COMPLAIN OR OPINION

19 พฤศจิกายน, 2544:: by จารุวรรณ ยั่งยืน

"โอ้ละหน๊อ...นักข่าว(ภูมิภาค)??"

อีกไม่กี่นาที 22.00 น.ของเมื่อคืนนี้ในระหว่างที่ดิฉันกำลังนั่งตอบอีเมลล์ของเพื่อนๆก่อนที่ จะรีบเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ(คุ้นๆเหมือนชื่อเพลง)เพราะวันนี้ต้องจัดรายการช่วงเช้า 04.00-09.00น. (เป็นเหตุการณ์ปกติในวันที่มีตารางจัดรายการเช้า)เพราะกลัวตัวเองจะตื่นมาจัดรายการเช้าไม่ทัน การค้างคืนที่ออฟฟิชทำให้อุ่นใจ ว่า หากเราไม่ตื่นจริงๆก็ต้องมีใครสักคนไปดึงมาจากมุมที่ซุกตัวนอน (ที่เริ่มคุ้นเคยจนนึกว่าเป็นที่นอนแสนสบายที่บ้านตัวเองไปแล้ว)ให้ลุกขึ้นมาจัดรายการ… แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีโอกาสใช้บริการฝ่ายดึง(ลาก)ตัวเลยค่ะ(อิอิ)

เจ้าหน้าที่ของห้องวิทยุสื่อสารได้รับแจ้งทางเวิร์ดเรดิโอ จากศูนย์นเรนทร( ซึ่งเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุจากรพ.สังกัดกระทรวงสาธารสุขทั่วประเทศ)ว่าเกิดเหตุนักข่าวยิงกันตาย 3 ศพที่มุกดาหาร มีทั้งไอทีวี ช่อง 3 เดลินิวส์ และไทยรัฐ !!

จำได้ว่าดิฉันตะโกนสวนถามกลับเจ้าหน้าที่ห้องวิทยุสื่อสารไปว่า "ผู้สื่อข่าวส่วนกลางหรือท้องถิ่น...แย่งที่ตั้งกล้องถ่ายฝนดาวตกหรือคะ" (แหม ก็เมื่อคืนนี้ใครๆก็ตั้งกล้องจองที่ ส่งผู้สื่อข่าวไปเตรียมรายงานข่าวปรากฎการณ์ฝนดาวตกกันทั้งนั้น…ถามทั้งที่ในใจก็คิด มันจะบ้าหรือเปล่าฟ่ะ..ฟ้าตั้งกว้างยังมาแย่งที่กันได้ หรือคืนนี้จะมีพญานาคโผล่มาจากแม่น้ำโขง???)

แต่พอได้ยินคำตอบที่ตะโกนตอบกลับมา"ยิงกันที่ร้านอาหารลอยน้ำเรือมอริส ติดแม่น้ำโขง" คำว่า มาเฟีย ,อิทธิพล,พวกใช้เสื้อนักข่าวเพื่อหากินในทางที่มิชอบผุดขึ้นมาในหัวสมอง(ที่มองโลกในแง่ร้ายสุด)ของดิฉันทันที "แย่จัง!!!"ดิฉันพูดประโยคนี้ออกมา แต่ในใจดิฉันใช้อีกคำหนึ่งที่แรงกว่าค่ะ

"หาเบอร์โทร…โทรหาผู้กำกับให้ดีเจสัมภาษณ์"ดิฉันได้ยินเสียงโปรดิวเซอร์ช่วงนั้นสั่งฝ่ายประสานงาน

