทรจันออกไปมีเฮกเตอร์ ปารีส และอีเนียส เวลานั้นกษัตริย์เพรียมได้ชักชวนเฮเลนขึ้นไปคอยดูการสัประยุทธ์บนเชิงเทิน พร้อมทั้งสอบถามเฮเลนว่านายทัพฝ่ายอเคียนส์ที่ยกมานี้มีใครต่อใครบ้าง

๏ ที่กลางสมรภูมิ เฮกเตอร์และอกาเมมนอนได้เจรจาตกลงหย่าศึก ให้ระงับการสัประยุทธ์ในระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย แต่ให้ปารีส และเมเนเลอัสคู่อริโดยตรงเผชิญกันแต่ลำพัง ผู้ชนะจะได้ครองเฮเลน หากเมเนเลอัสพ่ายแพ้ฝ่ายอเคียนส์ยินดีที่จะเลิกทัพกลับไปบ้านเมือง

๏ เมเนเลอัสและปารีสต่างเผชิญหน้าต่อสู้กันเป็นพัลวัน เมื่อปารีสเพลี้ยงพล้ำ เมเนเลอัสได้ทีในการต่อสู้ แพนดารัส (Pandarus) ขุนศึกฝ่ายโทรจันผู้มีฝีมือในการยิงธนู ฉวยโอกาสยิงเมเนเลอัสขณะเผลอ ลูกธนูพุ่งไปถูกเมเนเลอัสแต่พลาดที่สำคัญ ฝ่ายอเคียนส์เห็นดังนั้นจึงถือเอาเหตุว่าฝ่ายโทรจันตระบัตสัตย์ จึงขับพลเข้าโจมตีทัพโทรจันทันที การสัประยุทธ์ใหญ่จึงเกิดขึ้น

 

สั ป ร ะ ยุ ท ธ ใ ห ญ่

๏ กองทัพของทั้งสองฝ่ายรบพุ่งกันอย่างโกลาหลอลหม่าน เสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งท้องทุ่งสมรภูมิ นักรบผู้แกล้วกล้าฝ่ายอเคียนส์ได้แก่ อแจ็กซ์ (Ajax) และทูเซอร์ (Teucer) สองพี่น้องต่างมารดาแห่งเกาะซาลามิส (Salamis) ไดโอมิดีส (Diomedes) แห่งนครอาร์กอส (Argos) และอันติโลคัส (Antilochus) บุตรแห่งเนสเตอร์ ข้างฝ่ายโทรจันได้แก่ เฮกเตอร์ และอีเนียส

๏ ไดโอมิดีสมีวีรกรรมห้าวหาญ เข้าสังหารแพนดารัส และทำให้อีเนียสบาดเจ็บ แต่ทัพโทรจันยังมี เจ้าชายซาปิดอน (Sarpedon) และกลอคัส (Glaucus) แห่งลีเซีย (Lycia) พันธมิตรของทรอย เข้าประจัญบานกับไดโอมิดีส โรมรันพันตูอย่างเป็นสามารถทั้งสองฝ่าย จนเมื่อฝ่ายโทรจันเพลี้ยงพล้ำ เฮกเตอร์ได้ถอยทัพเข้าเมือง

๏ เมื่อเฮกเตอร์จัดแต่งทัพ ร่ำลาอันโดรมาคีชายารักเพื่อออกไปสมรภูมิอีกครั้ง เห็นปารีสที่พ่ายต่อเมเนเลอัสหลบเข้ามาในตำหนัก เฮกเตอร์บริภาษปารีสให้ออกไปสู้รบ ทั้งเฮกเตอร์และปารีสจึงขับทหารเข้าพันตูกับฝ่ายอเคียนส์ที่ตั้งค่ายอยู่นอกเมืองอีกวาระ

๏ ครานี้เฮกเตอร์ท้าแม่ทัพอเคียนส์รบตัวต่อตัว ฝ่ายอเคียนส์รับคำท้า ฉลากตกที่อแจ็กซ์ อแจ็กซ์เข้าโรมรันตัวต่อตัวกับเฮกเตอร์อย่างสูสีต่อหน้าทั้งสองทัพ จนพลบค่ำ ทูตทั้งสองฝ่ายเข้ามาเจรจาขอพักรบ เพื่อแต่ละฝ่ายจะได้จัดการศพของทหารที่ตายเสียคราวนึงก่อน

ฝ่ า ย ก รี ก ล่ า ถ อ ย

๏ รุ่งขึ้น เมื่อถึงกำหนดสัประยุทธครั้งใหม่ ฝ่ายโทรจันก็ยกทัพออกจากทรอย เข้ารับทัพของฝ่ายอเคียนส์ในทุ่งไพศาล ทั้งสองฝ่ายโรมรันพันตูเป็นสามารถ กองทัพอเคียนส์เป็นฝ่ายถอยกรูด ทหารอเคียนส์แตกกระจัดกระจายย่อยยับไม่เป็นขบวน

