ญี่ปุ่นส่ง'ไมโครเพ็ทส์'สัตว์เลี้ยงอิเล็กทรอนิกส์สัตว์ใหม่บุกเมืองไทย

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ X-cite
ทายาททามาก็อตสายพันธุ์ใหม่ "ไมโครเพ็ทส์" สัตว์เลี้ยงไฮเทคจากญี่ปุ่น บุกตลาดของเมืองไทย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2545 มร.เททสุโอะ คาวาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตมี (ประเทศไทย) จำกัด และนายวีระรัตน์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ก.เจริญทอยส์ จำกัด ได้เปิดตัว "ไมโครเพ็ทส์" สัตว์เลี้ยงไฮเทค ทายาททามาก็อตที่เคยโด่งดังในไทยเมื่อหลายปีก่อน กลับมาใหม่เปลี่ยนรูปลักษณ์กว่า 10 รูปแบบ สามารถเลี้ยงดูได้เหมือนจริง พร้อมกับรับคำสั่งได้ถึง 18 แบบ

"ไมโครเพ็ทส์" ของเล่นไฮเทคในรูปแบบสัตว์เลี้ยง 3 มิติ ที่มีระบบการสั่งงานโดยเสียง ผลิตโดย บริษัท โตมีฯ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการผลิตของเล่นจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์กลุ่มสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ตัวจิ๋วจากเกาะไมโครนีเซีย สัตว์เลี้ยงสมองกลที่มี 10 แบบ ประกอบด้วย สพร็อคเก็ต สุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน บ็อบ สัตว์ประหลาดตามพุ่มไม้ คัมส์ลี่ย์ แมวตัวจิ๋วตามซอกซอย ยุค สัตว์ประหลาดเจ้าแห่งขุนเขา โมชิ สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ แมงโก้แมวบ้าน และแก๊ก สัตว์ประหลาดแห่งภูเขาไฟ ที่มีความสามารถด้วยระบบตอบสนองอัตโนมัติที่สามารถโต้ตอบตามคำสั่งได้ถึง 18 แบบ

มร.เททสุโอะ คาวาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตมี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท โตมีฯ ตั้งมาหลายสิบปี เป็นบริษัทที่ผลิตของเล่นจากประเทศญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว นอกจากนี้ยังมีที่ประเทศฝรั่งเศส อเมริกา และฮ่องกง สำหรับฝ่ายผลิตจะอยู่ที่ฮ่องกงและในประเทศไทย โดยผลิตของเล่นที่เหมาะสำหรับเด็กอายุน้อยๆ เช่น พวกรถไฟ ต่อมาจึงเริ่มผลิตประเภทที่เหมาะกับเด็กอายุสูงขึ้น เช่น หุ่นยนต์ สำหรับไมโครเพ็ทส์ตอนนี้กำลังโด่งดังและเป็นที่นิยมมากๆ

การที่ตนเข้ามาเปิดบริษัท โตมีฯ ในเมืองไทย เนื่องจากคนไทยมีนิสัยอ่อนหวาน ยิ้มง่าย เป็นประเทศที่มีการให้อภัยสูง ต่างจากประเทศอื่น เมื่อมาทำงานกับคนไทยยิ่งพบว่าจะสามารถร่วมกันพัฒนาของเล่นให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ไมโครเพ็ทส์ผลิตที่เมืองจีน แต่ในอนาคตข้างหน้าจะเข้ามาผลิตในประเทศไทยแน่นอน อยากให้เด็กๆ ได้สนุกสนานและมีความสุข

ไมโครเพ็ทส์ไม่ใช่เหมาะสำหรับเพียงแค่เด็กเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นได้ ในญี่ปุ่นแม้แต่นักมวยปล้ำหญิงซึ่งมีน้ำหนักตัวมากถึง 300 ก.ก. แต่ยังนิยมเล่นไมโครเพ็ทส์

