|
|
|
16 มกราคม 2545 :: by จารุวรรณ ยั่งยืน
"ไม่มีวันพรุ่งนี้"
บางหน้าของบันทึกเล่มเก่า ทำให้ดิฉันอึ้ง!! ทำไมคนเราต้องมาเรียนรู้และเข้าใจถึงความผิดพลาด
และรู้สึกอยากจะทำในบางสิ่งบางอย่างที่มองผ่านเลย ในวันที่ไม่สามารถเอ๋ยคำขอโทษกับบางคน
- - ->>
ท่ามกลางกระแสความสับสนของสังคมเมืองหลวงที่เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแต่สับสนทางด้านศีลธรรม ข่าวคราวที่ปรากฎตามหน้าหนังสือซึ่งมี
ไม่เว้นแต่ละวันเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว ปัจจุบันที่เลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีตัดสวิตต์วงจรชีวิตด้วยมือของตัวเอง
ดิฉันดีใจค่ะตอนที่สอบทราบว่าคณะจิตแพทย์ของมหาวิทยาลัยเยล สหรัฐ มีวิธีจับสังเกตเสียงของคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายได้ ว่าลักษณะเสียง ของเสียงจะเปลี่ยนไป จากเสียงที่เคยหนักแน่น เปลี่ยนเป็นเสียงเบาและว่างเปล่า ซึ่งคณะจิตแพทย์เรียกลักษณะเสียงนี้ ว่า "เสียงจากหลุม"
ดิฉันถามตัวเองทุกครั้งเวลาทราบข่าวคนฆ่าตัวตาย ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเค้าเหล่านี้ตัดสินใจกระทำ ความรู้สึกโดดเดี่ยว และต้องการใครสักคนยึดเกี่ยว ในขณะที่กำลังเจอแรงกดดันของหลากหลายปัญหาที่ทับทมเข้ามา เพียงแค่อารมณ์เพียงชั่ววูบ ทำให้คนเราตัดสินตายได้เลยเชียวหรือ
คืนวันศุกร์ที่ 9 กันยายน ช่วงเกือบ 3 ทุ่มในขณะที่ดิฉันกำลังจัดรายการ โปรดิวเซอร์ chat
เข้ามาบอก ให้เรียก สาย 5
.ด่วน จะเล่าเหตุการณ์คนเดินลงน้ำฆ่าตัวตาย
น้ำเสียงของผู้ชายที่เล่าเหตุการณ์ให้ดิฉันฟังบ่งบอกถึงความตกใจ!! กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
พ่อ แม่ ลูก นั่งคุยเล่นกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วจู่ๆฝ่ายภรรยาก็ยื่นลูกที่อยู่ในอ้อมแขนให้กับสามี
ส่วนตัวเองเดินลงไปในแม่น้ำ ผู้ชายคนที่เล่าเสียงจะตื่นเต้นและตกใจมาก
จนดิฉันต้องคอยบอกให้ใจเย็นๆและค่อยๆเล่า เพราะหากเค้าเป็นอย่างนี้
คงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ในใจก็คิดว่าสายที่กำลังตกใจมากๆอย่างนี้
ยังไม่ควรที่จะส่งมาให้ดิฉันคุยออกอากาศ ระหว่างที่บอกให้เค้าสงบสติอารมณ์
หูดิฉันก็ได้ยินเสียงแว่วๆของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบอกว่า
เจอแล้ว เจอศพแล้ว
.คราวนี้คนที่ตกใจกลายเป็นดิฉันล่ะค่ะ
"เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ค่ะ" "
ยังไม่ถึง 20 นาทีเลยครับพี่...นี่เค้าพบศพแล้ว ผมนี่ไม่ดีเลยนะครับ ช่วยเค้าไม่ได้