๏ เฮกเตอร์เห็นได้ทีก็ขับทหารให้เร่งตาม ไพร่พลอเคียนส์ถูกฆ่าฟันล้มตายเป็นอันมาก พวกที่เหลือก็ยิ่งเสียขวัญ แตกร่นไปถึงเพนียดค่ายที่กำบังกองเรือที่จอดอยู่ ทหารอเคียนส์กลับมุมานะสู้รบอย่างจนตรอกที่หน้ากำแพงค่ายต้านทัพโทรจันไว้ การสู้รบดำเนินไปอย่างตะลุมบอนจนฝ่ายอเคียนส์ได้เบี้ยบน ทัพโทรจันแห่งทรอยกลับเป็นฝ่ายถอย

๏ การสัประยุทธ์ติดพันไปมาจนเวลาพลบค่ำ ฝ่ายอเคียนส์เพลี้ยงพล้ำถอยทัพเข้ากำแพงค่าย ฝ่ายโทรจันรู้สึกเสียดายยิ่งนัก ถ้าได้รบต่อไปอีกก็เห็นจะกระหน่ำบุกทะลวงเผาเรือได้ เฮกเตอร์คิดเผด็จศึกให้สำเร็จในวันรุ่งขึ้น จึงให้ทหารพักรบที่กลางสนามรบแทนที่จะเข้าเมือง โดยลำเลียงเสบียงอาหารออกมาจากทรอย

 

ทิ ฐิ ข อ ง อ คิ ล ลี ส

๏ ขณะนั้นฝ่ายอเคียนส์มีการประชุมแม่ทัพนายกอง ทั้งอกาเมมนอน ไดโอมิดีส อแจ็กซ์ ตลอดจนนายทัพคนอื่น ๆ ต่างหารือแก้ไขเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในที่สุดที่ประชุมลงความเห็นชอบพร้อมกันว่า หนทางที่จะกู้การศึกให้พ้นจากความปราชัยและอัปยศ คือขอความช่วยเหลือจาก อคิลลีส จอมทัพอกาเมมนอนยอมรับข้อนี้

๏ เมื่ออกาเมมนอนเห็นชอบด้วย จึงแต่งให้ฟินิกซ์ (Phoenix) อาจารย์ของอคิลลีส อแจ็กซ์ และโอดีสซีอุส นำไบรเซอิสไปคืนให้แก่อคิลลีส พร้อมแถมทรัพย์สมบัติและเกียรติยศอีกมากมาย เพื่อเกลี้ยงกล่อมให้อคิคลีสเลิกถือโกรธ แต่ถึงคณะทูตจะหว่านล้อมด้วยไมตรีจิตและอิทธิพลอย่างใดก็หามีผู้หนึ่งผู้ใดสามารถชักจูงใจอคิลลีสได้

๏ คืนนั้นโอดิสซีอุส และไดโอมิดีส อาสาออกไปตระเวนค่ายโทรจันที่กลางทุ่ง ทั้งสองคนหลบหลีกทหารยามโทรจัน เข้าไปลอบสังหารราชันเรซุส (Rhesus) แห่งแคว้นเทรซ (Thrace) ได้สำเร็จ รุ่งขึ้นอกาเมมนอนคุมทัพอเคียนส์ออกรบเอง และสามารถต่อตีตะลุยทัพโทรจันแตกร่นกลับไปได้ชั่วระยะหนึ่ง แต่อกาเมมนอนก็ต้องอาวุธบาดเจ็บ รวมทั้งไดโอมิดีส และโอดีสซีอุส

ศึ ก ป ร ะ ชิ ด ค่ า ย

๏ ทัพโทรจันเห็นแม่ทัพนายกองฝ่ายอเคียนส์บาดเจ็บหลายคน เห็นได้ทีจึงตีโต้รุกไล่ทัพอเคียนส์หนีเข้าค่ายอย่างไม่เป็นกระบวน ฝ่ายทหารอเคียนส์หน้าค่ายต้องรักษาเพนียดกำแพงค่ายที่สร้างลักษณะเป็นครึ่งวงกลมติดอยู่กับชายทะเลอย่างเป็นสามารถ มิให้ฝ่ายโทรจันที่โรมรันหนักประชิดค่ายตีเข้าถึงเรือ