เท้าที่กำลังจะก้าวเข้าห้องพัก หยุดชะงัก เพื่อที่จะรอฟังรายละเอียดค่ะ

"เหตุเกิดตั้งแต่เวลา 20.00 น. ที่ร้าน "มอริส" บริเวณท่าเรือหน้าวัดยอดแก้ว ถ.สำราญชายโขง ต.มุกดาหาร อ.เมือง ทั้งหมดนัดมาเจรจรปัญหาความขัดแย้งทางในเรื่องของการทำงาน ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันมาโดยตลอด สุดท้ายตกลงกันไม่ได้เลยใช้อาวุธปืนยิงอีกฝ่ายเสียชีวิต (ไม่ทราบดิฉันคิดไปเองหรือเปล่าไม่ทราบว่าเสียงของท่านปลงอนิจังแกมสังเวชคนกลุ่มนี้) นายไพบูลย์ บุญทศ หรือเสี่ยแดง อายุ 58 ปี ผู้สื่อข่าว น.ส.พ.ไทยรัฐ และทีวีช่อง 7 สี ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ยิงนายนายสุชาติ ชาญชนะวิวัฒน์ ผู้สื่อขาว น.ส.พ.สยามรัฐ-ไทยโพสต์-บ้านเมือง นายชูวิทย์ เชื้อหาญ ผู้สื่อข่าวไอทีวี-เนชั่น-คมชัดลึก เสียชีวิตคาโต๊ะอาหาร และยิงนายเศรษฐา ศรีระวัฒน์ ผู้สื่อข่าวช่อง 3 น.ส.พ.แนวหน้า และ น.ส.พ.ประชาชาติธุรกิจ นายสมบูรณ์ แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าว น.ส.พ.เดลินิวส์ และนายวิเชียร สุสินนะ อายุ 40 ปี ทนายความ และ บ.ก.ฝ่ายข่าว น.ส.พ.ท้องถิ่น "ชาวมุกดาหาร" ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายไพบูลย์ใช้ปืนจ่อยิงตัวเองตายตาม ส่วนนายวิเชียรถูกยิงแขนขวาทะลุ นายสมบูรณ์ถูกยิงแขนซ้าย ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมุกดาหาร ปัญหาก็คงความขัดแย้งเรื่องของการแย่งทำข่าวนั้นล่ะครับ…อาวุธตอนนี้เรายังหาไม่เจอ ช่วงนั้นมันชุลมุน"

คนที่ในนามบัตรเคยมีคำว่าว่า "Reportor"อยู่ที่ด้านหลังชื่ออย่างดิฉัน กรี๊ดดดดดดดดดในใจเลยล่ะคะ ทนไม่ไหว พูดได้คำเดียว ว่า "well"

มีความแตกต่างกันนะคะระหว่างผู้สื่อข่าวที่อยู่ส่วนกลาง ประจำองค์กรข่าวต่างๆกับ ผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาค(ท้องถิ่น)ที่ไม่ได้กินเงินเดือน ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ส่งงานคิดเงินเป็นชิ้นๆแตกต่าง ทั้งระบบของการทำงานและแนวคิด!!!

ปีที่แล้วนี้นะคะประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ คุณมานิจ สุขสมจิตร ออกมาเรียกร้องให้ช่วยกันปรามพวกกระสือ อาศัยคราบหนังสือพิมพ์หาผลประโยชน์ในทางมิชอบ "ที่ได้รับร้องเรียนบ่อย ๆ ก็คือการติดสติ๊กเกอร์ที่รถยนต์เป็นชื่อหนังสือพิมพ์บ้าง หรือไม่ก็มีข้อความสั้น ๆ ว่า "ข่าว" หรือ "ศูนย์ข่าว"เพื่อหลอกลวงคนอื่นหรือเพื่อให้ได้รับความสะดวกบางประการ พฤติการณ์ เช่นนี้เป็นพฤติการณ์ของมิจฉาชีพบางคนไปขอเงินค่าน้ำมันรถจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางคนให้ตำรวจเขียน จดหมายให้ไปพักโรงแรมฟรี รับประทานอาหารฟรี บางรายก็ไปช่วยผู้รับเหมาประมูลงานของทางราชการ แล้วเรียกเปอร์เซ็นต์จากผู้ประมูลได้ ที่ร้ายไปกว่านั้น คือการใช้รถยนต์ขนของผิดกฎหมายและเคลื่อนย้าย คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พฤติกรรมที่ทำมานานและยังไม่ยอมเลิกคือ การขอร้องแกมบังคับ ให้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ที่ออกเฉพาะวาระสำคัญหรือที่เรียกกันว่า "รายนักขัตฤกษ์"

ซึ่งคุณมานิจก็เรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมที่ขัดกับหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพทันที เพราะเป็นการนำความเสื่อมเสีย มาสู่วงการและเพื่อนร่วมวิชาชีพ เป็นการบั่นทอนความชอบธรรมในการใช้เสรีภาพ

