COMPLAIN OR OPINION

14 กันยายน 2546 :: by บุษราคัม เอี่ยมอำไพ

"กะเหรี่ยงน้อยผจญภัย (2)"

การผจญภัยวันแรกของน้องกะเหรี่ยงน้อย ยังไม่จบค่ะ
เรารู้ภาคเช้าไปแล้ว คราวนี้ มาถึงภาคบ่ายกันบ้าง
เมื่อคราวที่แล้ว ทิ้งค้างเอาไว้ตรงที่นั่งรถจากสนามบินเข้าเมือง
และต้องโทร.ไปที่ศูนย์รับนักเรียนทุน เพื่อให้เขาส่งแท็กซี่มารับไปที่ศูนย์ฯ
ประมาณ 10 นาที หลังจากเสร็จสิ้นการสนทนา ทางโทรศัพท์
ก็มีรถแท็กซี่มาจอด แล้วถามว่า รอแท็กซี่มารับไปที่ศูนย์ฯ ใช่ไหม
ทีแรกก็งง งง ดูจาก message ในเครื่องของเขา ก็น่าจะใช่เรา
เลยขึ้นรถ เค้าก็พาวนออกทางโน้นที ทางนี้ที ไม่รู้ว่า พาวนรึเปล่า
เพราะเห็นตึก เห็นถนน หน้าตาคล้ายกันไปหมด
จนมาถึงหน้าศูนย์ “Egide”

ที่นี่ละค่ะ ที่ฉันต้องมารับรายละเอียด พร้อมกับเงินทุนค่ากินอยู่ทั้งหมด
ลงจากรถ โดยไม่ต้องจ่ายตังค์ เพราะที่นี่เขาจะจ่ายให้
ลากกระเป๋าใบโต เข้าไปข้างใน ด้วยตัวเอง อีกเช่นเคย
ติดต่อที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แล้วไปนั่งรอ
มองไปมองมา ก็เจอ คนไทย ท่าทางมีอายุ อยู่ 2 คน
เลยเข้าไปคุยกับเขา คนนึงมาอยู่ที่นี่นานแล้ว แต่งงานกับคนที่นี่
อีกคน ได้ทุนมาอบรมเกี่ยวกับการศึกษา 1 ปี ที่ Besançon
จะมาขอเปลี่ยนตั๋วตอนกลับ...
คุยกันได้สักพัก เจ้าหน้าที่ก็มาเรียกขึ้นไปทางด้านบน
ขึ้นไป ก็นั่งรออีกเช่นเคยค่ะ รอประมาณซัก 1-2 ชั่วโมงได้นะ
หิว ก็ หิว แต่ยังไม่ค่อยอยากจะกินอะไรเท่าไร

พอเจอเจ้าหน้าที่ เป็นหญิงผิวดำรูปร่างใหญ่ คุยกับเค้าได้ซักพัก
เธอถามเรื่องการเดินทาง ให้กรอกรายละเอียด และบอกรายละเอียด
เกี่ยวกับทุนที่จะได้รับ พร้อมกับถามเรื่องที่อยู่ ว่า มีที่พักแล้วหรือยัง
ถ้ายัง ที่นี่มีที่ติดต่อให้ แต่ต้องเสียตังค์เอง เพราะตอนนี้เธอมีเงินแล้วนี่
แหะ แหะ ก็เอาเงินที่เค้าให้นั่งแหละจ่ายค่ะ...
อ้าว ไหง ทีแรกบอกว่า ไม่ต้องจ่ายที่พักไง
ยังไง ก็ต้องควักเงินละ ไม่งั้น ไม่รู้จะไปนอนที่ไหน
...เฮ้อ !!!