๏ ที่หน้าค่ายอเคียนส์ ฝ่ายโทรจันแบ่งกำลังเป็นออกห้ากองทัพหลัก จอมทัพเฮกเตอร์เป็นผู้นำกองแรก กองที่สองนำโดยปารีส กองที่สามคือเฮเลนัส และไดโพบัส บรรดาโอรสของกษัตริย์เพรียม อีเนียสคุมกองที่สี่ กองที่ห้าคือซาร์ปิดอน และกลอคัส แห่งลีเซีย ตลอดจนพันธมิตรทั้งหลาย

๏ การโรมรันพันตูดำเนินอยู่บนชายหาดใกล้ที่จอดเรือ ฝ่ายอเคียนส์พยายามอย่างสุดสามารถที่จะรักษาแนวต้านทานเพื่อมิให้ฝ่ายโทรจันล่วงล้ำเผาเรือได้ อแจ็กซ์ และทูเซอร์ รบกับทหารลีเซียป้องกันเรืออย่างเต็มกำลัง ขุนศึกทั้งสองฝ่ายถูกอาวุธตายไปหลายคน

๏ โทรจันกลับกลายเป็นฝ่ายรุกหนัก พวกอเคียนส์ถอยไม่เป็นส่ำ ทัพของเฮกเตอร์เข้าตีประชิดเรือได้ แม้การศึกจะขับขันเพียงนี้อคิลลีสก็หาได้เดือนร้อนไม่ คงดูด้วยทิฐิมานะนิ่งเฉยอยู่ แต่ปโตรกลัส สหายรักของอคิลลีสไม่สามารถจะดูดายต่อไปได้ คิดจะช่วยพวกอเคียนส์

 

ก า ร ต า ย ข อ ง ป โ ต ร ก ลั ส

๏ ปโตรกลัสเข้าไปขอยืมเสื้อกับหมวกเกราะของอคิลลีสสวมเพื่อออกรบ ขณะนั้นทหารส่วนหนึ่งของทัพโทรจันได้ตีฝ่าค่ายเข้าถึงกองเรืออเคียนส์แล้ว และกำลังจุดไฟเผาเรือ อคิลลีสเห็นดังนั้นจึงให้สหายรักนำทัพออกไปช่วยพวกอเคียนส์รบป้องกันเรือ สั่งห้ามปโตรกลัสรุกเข้าประชิดกำแพงทรอย

๏ ฝ่ายโทรจันเห็นปโตรกลัสก็นึกว่าเป็นอคิลลีสก็แตกฮือ ทหารโทรจันต่างลนลานหนี อแจ็กซ์ เมเนเลอัส และนายทัพคนอื่น ๆ ของฝ่ายอเคียนส์ เห็นได้ทีก็ตามไปสมทบกับทหารเมอร์ไมดอนของอคิลลีส ตามตีกระหน่ำซ้ำเติมไล่ติดตาม ฝ่ายเฮกเตอร์เห็นเหลือกำลังรับจึงกลับรถหนีออกนอกกำแพงค่ายอเคียนส์

๏ ซาร์ปิดอนแห่งลีเซีย ยืนหยัดต่อสู้กับปโตรกลัส จนต้องหอกปโตรกลัสจนถึงแก่ความตาย ฝ่ายปโตกลัสเข้าลำพองใจ รีบรุกไล่ติดตามทัพโทรจันด้วยความเหิมหาญหมายพิชิตชัยอย่างเด็ดขาด จนทิ้งระยะทหารตนเองไว้ห่าง ลืมคำเตือนของอคิลลีสเพื่อนรักเสียสนิท

๏ ปโตรกลัสตีแนวรบโทรจันประชิดกำแพงทรอย เผชิญหน้าเฮกเตอร์ที่อยู่ในรถศึก ทั้งคู่วิ่งเข้าต่อสู้กัน ทหารโทรจันคนหนึ่งเข้าแทงข้างหลังปโตรกลัส ในจังหวะเดียวกับเฮกเตอร์เข้าแทงข้างหน้าถูกปโตรกลัสถึงแก่ความตาย

 

อ คิ ล ลี ส พิ โ ร ธ

๏ เฮกเตอร์ถอดเสื้อเกราะของอคิลลีสมาสวมแทนเกราะตนเอง ทหารโทรจันอื่น ๆ เข้ารุมจะเอาศพปโตรกลัส พอดีทหารอเคียนส์มาทันเลยเกิดการยื้อแย่งชุลมุน เมเนเลอัสให้อันติโลคัสบุตรของเนสเตอร์กลับไปบอกข่าวการตายของปโตรกลัสแก่อคิลลีส ส่วนตนและอแจ็กซ์ จะเข้าชิงศพปโปรกลัสมิให้ตกอยู่ในมือของพวกโทรจัน