ทั้งที่อยู่ใกล้ๆแท้ๆ"เสียงคนเล่าบ่งบอกถึงอารมณ์คับแค้นใจ ผุ้ชายคนนี้บอกว่ากำลังเดินเล่น
อยู่แถวนั้น ช่วงที่เกิดเหตุ ..และหันไปเห็นตอนที่ผู้หญิงคนนั้นกระโดดลงไปในน้ำพอดี เลย
ร้องตะโกนบอกฝ่ายสามีของผู้หญิงซึ่งอยู่ใกล้กว่าให้ห้ามและลงไปช่วย
แต่สามีกลับบอกว่า "ปล่อยมันไป" คนเล่าเอง ตกใจนิ่งและทำอะไรไม่ถูก
เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ไม่สามารถช่วยอะไรไม่ทัน
เพราะน้ำตรงนั้นลึก เชี่ยว และมืด ก่อนเกิดเหตุสามี ภรรยาคู่นี้ ทะเลาะกันแทบทุกวัน
ระหว่างที่ฟังผู้ชายคนนี้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
ดิฉันเองฟังแล้วก็รู้สึกแย่ตามไปด้วย
อึ้งแล้วก็พูดอะไรต่อไม่ถูกเหมือนกัน
เงียบไปเกือบ 30 วินาที
ซึ่งการจัดรายการวิทยุ นี้ โดยปกติจะห้ามปล่อยให้มีช่องว่าง
เงียบออกอากาศ เวลาทุกวินาที มีค่า
"อย่าโทษตัวเองค่ะ คุณทำดีที่สุดแล้ว
ขอบคุณมากที่เล่าเหตุการณ์นี้ให้เราฟัง ตอนนี้พบศพแล้ว
และเจ้าหน้าเอาศพขึ้นมาบนฝั่งแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะ คุณทำดีที่สุดแล้วนะคะ"ดิฉันย้ำอีกครั้งก่อนจะวางสายนี้
ดิฉันเจอคำถามในใจอีกแล้วค่ะ ว่าอะไรที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย คนสองคนทะเลาะกัน อยู่ใกล้กัน มันน่าที่
จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาได้ แต่ดิฉันก็ได้แต่ตั้งคำถามในใจค่ะ
สายของคนฟังคนต่อไปสิค่ะ ที่ทำให้ดิฉันกระจ่าง
"อารมณ์ประชดค่ะคุณ อย่างนี้เรียกว่าทำไปเพราะต้องการประชด ประชดกับเรียกร้อง
ความสนใจไม่เหมือนกันนะคะ ถ้าเรียกร้องไม่ปล่อยให้ตัวเองตายหรอกค่ะ
แต่ถ้าประชดตายแน่นอน ส่วนฝ่ายสามีคงอยู่ในอารมณ์ หงุดหงิดและรำคาญ นี่ล่ะค่ะชีวิตคู่ ลิ้นกับฟัน เผลอกันเป็นกัด..ดิฉันขอบอกตรงนี้ผ่านไปถึงคุณสุภาพบุรุษเลยนะคะ เวลาทะเลาะกันอย่ากลัวเสียฟอร์ม ยอมนิดหนึ่งที่จะเป็นฝ่ายผิด แค่คุณพูดคำว่า ขอโทษ แค่นี้ ผู้หญิงก็สงบและรู้สึกสำนึกผิดแล้วค่ะ เชื่อดิฉันนะคะ"
คนฟังของดิฉันคนนี้ ขอร้องในสิ่งที่ทำได้ยากมากของผู้ชายเสียด้วยสิค่ะ
คำว่าอารมณ์ประชดทำให้ดิฉันย้อนนึกไปถึงเพื่อนที่เคยกินยานอนหลับทีละเม็ด ทีละเม็ด ด้วยความรู้สึกอยากตายประชดคนที่ตัวเองรัก แต่ยังโชคดีนะคะ ที่เพื่อนดิฉันคนนี้ ยังมีสติคิดได้ทัน ตอนที่กินยาเข้าไปเกือบ 50 เม็ด ว่า หากตายไป คนที่เธอคิดจะตายประชดคงไม่รู้สึกรู้สาและไม่เดือดร้อนอะไรกับศพของเธอเพราะเค้าอยู่ไกลถึงอีกซีกโลกในขณะที่พ่อกับแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาด้วยความรักและรักเธอโดยไม่มีเงื่อนไข ต้องนั่งร้องไห้ จัดการกับศพของเธอ เพื่อนของดิฉันคนนี้เลยได้สติโทรศัพท์บอกเพื่อน ให้มารับไปส่งโรงพยาบาลล้างท้องได้ทัน