นายวีระรัตน์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ก.เจริญทอยส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท โตมีฯ นำไมโครเพ็ทส์ซึ่งเป็นของเล่นไฮเทคในรูปแบบสัตว์เลี้ยง 3 มิติ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่แก่เมืองไทย เนื่องจากเมืองไทยยังมีของเล่นไฮเทคค่อนข้างน้อย เราจึงหาโอกาสที่จะนำของเล่นรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาแนะนำสู่ตลาด จากเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้นำ ทามาก็อต สัตว์เลี้ยงคอมพิวเตอร์เข้ามา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก

สำหรับไมโครเพ็ทส์นี้ เป็นของเล่นลักษณะที่ผสมผสานของเด็กเล่น 2 ประเภท ประเภทหนึ่งคืออินเตอร์แอคทีฟทอยส์ คือทามาก็อต และคอลเลคเทเบิลส์ทอยส์ ซึ่งเป็นของเล่นที่เป็นลักษณะตัวตุ๊กตา แล้วจึงมาเป็นไมโครเพ็ทส์ เป็นสัตว์เลี้ยงอิเล็กทรอนิกส์ที่จิ๋วแต่แจ๋ว มีขนาดเพียง 50 ม.ม. แต่สามารถสื่อสาร เคลื่อนไหว และร้องเพลงได้ มันเหมือนกับเพื่อนของเรา โดยจะมีโหมดปกติและโหมดหงุดหงิด มีทั้งหมด 10 แบบ แต่ละแบบนิสัยจะไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นแมว หรือสุนัข หรือหมีจะเลี้ยงได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเป็นสัตว์ประหลาดจะเลี้ยงยากกว่า

นายวีระรัตน์กล่าวต่อว่า เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6-11 ขวบ และกลุ่มวัยรุ่น 12-19 ปี โดยถ้าเป็นพวกแมว สุนัข หมี จะเหมาะกับเด็กผู้หญิงที่จะเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนเล่น ส่วนเด็กผู้ชายเหมาะกับตัวมอนสเตอร์

ไมโครเพ็ทส์จะฟังภาษาคนไม่ได้ แต่จะรับคำสั่งโดยสัญญาณเสียง คือเสียงสั้นและเสียงยาว ในแต่ละครั้งที่ได้รับคำสั่งจะตอบรับโดยการกะพริบไฟที่ตา เมื่อกดปุ่มที่หัวของไมโครเพ็ทส์ 1 ครั้ง จะแสดงสัญญาณเริ่มเล่น และเมื่อกดปุ่มค้างนาน 5 วินาที ไมโครเพ็ทส์จะร้อง ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงว่าปิดแล้ว สามารถรับได้ 18 คำสั่ง มีทั้งการเดินซิกแซ็ก การหมุนรอบตัวเอง

การเคลื่อนไหวของขาและหูได้อย่างสมจริง แต่ถ้าเราไม่เล่น ไม่ดูแล ปล่อยทิ้งไว้ทั้งวัน เขาจะเข้าโหมดหงุดหงิด สุนัขจะส่งเสียงเห่าและจะงอแง ถ้าสั่งซ้ำอีกมันจะร้องและเดินหนีเล็กน้อย แต่เมื่อเราใช้เสียงยาวเท่ากับเป็นการปลอบ จะทำให้เขาเข้าโหมดปกติได้เอง

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ไมโครเพ็ทส์อยู่รวมกันหลายตัว เขาจะสามารถร้องเพลงประสานเสียงกันเอง

ไมโครเพ็ทส์เน้นในเรื่องการสะสม ขณะนี้มีให้เลือก 10 แบบ แต่ในปีหน้าจะมี หมู ม้าลาย และตัวอื่นๆ มาใหม่อีก หลังจากเปิดตัวเป็นทางการในวันนี้ จะมีการนำออกจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปในราคาตัวละ 499 บาท ตนคิดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 10,000 ชิ้น ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้แน่นอน

นายวีระรัตน์กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการเลียนแบบคาดว่าคงไม่มีปัญหา เนื่องจากราคาของเล่นที่ไม่ได้สูงมากจนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างของปลอมและของจริง อีกทั้งไมโครเพ็ทส์จะมีการวางจำหน่ายในทุกรูปแบบ ทั้งห้างสรรพสินค้าและตลาดค้าส่ง เราพยายามเจาะเข้าไปในทุกกลุ่ม.