๏ ฝ่ายอคิลลีสได้ข่าวสหายรักถูกฆ่าตาย ก็เศร้าโศกเสียใจเป็นอันมาก ยิ่งอาลัยสหายก็ยิ่งอาฆาตเฮกเตอร์ มาดหมายจะแก้แค้นให้จงได้ อคิลลีสประกาศแก่ที่ประชุมให้ตระหนักในเจตจำนงของตนที่จะออกรบ ขอทำการประณีประนอมด้วยจอมทัพอกาเมมนอน และขอเข้าร่วมการสงครามต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุด

๏ รุ่งขึ้น เมื่อทัพทั้งสองฝ่ายเดินเข้าหากันจนกระทั้งได้ต่อยุทธอย่างตะลุมบอน ฝ่ายโทรจันเห็นนายทัพอเคียนส์ที่ยกมามิใช่ใครอื่นนอกจากอคิลลีสในชุดเกราะที่ที่งดงามวาววับ บรรดานายทัพของฝ่ายโทรจันต่างก็ขยาดฝีมือของอคิลลีส

๏ ไม่ว่าอคิลลีสจะหันไปทางด้านไหน ด้านนั้นก็แตกหนี แม้แต่จอมทัพอย่างอีเนียสยังไม่อาจหาญสู้ ทหารโทรจันไม่อาจต่อต้านอคิลลีสได้ แตกหนีไปริมแม่น้ำซานตุส ทั้งม้าและคนโจนหนีลงไปในแม่น้ำเป็นอันมาก ซากศพลอยเกลื่อนแม่น้ำ ในที่สุดทัพโทรจันก็กลับหลังหนีแตกตื่นหมดทุกด้าน

 

ว า ร ะ สุ ด ท้ า ย ข อ ง เ ฮ ก เ ต อ ร์

๏ กษัตริย์เพรียมประทับที่เชิงเทิน เปิดประตูเล็กให้ทัพทหารโทรจันที่ต่างล่าถอยกลับเข้าทรอย แต่เฮกเตอร์ไม่ยอมเข้า แม้ราชินีเฮกคิวบาร้องขอให้เข้าสู่นคร เฮกเตอร์ไม่ฟังคำวิงวอนต่อพระมารดา กลับยืนประจันหน้าปรปักษ์ที่วิ่งเข้ามา

๏ เฮกเตอร์ตั้งมั่นว่าเมื่อตนเป็นผู้นำทัพโทรจัน ความพ่ายแพ้ของกองทัพคือความผิดของตน ไม่ควรหนีกลับเข้าเมืองเอาตัวรอดโดยไม่ได้เข้าสู้รบกับข้าศึก ถึงจะสู้ได้หรือมิได้ ก็จำเป็นที่จะต้องสู้รบให้สมศักดิ์ศรี ถึงตัวตายก็ยังดีกว่าได้ชื่อว่าแม่ทัพขลาด ถือเป็นเกียรติภูมิที่ต้องต่อกรกับข้าศึกให้รู้แพ้รู้ชนะยิ่งกว่าอื่นใด

๏ ฝ่ายอคิลลีสนำทัพรุกไล่ฆ่าฟันไพร่พลทัพโทรจันใกล้เข้ามาด้วยความเคียดแค้นดุร้าย จนประจัญกับเฮกเตอร์ ต่างฝ่ายต่างหนีและรุกไล่กันไป เฮกเตอร์หันเข้าเผชิญกับอคิลลีสและร้องขอคำสัตย์สัญญาต่อกันว่า ถ้าฝ่ายใดสิ้นชีพลงในการต่อกร ฝ่ายชนะจะยอมคืนศพของคู่ต่อสู้ให้แก่พรรคพวกไป อคิลลีสไม่รับคำ

๏ ทั้งอคิลลีสและเฮกเตอร์ซัดหอกเข้าหากัน พร้อมชักดาบแกว่งกวัดฟาดฟันรบพุ่งเป็นพัลวัน โล่ที่เฮกเตอร์ถือก็เปิดช่องให้อคิลลีสพุ่งหอกต้องคอล้มลง ก่อนจะสิ้นใจ เฮกเตอร์ร้องขอต่ออคิลลีสเป็นครั้งสุดท้ายให้คืนศพตนเองแก่บิดา แต่อคิลลีสที่ยังคิดเคืองแค้น บริภาษส่ง แล้วเฮกเตอร์ก็สิ้นใจ

 

ไ ถ่ ศ พ เ ฮ ก เ ต อ ร์

๏ อคิลลีสเข้าเก็บโล่ และเปลื้องเสื้อเกราะที่เคยเป็นของตนออกจากศพเฮกเตอร์ เจาะเท้าศพทั้งสองข้างเอาเชือกร้อยผูกติดท้ายรถศึกปล่อยหัวให้ลากดิน แล้วลากศพไปรอบบริเวณสนามรบ ตลอดจนรอบนครทรอยจนหนำใจ