ดิฉันเชื่อค่ะว่า อารมณ์ประชด นี้สำคัญ เวลามีปัญหาหรือจะต้องตัดสินใจอะไร นับ 1 ถึง 100 ถึง 200 เข้าไว้นะคะ สติ และสติ พ่อและ แม่ คาถาขับอารมณ์ประชดค่ะ
คืนวันนั้นดิฉันก็เลยเปิดประเด็นคุยเรื่อง วิธีจัดการกับภาวะวิกฤติของอารมณ์
ทุกคนล้วนแล้วแต่วิ่งเข้าหาธรรมะ การรู้จักปล่อยวาง
นิ่งจะทำให้มองเห็นและเข้าใจถึงปัญหา ซึ่งการฝึกตัวเองให้รู้จักปล่อยวาง
แต่ละคนใช้เวลานานนะคะ กว่าจะเข้าถึงคำว่า "ปล่อยวาง"อย่างแท้จริง
มีบางคนเลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนรู้ใจที่เคยรู้สึกดีมากที่สุด
อย่างเช่นกรณีของชายหนุ่มคนนี้ทำให้ดิฉันหูผึ่งเลยค่ะ
"ผมคิดว่ามันคือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ววันหนึ่งข้างหน้าหากเจอกันก็คุยกัน เวลาจะทำให้เราคุยกันรู้เรื่องมากกว่านี้"
ดิฉันจำได้ค่ะว่าแย้งไปด้วยอารมณ์ของผู้หญิง "การแก้ปัญหาคือการคุยถึงต้นตอของปัญหา การตัดปัญหาโดยการ
ตัดทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีแม้แต่คำอธิบาย ทำให้อีกฝ่ายอยู่กับคำถาม ความไม่เข้าใจและเป็นทุกข์นะคะ"
"ผมยอมรับว่าจริงๆแล้วเพราะผมไม่เคยคิดที่จะแก้ปัญหา ผมไม่อดทนและไม่คิดถึงใจของอีกคนเท่ากับนึกถึงตัวเอง กลัวกับอนาคตข้างหน้า ทั้งที่เหตุการณ์มันยังไม่เกิดขึ้น แต่ผมคิดไปก่อนว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ถ้าผมย้อนเวลากลับมาได้ผมจะเลือกที่จะอดทนและค่อยๆใช้สองมือของผมกับเค้าช่วยกันคลายปมปัญหาระหว่างเราสองคนไม่กลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่จะทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดของเรา"
"ดิฉันเชื่อว่าวันนี้คงไม่สาย คนนั้นจะต้องรอคุณอยู่"
"ครับ เธอรอผม แต่ เราไม่มีโอกาสเจอกัน เพราะเธอเสียชีวิตก่อนที่ผมจะกลับมา เธอเป็นลูคีเมีย"
ฟังแล้วขนลุกค่ะ
ชีวิตคนเราไม่แตกต่างกับชีวิตในโลกของละคร และพล็อตเรื่องของชีวิตของคนบางคู่ก็อาจจะมีส่วนละม้ายกับของบางคู่ สูตรสำเร็จของการปรุงแต่งชีวิตมีอยู่เพียงแค่ 2 รสชาติค่ะ ทุกข์ กับ สุข
ทำวันนี้ให้เป็นวันที่ดีที่สุดของคุณค่ะ
>> กลับไปหน้าเดิมค่ะ...:)
|
| |
|
|
| HOME | WORK'S EXPERIENCE | SIGN &VIEW GUESTBOOK |
© 2001 "Complain or Opinion" Created
and Published by JaRuWaN yUnG-yUeN All rights reserved. |
|
|