COMPLAIN OR OPINION

5 มกราคม 2545 :: by จารุวรรณ ยั่งยืน

"สื่อกับการล่วงละเมิดทางเพศ!!"

ดิฉันรับรู้ข่าว(คาว)คราวช่วงต้นปี 2545 ด้วยความรู้สึกสลดค่ะ …ข่าวนายตำรวจใหญ่ใช้บริการทางเพศกับเด็กหญิงวัย 12 โดยนาย(นาง)หน้านำเด็กไปให้เลือกถึงสน. หรือก่อนหน้านี้ช่วงส่งท้ายปี 2544 ข่าวพระมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงวัยรุ่นโดยมีมารดาของเด็กเป็นคนดำเนินการในการส่งตัวลูกสาวไปหาพระถึงกุฎิ,หรือแม้แต่การที่ครูหยุยออกมาเตือนเด็กวัยรุ่นให้ระมัดระวังการเสียตัวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ภาพข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หัวสีบางฉบับที่เป็นภาพของวัยรุ่นในชุดนักศึกษากำลังมีเพศสัมพันธ์ในโรงแรมม่านรูด ล้วนแล้วแต่บางชี้ให้เห็นถึงมุมมืดของสังคมไทยที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นและในวันหนึ่งข้างหน้าอาจจะกลายเป็นมุมที่คุ้นเคยและมองด้วยความชินชาก็ได้สำหรับคนในสังคมไมทย สังคมที่กำลังจะลืมรากเหง้าและยึดติดแน่นกับการนับถือ"ความดี"กันที่"วัตถุ"ประกอบกาย

เราคงต้องยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะว่า สื่อทุกสื่อมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดค่านิยมและความประพฤติที่ไม่เหมาะสม หรือ สิ่งไม่ดีงามที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะวีดีโอหรือซีดีลามกซึ่งเป็นสิ่อที่มีอิทธิพลในการยั่วยุกามารมณ์ได้มากที่สุด เนื่องจากมีวางขายอยู่ทั่วไปหาซื้อได้ง่าย ในราคาที่ถูกแบบคาดไม่ถึงในสังคมไทย ที่สำคัญการวางขายในบางสถานที่ เสมือนกับว่าสื่อลามกเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่ภายใต้การควบคุมโดยไม่จำเป็นต้องหลบๆซ่อนๆในการซื้อหา แตกต่างจากโทรทัศน์ ซึ่งต้องมีหน่วยงานในการตรวจสอบ ส่วนภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ซึ่งเป็นสถานที่ที่สาธารณะ หากเป็นภาพยนต์ลามกคนที่ไปดูก็คงจะมีความละอายอยู่บ้าง โดยสรุปการเลือกซื้อวดีโอหรือซีดีลากมกซึ่งหาซื้อได้ง่ายดูจะเป็นทางเลือกที่ตัดปัญหาในการไม่ต้องถูกพิพากษาด้วยสายตาของคนรอบด้านได้ดีที่สุด นี้ล่ะค่ะแล้วจะไม่ดิฉันมองงว่า "วีดีโอและซีดีลามก"เป็นสื่อที่มีอิทธิพลในการยั่วยุกามารมณ์ได้ดีที่สุดได้อย่างไร

นอกจากนั้นก็ยังมีหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นค่ะ อย่าเพิ่งทำหน้าอิ่มอกปลื้มใจนะคะ ที่เห็นลูกๆหรือน้องๆของคุณ ก้มหน้าก้มตา อ่านหนังสือการ์ตูน โดยไม่สนใจในเรื่องอื่น ..อย่าเพิ่งนึกว่านั้นคือ สื่อที่เหมาะสมและสมวัย หากเป็นไปได้ลองสำรวจสักนิดนะคะ ว่า หนังสือการ์ตูนเล่มที่อยู่ในมือคนรู้จักของเราคนนั้น เนื้อหาข้างในเป็นอย่างไร สมัยนี้ทั้งการ์ตูนญี่ปุ่นและไทย โดยเฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่น เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุ ภาพการร่วมเพศที่โจ๋งครึ่ม ที่สำคัญคือวางขายในแผงหนังสือทั่วไป ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ไม่ว่าหญิง-ชาย ซื้ออ่านกันเป็นเรื่องปกติ

หนังสือทุกเล่ม สื่อทุกประเภทมีประโยชน์และสอนตัวเราค่ะ หากคนอ่านมีวุฒิภาวะ แยกแยะถูกผิดได้ แต่ปัญหาที่เกิดก็เพราะ"การขาดวุฒิภาวะ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็ก ก็เพราะความผิดปกติของจิตใจ"นี่ล่ะค่ะ เพราะผู้ใหญ่บางกลุ่มที่มีจิตไม่ปกติ แยกแยะไม่ออก เราถึงได้ยินได้ฟังข่าว(คาว)คราวแปลก ๆ ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เช่น ข่าวพระข่มขืนเด็ก หรือเด็กนักเรียนข่มขืนกันเองอายุยังไม่ถึง ๑๐ ปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นและชี้ให้เห็นได้ชัดเจน

เคยย้อนถามกลับกับตัวเองบ้างมั๊ยคะ..ว่าปัจจุบันเวลาที่เรามีโอกาสได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังการรายงานข่าว(คาว)การข่มขืน ความรู้สึกของเราวันนี้เป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน !!! คุ้นเคย หรือเคยชิน มองเห็นเป็นเรื่องปกติ หรือว่ายังคงรู้สึก ตกใจ!!