๏ ขณะที่อคิลลีสกระทำหยาบหยามแก่ศพของเฮกเตอร์อย่างน่าบัดสีนั้น กษัตริย์เพรียมและราชินีเฮกคิวบาบังเกิดความเศร้าอาลัยอย่างสุดประมาณ อันโดรมาคีชายาเฮกเตอร์หัวใจแทบสลายเมื่อรู้ข่าวสวามีสุดที่รัก ไม่เพียงเหล่าราชวงศ์ทรอยที่เศร้าโศก แต่ชาวโทรจันทุกคนต่างร่ำไห้

๏ ฝ่ายอเคียนส์ได้ทำพิธีศพปโตรกลัสอย่างสมเกียรติ อคิลลีสเอาศพเฮกเตอร์กลับไปค่าย ตั้งใจทิ้งให้เป็นอาหารสุนัขเพื่อเซ่นวิญญาณปโตรกลัสสหายรัก กษัตริย์เพรียมเศร้าโศกเสียใจ คิดจะขอร้องอคิลลีสและไถ่ศพเฮกเตอร์ด้วยใจตั้งมั่น

กษัตริย์ได้แต่งทรัพย์สินมีค่าเต็มคันรถ และคุมขบวนออกจากทรอยข้ามทุ่งไปด้วยจิตใจมั่นคงกล้าหาญ เข้าอ้อนวอนอคิลลีสขอไถ่ศพเฮกเตอร์ อคิลลีสใจอ่อนและเกิดความละอายจึงชำระศพให้สมเกียรติแล้วคืนให้กษัตริย์เพรียมไปจัดการตามประเพณี

 

วี ร ก ร ร ม สุ ด ท้ า ย ข อ ง อ คิ ล ลี ส

๏ มีคำพยากรณ์ว่า เมื่อเฮกเตอร์ผู้กล้าได้วายชนม์ อคิลลีสก็ต้องตายตามไปเช่นกัน แต่อคิลลีสก็หาได้หวั่นไหวไม่ ระหว่างชีวิตยืนยาวสุขสบายที่พิเธีย เมื่อถึงบั้นปลายผู้คนก็ลืมเลือน กับสละชีพกลางสมรภูมิ แต่ชื่อและเกียรติภูมิของเขาจะเป็นที่จดจำของผู้คนไปนานแสนนาน วิถีที่อคิลลีสเลือกคืออย่างหลัง

๏ ฝ่ายโทรจันตกอยู่ในภาวะคับขัน ได้แต่รักษาเมืองมั่นคงไม่ออกสู้รบ กษัตริย์เมมนอน (Memnon) แห่งเอธิโอเปีย (Ethiopians) พันธมิตรของทรอยได้กรีธาทัพมาหมายจะช่วยทรอยให้พ้นจากเงื้อมมือของทัพอเคียนส์

๏ เมมนอนเป็นผู้มีฝีมือและกำลัง นำทัพเข้าตีอเคียนส์เป็นสามารถจนทัพอเคียนส์กลับเป็นรองต้องเสียทหารมีฝีมือไปเป็นอันมาก ในจำนวนนี้มีอันติโลคัสบุตรของเนสเตอร์รวมอยู่ด้วย เนสเตอร์แค้นใจจึงท้าให้เมมนอนรบ แต่เมมนอนไม่รับท้าด้วยเห็นว่าเนสเตอร์ชราเกินไป

๏ แต่เมื่อถูกอคิลลีสท้ารบจึงตอบตกลง วีรบุรุษทั้งสองได้ต่อกรกันอย่างแกล้วกล้าอาจหาญ แต่กษัตริย์แห่งเอธิโอเปียสู้อคิลลีสไม่ได้จึงถูกฆ่าตาย หลังจากได้ชัยชนะครั้งนี้แล้ว อคิลลีสนำทัพอเคียนส์รุกไล่ข้าศึกเข้าประชิดกำแพงเมืองทรอย แต่ก็ไม่สามารถตีหักเข้าไปได้

๏ ระหว่างการระดมตีนั้นเอง ปารีสที่อยู่บนกำแพงอันแข็งแกร่งก็ยิงธนูอาบยาพิษลงยังอคิลลีส ลูกศรเข้าปักที่ข้อเท้า ทำให้อคิลลิสดับชีพลงในสมรภูมิ สิ้นสุดความกล้าหาญของอคิลลิส โอดีสซีอุส กับ อแจ็กซ์แย่งเอาศพอคิลลีสคืนไปได้

 

ช ะ ต า ก ร ร ม อั น น่ า เ ศ ร้ า ข อ ง อ แ จ็ ก ซ์

๏ เมื่อจัดแจงศพของอคิลลีสอย่างสมเกียรติแล้ว ธีทิสมารดาอคิลลีสรู้ข่าวบุตรรักก็เศร้าโศก ประกาศยกเครื่องรบของอคิลลีสทั้งหมด ให้แก่วีรบุรุษคนใดคนหนึ่งที่สมควร สุดแต่ที่ประชุมจะเลือกเฟ้น และผู้ที่สมควรจะได้มีความสามารถก้ำกึ่งกัน คือ โอดีสซีอุส กับ อแจ็กซ์

๏ มีการลงคะแนนลับชี้ขาด ปรากฏว่าโอดีสซีอุสเป็นฝ่ายชนะ แต่การลงคะแนนครั้งนี้บังเกิดผลร้ายอย่างอื่น ผู้ชนะนั้นคือผู้ควรยกย่องมีเกียรติ ผู้แพ้คะแนนกลายเป็นสิ้นศักดิ์ศรี อแจ็กซ์คิดเช่นนั้น จึงรู้สึกเสียเกียรติอย่างยิ่ง ผูกใจเจ็บแค้นอกาเมมนอนและเมเนเลอัสที่เป็นตัวการ

๏ ชะตากรรมของอแจ็กซ์ช่างน่าเศร้า ฝ่ายอแจ็กซ์เสียสติ สำคัญแพะแกะว่าเป็นคน อแจ็กซ์จับแพะแกะฆ่าเป็นอันมากนึกว่าเป็นแม่ทัพที่ลงคะแนนให้โอดีสซีอุส เป็นที่ขำขันของเหล่าทหาร เมื่อได้สติ อแจ็กซ์เกิดความละอาย ชักดาบออกมาฆ่าตัวตาย

 

ศ ร ข อ ง เ ฮ อ ร์ คิ ว ลี ส

๏ ฝ่ายอเคียนส์เสียยอดขุนพลสองคนไปในเวลาใกล้ ๆ กัน ขณะนี้การรบพุ่งกับเมืองทรอยกินเวลานานจนล่วงเข้าสิบปีเต็มแล้ว นับแต่ยกทัพออกมาจากดินแดนกรีซ ฝ่ายอเคียนส์ก็ยังเอาชัยชนะขั้นแตกหักมิได้

๏ แม้ฝ่ายโทรจันจะเปลี้ยลงเพราะขาดผู้นำทัพที่สามารถ ฝ่ายอเคียนส์ก็เพลียลงด้วยไม่สามารถฝ่ากำแพงแกร่งเข้าสู่ทรอยได้ แม้แต่กาลคาสโหรพยากรณ์ในทัพอเคียนส์ก็ไม่อาจล่วงรู้ กาลคาสแนะให้จับตัวเฮเลนัส บุตรของกษัตริย์เพรียม ซึ่งเป็นผู้ทรงชะตาเมืองทรอยมาคาดคั้น

๏ โอดีสซีอุสลอบจับเฮเลนัสมา ได้ความว่าทรอยจะไม่แตกแยกเด็ดขาด จนกว่าจะมีผู้ใช้ธนูของเฮอร์คิวลีสพร้อมคันศรมารบ เมื่อฝ่ายอเคียนส์ได้ฟังก็นึกหวนถึงฟิลอกทีทีสที่เจ็บป่วยถูกทิ้งไว้บนเกาะเลมนอส เมื่อฟิลอกทีทีสได้กลับมาก็ออกไปร่วมรบในสมรภูมิอย่างองอาจ

๏ ในการรบซึ่งปารีสเป็นผู้นำทัพโทรจัน ฟิลอกทีทิสยิงลูกธนูอาบพิษไฮดร้าต้องปารีสจนบาดเจ็บสาหัส ปารีสให้ทหารพาตนไปหาอีโนนีผู้เป็นชายาเก่า อีโนนีเป็นผู้รู้สูตรปรุงยาที่จะช่วยเหลือเขาได้ ด้วยความแค้นที่ปารีสทิ้งนางไป นางไม่ช่วยเหลือ ปารีสจึงถึงแก่ความตายต่อหน้านาง

ก ล ศึ ก ม้ า ไ ม้

๏ แม้ปารีสต้นเหตุแห่งสงครามจะวายชนม์ แต่ทรอยก็ยังตั้งมั่นอยู่ได้อย่างน่าพิศวง เหตุที่ทำให้ทรอยยังไม่แตก คือรูปประติมาศักดิ์สิทธิ์ของเทวีอาธีน่า ที่เรียกว่าพัลเลเดียม (Palladium) ของคู่บ้านคู่เมืองทรอย ในที่สุดพวกอเคียนส์ก็รู้สาเหตุข้อนี้ โอดีสซีอุสกับไดโอมิดีสลอบเอาพัลเลเดียมออกมาจากทรอยในเวลาดึกสงัดคืนหนึ่ง

๏ ถึงมาตรว่าทรอยจะปราศจากพัลเลเดียมแล้วก็ตาม เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว พวกอเคียนส์เข้าใจดีว่าการที่จะตีเข้าเมืองทรอยโดยตรงนั้นเป็นการเหลือวิสัยที่จะทำได้ แม้รบกันล่วงสิบปีประตูและกำแพงแห่งทรอยยังมั่นคงเป็นสง่าอยู่ดังเดิม จะเผด็จศึกให้ได้ต้องหาทางเข้าไปในเมืองอย่างแยบยล

๏ เมื่อปรึกษาตกลงกันดังนี้แล้ว โอดีสซีอุสจึงคิดกลศึกอันหนึ่ง เรียกว่า กลศึกม้าไม้ เป็นกลลึกซึ้ง แต่เสี่ยงภัยมาก ตอนแรกพวกนายทัพต่างลังเลใจในอุบายเสี่ยงอันตรายนี้ แต่เมื่อได้อธิบายแผนลวงอันสลับซับซ้อน พวกนายทัพเห็นว่าไม่มีทางอื่นดีไปกว่ากลศึกของโอดีสซีอุส

๏ โอดีสซีอุสให้เหล่าช่างไม้ประกอบม้าไม้มหึมา ให้มีท้องกลวงกว้างขวางพอที่จะบรรจุคนได้จำนวนหนึ่ง ออกแบบให้ประตูปิดสนิทมิดชิดสังเกตไม่เห็นจากภายนอก แล้วก็ชวนสหายศึกซึ่งเป็นนายทัพล้วนแต่มีฝีมือเข้าไปซ่อนตัวในท้องม้า ให้นายทัพที่เหลือเลิกค่าย นำกองทัพอเคียนส์ลงเรือออกทะเลไป ทำทีเลิกทัพกลับบ้านเมือง

 

โ ท ร จั น ห ล ง ก ล

๏ ยามบนเชิงเทินและหอคอยกวาดสายตาไปทั่วทุ่งใหญ่อันเคยเป็นสนามรบ ก็สงบเงียบราวกับทุ่งร้าง ทอดสายตาไปที่ฝั่งทะเลก็ว่างเปล่า ไม่เห็นกองเรืออเคียนส์ที่เคยจอดอยู่ เป็นอย่างนี้อยู่สองวันสองคืน ชาวโทรจันต่างก็เข้าใจว่าพวกอเคียนส์คงเลิกทัพกลับบ้านเมืองไปสิ้นแล้ว

๏ การปฏิบัติตามอุบายลุล่วงไป เวลารุ่งอรุณวันสุดท้ายของทรอยเบิกขึ้น พวกทหารบนกำแพงเมืองได้เห็นภาพที่น่าตื่นตะลึง ม้าไม้ขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่ ณ ความเงียบสงบของค่ายอเคียนส์ ประตูเมืองเปิดออกอย่างระมัดระวัง เหล่าทหารโทรจันกรีธาทัพไปที่ค่ายร้าง

๏ ไซนอน (Sinon) ทหารอเคียนส์คนเดียวที่เหลืออยู่ ถูกฝ่ายโทรจันจับไว้ได้จึงนำไปให้การต่อกษัตริย์เพรียม ด้วยอุบายที่โอดีสซีอุสวางไว้ ไซนอนคือทหารช่างเจรจา กล่าวลวงกษัตริย์ว่า เทวีอาธีน่าลงทัณฑ์ทัพอเคียนส์ที่ไปขโมยพัลเลเดียมออกมา

๏ ต้องพลีกรรมต่อเทวีโดยการถวายม้าไม้ และบูชายัญชีวิตทหารมิเช่นนั้นจะได้รับโทษ นายทัพเลือกตนเป็นเหยื่อสังเวยเทพเจ้า แต่ตนได้หนีออกมาได้ และเหตุที่สร้างม้าให้ใหญ่มหึมาเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวโทรจันลากเข้าเมืองทรอยไปสักการะได้ และอเคียนส์ก็เลิกทัพกลับ

๏ ด้วยคำลวงของไซนอนได้ผลยิ่งกว่าการรบพุ่งเป็นเวลา 10 ปี กษัตริย์เพรียมตายใจ ยิ่งได้ฟังคำให้การก็หลงเชื่อสนิทใจ คิดว่ารูปม้าไม้จะป้องกันนครแทนพัลเลเดียมที่ถูกขโมยไปได้ จึงรับสั่งให้ชาวเมืองช่วยกันลากม้าไม้เข้าไปในเมือง

 

 

