บทความประจำวันที่ 16/8/08 หุ้นในช่วงนี้น่าจะปรับฐานแล้วจะขึ้นแล้วนะครับหาหุ้นดีๆเก็บเอาไว้ละกัน ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนมีมากขึ้น ราคาน้ำมันลงจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง กำไรเพิ่มขึ้นหุ้นก็กลับ
ตลาดหลักทรัพย์ settrade ข้อมูลการซื้อ-ขาย ndvr สสวท ราคาน้ำมัน บร์อดคนกันเอง yahoo ราคาทองคำ เทนิคการลงทุน กราฟ สินค้าเกษตร jsp หุ้นกลุ่มหมูบิน
หุ้น อนุพันธ์ ทองคำ เทคนิคพื้นฐาน
| |
|
![[From www.kitco.com]](http://kitconet.com/charts/metals/gold/t24_au_en_usoz_2.gif)
![[from www.kitco.com]](http://www.weblinks247.com/exrate/exr24_eu_en_2.gif)
![[From www.kitco.com]](http://www.weblinks247.com/exrate/exr24_ye_en_2.gif)
|
| |
|
 |
|
เกริ่นนำ
สวัสดีครับทุกท่านที่มาเยี่ยมชมเว็ปหมูบินจะว่าถึงการลงทุนเเบ่งออกเป็น2 ประเภท
1.การลงทุนระยะสั้น(การเก็งกำไร)โดยการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ามาเป็นรูปเเบบ การลงทุนซึ่งกำไรมาจากส่วนต่างราคา
2.การลงทุนระยะยาว ซึ่งดูจากปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้นนั้น ซึ่งกำไรมาจากเงิน ปั้นผลเเละส่วน ต่างของราคาหุ้น
การลงทุนระยะสั้น จะว่ากันด้วยรูปเเบบราคาหรือซื้อ-ขายตามเเนวรับเเนว ต้านของกราฟที่มีใช้กันอยู่ตามเว็ปต่างๆ ซื้อเเนวรับคือจุดต่ำสุดของชมที่ผ่านมาเเละขายเเนว ต้านคือจุดสูงสุดเดิมที่ทำได้ เมื่อหลุดเเนวรับเราจะขายหุ้นออกไปเพื่อตัดขาดทุน ถ้าทะลุ แนวต้านขึ้นไปซื้อเพื่อรอขายทำกำไรเมื่อถึงแนวต้านถัดไป
การลงทุนระยะยาว จะว่ากันจากพื้นฐานทางบัญชีของบริษัทนั้นๆซึ่งประกอบด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น มลูค่าทางบัญชีต่อหุ้นและยังประกอบด้วย กำไรขั้นต้น ยอดขาย หนี้สิ้นของบริษัทด้วย
วิธีดูหุ้นกลุ่มนี้
1บริษัทที่ดำเนินงานว่ามีผลกำไรต่อหุ้นเท่าไรและมีปั้นผลให้ไหมโดยดูจากรอบบัญชีที่ผ่านมาอย่างน้อย3ปี
2ดูว่าบริษัทมีกำไรมากพอที่จะจ่ายปั้นผลหรือไม่
3ดูหนี้สิ้นต่อทุนมีมากน้อยเพียงใด โดยคำนวนจากหนี้สิ้นหารด้วยทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นอัตราส่วนนี้ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งดีเพราะบริษัทนั้นมีหนี้สินน้อยไม่ต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ทำให้บริษัทมีกำไรมากขึ้น
โดยปกติวิธีดูหุ้นกลุ่มนี้