เอาละค่ะ พอขั้นตอนทุกอย่างเสร็จแล้ว
รู้แล้วว่า ได้ตังค์ค่ากินอยู่ 1 เดือน ที่ปารีส เท่าไหร่
ก็ใช้เงินเลยละกัน ไปเอาเงิน และไปถามเรื่องที่พัก ทางด้านล่าง

คุณรู้ไหมว่า กว่าขั้นตอนทุกอย่างจะเสร็จ
เช็ครายละเอียดเกี่ยวกับทุน รับสตางค์ จองที่พัก
ก็ปาไปเกือบเที่ยง ... 3-4 ชั่วโมงสำหรับการติดต่อ

พอเที่ยงแล้ว ทำไงละ ถ้าจะไปที่โรงแรม ก็ต้องขอให้ที่ศูนย์โทร.เรียกแท็กซี่ให้
หรือไม่งั้น ก็ลากกระเป๋าออกไปข้างนอก ไปลงรถไฟใต้ดิน

ฉันเลือกอย่างแรกค่ะ รอ รอ รอ อีกเช่นเคย
เพราะติดเที่ยง ไม่มีใครทำงาน โดยเฉพาะที่ศูนย์รถแท็กซี่...
ที่นี่ เขาพักเที่ยงกันตั้งแต่ เที่ยง ถึง บ่าย 2 โมง
นั่งรออยู่ตรงโซฟา ของแผนกต้อนรับนั่นแหละ
ระหว่างนั่ง ก็นึกขึ้นได้ว่า เรามีเบอร์ของผู้หญิงไทยที่เจอเมื่อเช้านี่นา
โทร.ไปถามเค้าดีกว่า ว่า ทำอย่างไรดี
กดโทร.ไป พอปลายสายรับ เล่าเรื่องให้เค้าฟัง
คุณทราบไหมว่า ฉันได้คำตอบอย่างไร...

เธอตอบว่า จะให้เธอช่วยอะไรละ ถ้าเขาให้รอ ก็ต้องรอ
ไม่มีคำแนะนำอย่างอื่น ... ฉันอึ้งไป แล้วก็ตอบขอบคุณเธอ ...

รอ ก็ รอ วะ ฉันนึก ไหน ไหน
รอ อีกซัก ชั่วโมง 2 ชั่วโมงจะเป็นไรไป
แหม เป็นเมืองไทย ออกไปเรียกแท็กซี่เองนานแล้ว
แต่นี่ ไม่ใช่บ้านเรานี่นา ภาษาถึงจะสื่อสารได้ แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ
กลัวโน่น กลัวนี่ ไปหมด เพราะข้อมูลที่ได้ก่อนมาน่ะ ทำให้ฉันรู้สึกกลัว
มีคนเตือนว่า ให้เก็บเงินให้ดี ๆ ไม่งั้น โดนจี้ โดนล้วงกระเป๋า ไม่รู้ตัวเลยนะ
เลย play safe ไว้ก่อนดีกว่า
ถ้าไม่มีรถมารับ ก็รอมันอยู่ตรงนี้ละ ...

เกือบบ่าย 2 เจ้าหน้าที่หญิงผิวดำ ร่างใหญ่คนเดิม กลับเข้ามาจากพักกลางวัน
เธอทักฉันว่า อ้าว ยังอยู่อีกเหรอ ฉันตอบว่า รอให้เขาเรียกแท็กซี่ให้
เพราะไปโรงแรมไม่ถูก ถึงมีแผนที่ก็เหอะ...
เธอพยักหน้า แล้วก็ยิ้ม...

ตอนที่นั่งรอ เจอชายผิวดำจากแอฟริกาน่าจะอายุมากแล้วละ ได้ทุนมาอบรมเหมือนกัน
เขาพูดฝรั่งเศสได้ แต่สำเนียงแปลก ๆ แล้วดูไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเอกสารเท่าไรนัก
ทักทายเขา เพราะยังไง ก็ไม่รู้จะคุยกับใครนี่นา เดินลงบันไดจากโซฟาต้อนรับ หน้าห้องจองโรงแรม
มีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งทานอาหาร มีตู้กดน้ำ กดขนมอยู่
ชายคนนี้ชวนให้ลงไปดู ก็เลยลงไปกับเขา
เขารอเจ้าหน้าที่จองโรงแรม เพราะตอนนี้พักเที่ยง ไม่มีใครทำงาน...
...............