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากสังคมยุติการส่งเสริม "กระสือ" พวกนี้ อย่าให้เงินหรือผลประโยชน์อื่นใดเพียงเพื่อแก้รำคาญ หากเห็นว่าการกระทำใดเป็น พฤติกรรมรีดไถ ขู่กรรโชก ขอให้สละเวลาไปแจ้งความกล่าวโทษที่สถานีตำรวจทุกแห่ง และหากต้องการ ให้สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการขององค์กรอิสระที่คนหนังสือพิมพ์ร่วม กันจัดตั้งขึ้นเพื่อควบคุมกันเองก็ขอให้ติดต่อร้องเรียนกล่าวโทษได้ที่ที่ทำการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ"

แต่ดูเหมือนว่า คำขอ คำปรามเหล่านี้ ไม่ได้ผลค่ะ!!!

ไม่ว่ากรณีที่ผู้สื่อข่าวสังหารผู้สื่อข่าวและมีผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคนที่จังหวัดมุกดาหารจะมีมีสาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงที่เราต้องยอมรับ ผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาคได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดเกี่ยวกับพฤติกรรมการวางตัวไม่เหมาะสมกับวิชาชีพ การใช้เสื้อขององค์กรต้นสังกัดในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่สนใจในเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของวิชาชีพ รับสินบน มีความอคติในการเสนอข่าว รีดไถนักการเมือง ข้าราชการในท้องถิ่น

พฤติกรรมเหล่านี้ถือว่าผิดกฎข้อบังคับ ว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๑ ใน หมวด 3 ว่าด้วย จริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์

ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ต้องไม่ประพฤติปฏิบัติการใดๆ อันจะนำมาซึ่ง ความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่ เพื่อ เรียกร้องสิทธิหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม
ข้อ ๒๒ ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ต้องละเว้นการรับอามิสสินจ้างอันมีค่า หรือ ผลประโยชน์ใดๆ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการใดอันจะขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องรอบด้าน


สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ในฐานะองค์กรอิสระซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ (ซึ่งโดยหลักการคือการควบคุมกันเองในกลุ่มสมาชิก)และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ รวมไปถึงสมาคมองค์กรด้านสื่อมวลชนในภูมิภาค จะจัดการอะไรได้ล่ะคะ กับคนที่ไม่ยอมปฎิบัติตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ นอกจากขับออกจากการเป็นสมาชิกทันทีและจะแจ้งไปยังองค์กรต้นสังกัดเพื่อให้มีการลงโทษ พร้อมทั้งจะแถลงผลการพิจารณาให้สาธารณชนรับทราบ!!! หากนักข่าวคนนั้นไม่ได้สังกัดองค์กรใดเลย

เฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก(ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจค่ะ:(

แต่ไม่ใช่ว่าผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาคจะไม่มีคนดีดีนะคะ มีค่ะ ปะปนกันไป แต่ก็ได้มองดูอยู่เฉยๆ ไม้ซีกจะไปมีแรงงัดท่อนซุงยังไงไหว แถมบางทีอาจหักสะด้วยซ้ำหากงัดแบบไม่ดูตาม้าตามาเฟีย

องค์กรต้นสังกัดนั้นล่ะค่ะ ……คือ ตัวจริงในการจัดการกับปัญหา หากองค์กรเข้มงวด กวดขัน ความประพฤติของคนในองค์กรข่าวอย่างจริงจังปัญหาไม่เกิดหรอกค่ะ….ยิ่งหากทุกองค์กรจับมือกันไม่ตอบรับพวกเหลือบที่ทำลายวิชาชีพเหล่านั้น ยิ่งเป็นการยกระดับวิชาชีพคนทำข่าวในสูงขึ้นค่ะ กลุ่มผู้บริโภคข่าวเดี๋ยวนี้ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพและคาดหวังสูงต่อผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนค่ะ

ปัญหาพวกนี้แก้ไขง่ายค่ะ เนื้อไหนร้ายก็ตัดทิ้ง …และดิฉันก็เชื่อมั่นว่าคนดีดีก็คงไม่ยอมที่จะไปเก็บเอาเนื้อร้ายมาเก็บไว้กับตัวเองให้มันเหม็นเน่าเสียติดตัว ทั้งที่มีเนื้อดีดีให้เลือกอยู่มากมาย เป็นไปได้หรือคะ ว่าองค์กรต้นสังกัดจะไม่ทราบว่าคนของตัวเองเป็นอย่างไร? บุคคลากรในสังกัดบอกถึงความเป็นไปในองค์กรค่ะ (ฮาๆๆๆๆๆๆๆ)

นอกเสียจากว่าองค์กรต้นสังกัดมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหา!!!