1จะดูจากราคาที่ซื้อหุ้นจากราคาหุ้นหารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้นหรือP/Eซึ่งไม่เกิน10เท่า ดูจากผลกำไรของบริษัทที่มีอยู่ทีเว็ปตลาดหลักทรัพย์หรือsettrade หนังสือพิมพ์มีราคาหุ้นรายตัว โดยมีคำนวนจากกำไรสุทธิ1ปีมาคำนวน
2จะดูจากราคาที่ซื้อหุ้นจากราคาหุ้นหารด้วยมลูค่าทางบัญชีต่อหุ้นหรือB/vระหว่าง0.8ถึง1เท่าโดยดูได้จากเว็ปตลาดหลักทรัพย์หรือsettrade หนังสือพิมพ์มีมีราคาหุ้นรายตัว
3วิธีขายทำกำไรเมื่อp/eเกิน15เท่าหรือb/vเกิน1.5
ตลาดอนุพันธ์ (ฟิวเจอร์)คือตลาดซึ่งมีขึ้นมาเพื่อลดความเสี่ยงที่ขาดทุนมากเพราะเวลาหุ้นลง เรามีแต่ขาดทุนเท่านั้นแต่ตลาดนี้ซื้อขึ้นหรือลงก็ได้ทำให้ลดความสูญเสียของพอร์ตได้ ถ้าหุ้น อยู่ในช่วงขาลงซื้อลงไว้กำไรจากฟิวเจอร์จะทำให้หุ้นในพอร์ตขาดทุนน้อยลง และเมื่อหุ้นขึ้น เราซื้อขึ้นกำไร2เด้ง แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องดูตลาดให้ขาดว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงไม่เช่นนั้น จะขาดทุนมากว่าเดิมเท่าตัวเช่นกัน
การซื้อฟิวเจอร์ขาลงทำได้จากดัชนีหุ้นปรับตัวลด ลงและอยู่ในแนวโน้มขาลงจะทำได้กำไรเมื่อหุ้นปรับตัวขึ้นเราปิดสัญญาและได้กำไรต่อจากนั้น หุ้นในพอร์ตเราขาดทุนน้อยลงเนื่องจากหุ้นขึ้นถ้าหุ้นกลับมาที่เดิมเราได้กำไรจากฟิวเจอร์มาดี กว่าไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ฟิวเจอร์มีข้อเสียตรงที่มีเวลาในเวลาหมดอายุในปลายเดือนกำหนด H=มี.ค. M=มิ.ย. U=ก.ย. Z=ธ.ค.ฟิวเจอร์อยู่ในset50
ทองคำ
เราสามารถซื้อเป็นเครื่องประดับและลงทุนได้ราคาทองคำซึ่งจะผันผวนตามราคาทองคำใน ตลาดโลกและค่าของค่าเงินบาท
ราคาในตลาดทองขึ้นเงินบาทแข็งค่าราคาทรงตัว
ราคาในตลาดทองทองขึ้นเงินบาท อ่อนค่าราคาปรับขึ้นมากกว่าปกติ
ราคาในตลาดทองลงเงินบาทแข็งค่าราคาลงมากกว่า ปกติ
ราคาในตลาดทองลงเงินบาทอ่อนค่าราคาทรงตัว ทองลงเงินบาทแข็งค่าราคาทรงตัว
| หุ้นหรือหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนราคาขึ้นและลง ถ้าขึ้นติดต่อกันหลายวันจนเกิดเป็นแนวโน้มขาขึ้น หุ้นลงติดต่อกันหลายวันจนเกิดเป็นแนวโน้มขาลง ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนไปในทิศทางใดขึ้นอยู่กับว่าตลาดนั้นไปในทิศทางไหน โดยปกติแล้วหุ้นขึ้นเราถึงเราถึงได้รับกำไรหรือส่วนต่างราคาหุ้นแต่ถ้าหุ้นลงเราก็ขาดทุนแล้วที่นี้เราจะทำไงดี ตอบกันง่ายเล่นเฉพาะแนวโน้มขาขึ้นก็กำไรอย่างเดียวแต่ปัญหาอยู่ที่ว่าแนวโน้มขาขึ้นจะรู้ได้ไงและถ้าหุ้นที่ถือไว้ราคาปรับลงทุกวันหรืออยู่ในช่วงแนวโน้มลงจะทำไงดี ก่อนอื่นเราจะต้องดูราคาหุ้นว่าอยู่ในทิศทางใด