ตัวเลขการข่มขืนเด็กหญิงในปี ๒๕๔๔ สะท้อนให้เห็นว่าค่านิยม และสภาพของสังคมไทยยังน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เฉพาะตัวเลขจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กที่ได้รับแจ้ง พบว่ามีเด็กที่ถูกละเมิดทางเพศประมาณ ๒๐๐ คน เกือบทั้งหมดเป็นเด็กผู้หญิง ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ ๑๓ - ๑๖ ปี ๖๙ คน รองลงไปคือ ๑๐ - ๑๒ ปี ๖๐ คน ๗ - ๙ ปี ๓๕ คน และที่สำคัญคือมีเด็กในกลุ่มอายุ ๔ - ๖ ปี มากถึง ๔๒ คน โดยผู้ที่กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นบิดาเลี้ยงและญาติสูงสุด รองลงไปเป็นพระ และครู เพื่อนบ้านและบิดาแท้ของเด็ก นั่นคือบิดาเลี้ยงและญาติ ๖๔ คน ครูในโรงเรียนเด็กเองและพระ ๔๗ คน เพื่อนบ้านที่สนิทกับครอบครัว ๔๒ คน บิดาแท้ ๆ ๒๙ คน คนแปลกหน้าอีก ๒๘ คน

ข้อน่าสังเกตคือโดยปกติแล้ว คดีข่มขืน อนาจาร มักมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ไม่ยอม หรือไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากหวาดกลัว ยอมความกันได้ และเหตุผลอื่น ๆ ดังนั้นจึงน่าเชื่อว่านอกเหนือจากตัวเลขดังกล่าวที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กได้รับแจ้งแล้ว ยังมีเด็กหญิงอีกจำนวนมากที่ถูกข่มขืน อนาจาร

หนทางแก้ปัญหา!!! ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยสื่อมวลชนต้องตระหนักในบทบาทและหน้าที่ ต้องใคร่ครวญให้ดีก่อนที่ตีพิมพ์หรือนำเสนอภาพใด ๆ ออกไป ต้องยึดหลักการ ว่าด้วยเรื่องที่เกี่ยวข้องจริยธรรมของสื่อมวลชนให้หนักแน่นควบคู่กับการคำนึงถึงหลักจิตวิทยา (พฤติกรรมการเลียนแบบ)อย่าคิดถึงด้านการตลาด เอาเฉพาะยอดขายก็ถือว่าสำเร็จแล้วโดยไม่สนใจเบื้องหลังว่าได้ทิ้งอะไรไว้ในสังคมบ้าง สื่อต้องเป็นผู้นำกระแส ไม่ใช่ตามกระแสว่าชาวบ้านชอบ หรือไม่ชอบเรื่องเพศก็เสนอไปตามนั้น เช่นเดียวกับผู้ผลิตสื่อลามกอนาจารเองก็ต้องตระหนักในความรับผิดชอบ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ต้องเข้มงวดเอาจริงเอาจัง((แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนที่ทำผิดเสียเอง)) หากทุกฝ่ายตระหนักถึงหน้าที่ และมีวุฒิภาวะที่เหมาะสมปัญหาต่างๆก็จะไม่เกิดขึ้น((พูดง่ายแต่ทำยากนะคะ))

หรือว่าในอนาคตอันไม่ไกล สังคมไทยเราเป็นเหมือนกับประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ที่ใน 10 ปีที่ผ่านมา คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กไม่ใช่สิ่งที่ผิด มีการถ่ายภาพเด็กเปลือยออกเผยแพร่จนเกือบเป็นเรื่องปกติในสังคม เช่นเดียวกับสังคมญี่ปุ่นระยที่คนจำนวนหนึ่งนิยมมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก และมีการถ่ายภาพเด็กเปลือยออกขายกันอย่างเสรี นอกจากหนังสือโป๊แล้ว ยังสร้างการ์ตูนที่มีเนื้อหาและฉากร่วมเพศกับเด็กอย่างโจ๋งครึ่ม เห็นเช่นนั้นก็นึกว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กไม่ถือว่าผิดปกติก็เกิดการเอาอย่าง เมื่อประกอบกับสัญชาตญาณของมนุษย์ที่มีแต่เรื่องเพศอยู่แล้ว ก็เลยไปกันใหญ่

หรือว่า…เหล่านี้คือ สภาพความเป็นอยู่ที่เป็นปกติของสังคมโลกยุคสารสนเทศ
หรือว่าใกล้ถึงเวลาแล้วที่ป้าแก่ๆอย่างดิฉัน ต้องทำใจให้ปลงและทำใจให้ยอมรับ?????







>> กลับไปหน้าเดิมค่ะ...:)

| HOME | WORK'S EXPERIENCE | SIGN &VIEW GUESTBOOK |

© 2001 "Complain or Opinion" Created and Published by JaRuWaN yUnG-yUeN All rights reserved.
 
Hosted by www.Geocities.ws

1