ในที่สุด การรอคอยก็สิ้นสุดค่ะ
เจ้าหน้าที่ติดต่อรถแท็กซี่ให้ได้แล้ว แต่ไปพร้อมกับชายแอฟริกันคนนั้น
เขาอยู่อีกโรงแรม ก็แชร์ค่ารถกัน โดยที่ฉันจะเป็นคนจ่ายก่อน เพราะโรงแรมฉันถึงก่อน
พอขึ้นรถ คนขับ เป็นแอฟริกันเหมือนกัน เค้าก็เลยส่งภาษาถิ่นกันใหญ่
ทำเอาฉันงง ไปเหมือนกัน

4 โมงเย็น กว่า ๆ ก็ไปถึงโรงแรม Hotel Comfort Nation.
เป็นโรงแรมไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นบ้านเรา ก็โรงแรมห้องแถวนั่นแหละ
ไม่มีคนยกกระเป๋าให้ มีแต่เจ้าหน้าที่อยู่เคาน์เตอร์ 1 คน
โชคดีที่ มีลิฟท์ขนาด 4 คน ห้องอยู่ชั้น 2 จะแบกกระเป๋าขึ้นบันไดไปเองก็ลำบาก
มองลิฟท์แล้ว คิดอยู่ซักพักว่า จะเอาตัวเองและกระเป๋าขึ้นไปพร้อม ๆ กันได้อย่างไร
จะทิ้งของไว้ข้างล่างแล้วละมาเอาใหม่ ก็กลัวของหาย
ลองดูละกัน ปรากฎว่า เอาเข้าได้ทั้งของทั้งคนค่ะ ...
เฮ้อ... กว่าจะเดินทางถึงที่พัก สำหรับวันแรก...
รวมเวลาตั้งแต่ลงจากเครื่องจนถึงโรงแรม ก็เกือบ 12 ชั่วโมง
...............

อาบน้ำ ล้างหน้า ล้างตา กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขนไปด้วย
แล้วก็ออกเดินสำรวจรอบๆ โรงแรม
ไปเจอร้านขายของชำ ที่มองแล้วน่าจะเป็นคนเอเซีย เลยแวะเข้าไป
กะว่า คนไทยแน่ๆ เลย เพราะในร้านมีขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยด้วยอ่ะ
ปรากฎว่า ไม่ใช่ค่ะ เป็นเวียดนาม อยู่ที่นี่มาเป็นสิบปีแล้ว
แต่ป้าแกก็ใจดีนะ บอกว่า เป็นคนไทยเหรอ
แถวนี้มีร้านอาหารไทยของคนไทยด้วยนะ แกอุตส่าห์เดินออกมาจากร้านแล้วชี้ให้ดู
ฉันก็ เอ เดินผ่านมาไม่เห็น เห็น เลยนี่นา...
ลองเดินกลับไปดูละกัน ไหน ไหน ก็รบกวนแก เลยซื้อน้ำเปล่ามา 1 ขวด
แล้วก็เดินย้อนกลับทางเดิม เพื่อไปที่ร้านคนไทย ที่ป้าแกบอก
เป็นร้านอาหารไทย เล็ก ๆ เหมือน ห้องแถว 1 ห้อง ขนาดไม่เกิน 10 โต๊ะ
เจ้าของเป็นคนไทยร่วมหุ้นกัน 2 คน ชื่อ พี่จิตร กับ พี่พัฒน์
อยู่ปารีสมาหลายปีแล้ว ทั้งสองคน มาตั้งแต่ไม่รู้ภาษานี้สักตัว
คนนึงมาเรียนต่อ อีกคนนึง มาเพราะอยากมา แล้วทั้งคู่ก็ได้แฟนที่เป็นคนเอเชียที่อยู่ที่นี่
เลยตั้งรกรากกันอยู่เสียที่นี่เลย
.........

หลังจากวันนั้น ฉันก็แวะไปที่ร้านอาหารพี่จิตร ทุกเย็น
ไม่ได้กะไปฝากท้องกับอาหารไทยที่นั่นนะ
แต่ไปหาคนคุยด้วย ตอนเย็นมากกว่า... คุยกะแกจนปิดร้านประมาณ 3 – 4 ทุ่ม

..............
ดีใจจัง เพราะมานี่ ยังไม่เจอคนไทยซักเท่าไหร่เลย ให้ดิ้นตายสิ
แต่ก็ดีนะ จะได้ฝึกภาษาไปด้วย...ฮิ ฮิ








>> กลับไปหน้าเดิมค่ะ...:)

| HOME | WORK'S EXPERIENCE | SIGN &VIEW GUESTBOOK |

© 2001 "Complain or Opinion" Created and Published by JaRuWaN yUnG-yUeN All rights reserved.
 
Hosted by www.Geocities.ws

1