ชั ย ช น ะ ข อ ง ฝ่ า ย ก รี ก

๏ ชาวโทรจันพากันโห่ร้องยินดี ยกเว้นสองคน คาสซานดร้า ธิดาคนหนึ่งของกษัตริย์เพรียม และเลาคูน (Laocoon) ผู้ที่ไม่ไว้ใจฝ่ายอเคียนส์ เชื่อว่าม้าไม้จะเป็นเหตุให้นครทรอยพินาศ แม้ทั้งสองจะคัดค้านอย่างไรก็ไม่เป็นผล

๏ เมื่อม้าไม้ลูกลากเข้าไปในเมือง ชาวโทรจันทั้งมวลก็พากันสมโภชเฉลิมฉลองชัยอย่างเอิกเกริก ร้องรำทำเพลงดื่มกินเมามายตั้งแต่กลางวันจนค่ำคืน โดยสำคัญว่าการศึกสงบยุติเด็ดขาด ครั้นล่วงเข้ายามดึกสงัด ชาวโทรจันและทหารส่วนใหญ่ต่างหลับไหลด้วยความมึนเมาไปสิ้น

๏ แล้วท้องม้าก็เปิดออก บรรดานายทัพอเคียนส์ผู้ซ่อนตัวอยู่ ก็พากันออกมาเปิดประตูเมือง รับทหารที่ลอบกลับเข้ามาและเฝ้าซุ่มคอยอยู่ในความมืดของราตรีตามที่ได้นัดหมายกันไว้ แล้วเหล่าทหารอเคียนส์ก็แยกย้ายกันจุดไฟเผาอาคารสถานที่ต่าง ๆ ทั่วนคร

๏ ชาวโทรจันที่น่าสงสารไม่ทันได้ตั้งตัว ตื่นขึ้นเห็นแสงไฟลุกโพลงอยู่รอบทิศก็ตกใจลุกขึ้นแตกตื่นลนลาน อลหม่านวุ่นวายไปทั้งเมือง พวกทหารโทรจันส่วนใหญ่เพิ่งจะรู้สึกตัว ต่างก็รีบแต่งเครื่องรบถืออาวุธออกไป แต่ถูกทหารอเคียนส์ที่คอยทีอยู่เข่นฆ่าเอาฝ่ายเดียว ล้มระเนระนาดไม่ทันสู้รบหรือรวมกำลังพลได้ติด

 

อ ว ส า น ก รุ ง ท ร อ ย

๏ ทั้งทหารและชาวเมืองถูกฆ่าฟันล้มตายไปเป็นอันมาก บ้างก็ถูกจับเป็นเชลย ที่จะหนีรอดไปได้ช่างน้อยเต็มที ในการสู้รบครั้งสุดท้ายนั้น แม้ฝ่ายโทรจันจะรวมกำลังอย่างเด็ดเดี่ยวได้บ้าง ก็ไม่อาจต่อตีฝ่ายอเคียนส์ให้ถอยร่นกลับไปได้

๏ กษัตริย์เพรียมถูกสังหารด้วยน้ำมือของ นีออปโทลิมัส (Neoptolemus) บุตรของอคิลลีส สิ้นชีวิตต่อหน้าลูกเมีย อันไตยานักส์บุตรน้อยของเฮกเตอร์ถูกทหารอเคียนส์พรากจากอกแม่ก่อนนำไปสังหารทิ้ง โพลิกซินา (Polyxena) ธิดาอีกคนของกษัตริย์เพรียม ซึ่งเป็นคู่ปองของ อคิลลิส ถูกนีออปโทลิมัสสังหารเซ่นวิญญาณอคิลลีส

๏ ยังไม่ทันรุ่งสว่าง แม่ทัพโทรจันถูกประหารลงจนหมด ยกเว้นคนเดียวคือ อีเนียส ซึ่งแบกบิดาจูงลูกหนีออกจากนครทรอยได้ พัลเลเดียมองค์แท้จริงนั้นอยู่ที่อีเนียส เมื่อพ้นอันตรายก็มุ่งหน้าไปยังภูเขาไอดา รวบรวมชาวโทรจันที่ยังหลงเหลืออยู่ ออกเรือไปแสวงหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่

๏ เมื่อทะเลเพลิงแดงฉานโทรมลง ปราสาท ราชวัง วิหาร และบ้านเรือนเหลือแต่เถ้าถ่าน นครทรอยที่ยิ่งใหญ่ก็ตกอยู่ในความพินาศย่อยยับ ถนนหนทางเกลื่อนกลาดไปด้วยซากศพ ทหารอเคียนส์ขนทรัพย์สมบัติและจับเชลยได้เป็นอันมาก ในจำนวนนี้มีทั้งราชินีเฮกคิวบา คาสซานดร้า และอันโดรมาคีชายาเฮกเตอร์รวมอยู่ด้วย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เครดิต คุณ คลื่นแทรก จากบอร์ด pantip.com ครับ

Back

 

 


 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1