เรียกว่าตัดทางทำมาหากินไม่ให้เกิดในวงการข่าวเลยว่างั้นเหอะ จัดการโดยกฎ(รุมประชาทัณฑ์)หมู่ค่ะ คือ ทุกองค์กรข่าว ลิสต์รายชื่อคนนอกกรอบไว้ และ ไม่รับเข้าทำงานในองค์กรโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะกรณีใดๆทั้งสิ้น

ในประเทศไทยมีองค์กรข่าวอยู่กี่องค์กรค่ะ? แต่ละองค์กรบุคคลากรคนทำงานข่าว ....ไม่ได้เยอะมากจนจำชื่อ รู้จักหน้าเพื่อนร่วมงานไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่เท่านั้นล่ะคะ

มือถือสากปากถือศีลใช้ได้กับทุกองค์กรค่ะ

ในระหว่างที่ดิฉันกำลังนั่งพิมพ์บ่นเรื่อยเปื่อยตามประสาป้าจอมบ่น(อิอิ) ข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเติมกรณีผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาค ฆ่ากันตายบานปลายกลายเป็นสาเหตุจากการขัดแย้งธุรกิจเถื่อนในจังหวัด และสภาการหนังสือพิมพ์เคยได้รับเรื่องร้องเรียนของกลุ่มนี้ส่งมาให้หลายเรื่อง ซึ่งได้ส่งต้นสังกัดตรวจสอบแล้ว

(อิอิ) งานนี้อดีตนักข่าวอย่างดิฉัน ก็ได้แต่ร้องกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดในใจต่อไปค่ะ

หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังไม่คิดหามาตราการที่จริงจังเข้มงวดมาจัดการกับปัญหาของกลุ่มคนนอกกรอบเหล่านี้ หลักจริยธรรมใช้การไม่ได้หรอกค่ะสำหรับผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาคบางคน ที่จิตสำนึกอยู่ลึกจนขุดหาไปไม่เจอ (อิอิ)

ฮาๆๆๆจะว่าไป ผู้สื่อข่าวที่อยู่ใกล้ชิดองค์กรในเมืองกรุงบางคนพฤติกรรมก็ไม่แตกต่าง กับนักข่าวภูมิภาคบางคนสักเท่าไหร่หรอกนะเจ้าคะ!!!

หรือว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการจัดระเบียบสังคมผู้สื่อข่าวไทย???

ปล.ที่แปลว่า ปิดเรื่องเล่า(อิอิ)ผู้สื่อข่าวหรือคนที่ทำงานในกองบรรณาธิการข่าวตัวจริง ไม่มีหรอกค่ะ ประเภทติดสติ๊กเกอร์โชว์สังกัดหร่าที่รถ หรือใส่เสื้อติดโลโก้ใหญ่ๆบ่งบอกสังกัด แบบว่าอิฉันกลัวนะฮ่ะ ที่จะให้ใครรู้ว่าทำงานข่าว กลัวโดนด่าค่ะว่า อีหลูนี้ ไอ้คนคนนี้ ทำข่าวไม่ล่ายเรื่อง ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆ(จริงๆ กลัวถูกฆ่ามากกว่า อิอิ ) แต่ก็มีอยู่บ้างนะคะ พวกผู้สื่อข่าวใหม่ๆแต่ก็เชื่อเถอะค่ะ สัก 6 เดือนให้หลัง ก็จะเริ่มเบี่ยงเบนพฤติกรรม เป็นหลบๆซ่อนๆเหมือนๆกับพวกพี่ๆๆๆพวกเราชอบอยู่กันแบบเงียบๆสงบๆเจียมเนื้อเจียมตัวค่ะ

เพราะมันง่ายกับการทำงานค่ะ!!!





>> กลับไปหน้าเดิมค่ะ...:)

| HOME | WORK'S EXPERIENCE | SIGN &VIEW GUESTBOOK |

© 2001 "Complain or Opinion" Created and Published by JaRuWaN yUnG-yUeN All rights reserved.
 
Hosted by www.Geocities.ws

1