ถ้าอยู่ในแนวโน้มขึ้น(ขาขึ้น)ก็ง่ายหน่อยโดยดูจากแนวรับคือจุดที่เริ่มต้นขึ้นและแนวต้านคือจุดสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา โดยปกติแล้วเมื่อหุ้นขึ้นจากจุดต่ำไปจุดสูงจะเกิดมีการทำกำไรซึ่งโดยปกติแล้วราคาก็อยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของราคาต่ำบวกราคาสูงเช่นราคาต่ำ=1และราคาสูง=2 เพราะฉะนั้นราคาที่น่าจะปรับลงมาคือ(ราคาต่ำ+ราคาสูง)หารสอง=(1+2)/2=1.5 ราคาที่หุ้นจะขึ้นไปต่อได้ต้องไม่ต่ำกว่า1.5 ที่นี้เราจะรู้ได้ไงว่านี้จุดสูงรู้ได้จากจุดสูงนั้นผ่านมาแล้วหรือราคาปิดเมื่อวานสูงกว่าวันนี้โดยมีองค์ประกอบ2ตัวที่ชี้ชัดคือจุดสูงสุดของเมื่อวานนี้สูงมีราคากว่าวันนี้และจุดต่ำสุดของเมื่อวานนี้มีราคาสูงกว่าจุดต่ำของวันนี้ เมื่อเกิดภาวะกลับตัวหรือหยุดลงดูได้จากราคาของหุ้นวันนี้สูงกว่าเมื่อวานและมีราคาสูงสุดของวันนี้สูงกว่าราคาเมื่อวาน มีราคาต่ำสุดของวันนี้สูงกว่าราคาเมื่อวาน แสดงว่าเกิดสัญญาณกลับตัวและถ้าเกิดเหตุการณ์เหมือนกันอีกครั้งบ่งบอกว่าหุ้นหยุดลงระยะสั้นแล้วพร้อมปรับตัวขึ้นถ้าราคาหุ้นสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้แสดงว่าหุ้นเป็นขาขึ้นเต็มตัวและจะมีราคาปรับขึ้นอย่างครึ่งหนึ่งของรอบการขึ้นที่แล้ว แนวโน้มขาลงดูจากแนวรับที่ไม่สามารถรับแรงเทขายได้ทำให้ราคาหลุดแนวรับจนทำให้เกิดจุดต่ำสุดใหม่และเมื่อมีการกลับตัวไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้จากนั้นราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่จึงเกิดเป็นแนวโน้มลงซึ่งช่วงนี้เองที่เราไม่มีกำไรจากหุ้นเลย ผมจึงขอแนะนำท่านนักลงทุนทั้งหลายตามที่ท่านอาจารย์ผมสอนไว้ 1อย่าซื้อถัวเฉลี่ยหุ้นเพื่อให้ต้นทุนถูกลงเพราะมันจะทำให้คุณขาดทุนลงไปอีกถ้าอยากจะซื้อให้ซื้อตอนแนวโน้มหุ้นตัวนั้นเป็นขาขึ้นเพราะถ้ามันขึ้นหุ้นจะขาดทุนน้อยลงและยังกำไรของใหม่ด้วย 2รู้จักตัดขาดทุนเมื่อเกิดสัญญานว่าแนวโน้มขาลงแล้วจงขาดทุนให้น้อยที่สุดโดยที่หุ้นหลุดแนวรับแล้วขายทิ้งเพื่อรอโอกาสซื้อ 3จงซื้อหุ้นเฉพาะแนวโน้มขาขึ้นเท่านั้นถึงจะซื้อแพงหน่อยก็ได้กำไร สุดท้ายนี้ผมหวังว่าความรู้อันน้อยนิดของผมจะเป็นประโยชน์แก่ผู้มาเยี่ยมชมบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าทำได้ทั้ง3ข้อคุณก็สามารถอยู่ในตลาดนี้ได้นานเท่าที่คุณต้องการและกำไรเพียงพอที่จะเป็นเงินสะสมไว้ใช้ในอนาคต สิ่งที่สำคัญที่จะรู้ว่าขาดทุนหรือกำไรคือตอนที่คุณวางมือจากตลาดนี้เพราะนี้คือเกมที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด |