การทำเว็บไซด์ให้เห็นว่าเราต้องเตรียมอะไรบ้าง ประสบการณ์บ่งบอกอะไรหลายอย่าง วันนี้คงจะมาฉายภาพการทำเว็บไซด์ให้เห็นว่า   เราต้องเตรียมอะไรบ้าง ในปัจจุบันเราเห็นเว็บไซด์มีเยอะแยะมากมายหลายประเภท  แทบทุกองค์กร โดยเฉพาะภาคราชการหลักๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการบริการประเภทนี้อยู่ อันเนื่อง มาจากกระแสสังคมโลก อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ อันเนื่องมาจากการขยายตัวของการสื่อสาร รวมไปถึงสภาพปัญหาของภาคประชาสังคมเปลี่ยนแปลงไป ตลอดถึงผลจากการ ปฏิรูประบบราชการ หลายคนหลายท่านเคยอ่านมา หลายท่านพอรู้มาบ้าง และอีกหลายท่านจำจนท่องได้ด้วยซ้ำแต่ไม่รู้จะนำไป ปฏิบัติอย่างไร คงต้องขออนุญาตอีกแหละที่จะนำประสบการณ์ของตนเอง มาเขียนเพราะถ้าเปิดตำราหรือคัดลอกตำรามาให้ ก็ไม่น่าจะมี ประโยชน์อะไร ตำราดีดีก็มีขายเยอะแยะ และสาเหตุที่นำเอาประสบการณ์ มาเขียนก็เพราะจะฉายภาพในภาพที่นำตำรามาประยุกต์ใช้จริง เมื่อหัวเรื่องเขียนว่า การทำเว็บไซด์ให้เห็นว่าเราต้องเตรียมอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่พูดแค่วันเดียวก็จบ แต่ในทางปฏิบัติหรือนำไปใช้ เป็นเรื่องของทักษะล้วนๆ ท่องจำเก่งอย่างเดียวลำบาก แล้วต้องรู้อะไรบ้าง ที่จะเริ่มเข้าสู่การจัดทำเว็บไซด์ และก็ขอเน้นที่คนทำหรือที่เรียกว่าเว็บมาสเตอร์นั่นแหละ มาเริ่มกันเลยคือ

    1.เราต้องมีใจก่อนเป็นอันดับแรก ใจอยากจะทำ ใจอย่ามีแค่เพียงอยากมีและต้องใจถึงอย่างมากเพราะต้องใช้เวลาคลุกกับมันเป็นช่วงเวลานานต่อครั้ง และอีกประการหนึ่งเรื่องเงินต้องใจถึงเรื่องเงินด้วยเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ทำหรืออุปกรณ์เสริมแต่ละอย่างราคาแพง หรืออีกนัยหนึ่งคือการมีจิตวิญญาณ

    2.เราต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับหนึ่งซึ่งเป็นอ๊อบชั่นที่สูงพอสมควร เพราะการนำเสนอในเว็บไซด์ในหลายๆเว็บไซด์ ท่านเห็นอะไรในเว็บไซด์ไหมว่ามีอะไรบ้าง เช่นรูปภาพ ตัวหนังสือ ภาพเคลื่อนไหว วีดีโอ ข้อมูล และการสื่อสาร 2 ทางเป็นต้น เพราะฉะนั้นตัวเว็บมาสเตอร์เอ งต้องมีความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ว่ารูปภาพ ข้อมูล การสื่อสาร 2 ทาง วีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว เราต้องรู้ว่าจะได้มาโดยวิธีการใด ได้มาแล้วจะนำมาประกอบใช้อย่างไร เมื่อนำไปใช้แล้วการแสดงผลเป็นอย่างไร รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอนได้อย่างไร เช่นการแสดงผลในหน้าเว็บเพจเพี้ยน ทำอย่างไร การสื่อสารไม่ได้ต้องทำอย่างไร เป็นต้น พอสรุปได้ว่าท่านต้องพอรู้และเข้าใจหลายๆด้าน ได้แก่ Multimedia ,Internet,Utility,Application,Source Code,Database,Anti Virus,FTP upload และอื่นๆอีกมากมาย

     3.เราต้องมีความรู้วิธีการทำเว็บไซด์ ไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บไซด์โดยใช้โปรแกรมใดตั้งแต่ง่ายไปถึงยาก โดยวิธีการเขียนตั้งแต่การเขียนด้วย word หรือเขียนด้วยโปรแกรมกึ่งสำเร็จรูปแบบ fontpageหรือ dearmwaever หรืออื่นๆ หรือยากสุดๆก็เขียนแบบ HTML editor ซึ่งเรื่องที่ 2 กับ 3 ต้องเป็นเรื่องทักษะล้วนๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ 3 ต้องมีความรู้จริงตั้งแต่การเขียน การทดลองแสดงผล รวมไปถึงการนำขึ้นสู่การบริการ ซึ่งต้องอยู่ใน sever หรือหลายคนพูดว่าบนอากาศซึ่งหลายๆเว็บต้องบอกว่าไม่ใช่ของเราหรอกเราเอาไปฝากเขา และอาจจะลึกกว่านั้นก็อาจจะถึงขั้นมีหรือเช่า sever ของตนเอง มี host และdomain name ของตนเอง

    4.เราต้องรู้สภาพองค์กร เราจะนำเสนออย่างไรให้องค์กรในสภาพองค์กรนั้นๆ เราต้องออกแบบตั้งแต่ต้นจนจบ นั่นหมายถึงเราคือใคร เราทำเพื่อใคร เราต้องการการตอบรับแบบไหน ถามตัวเองอยู่เสมอว่าเราคือใคร เราจะปฏิสัมพันธ์กับใคร

    5.เราต้องมีจินตนาการ เว็บมาสเตอร์ที่ไม่เคยมีจินตนาการหรือถูกบล็อกจินตนาการเจ๊งทุกราย เพราะการนำเสนอเป็นศิลปะ การเพิ่มมูลค่าให้เว็บไซด ์แต่ละแห่งต้องมีลูกเล่นอย่างไร จินตนาการที่สำคัญที่สุดในความคิดส่วนตัวก็คือการสื่อสาร 2 ทาง ทำอย่างไรให้มีและตอบสนองความต้องการได้ ท่านคงจะเห็นหลายเว็บลักษณะการสื่อสารแทบไม่มีเลย คนเข้ามาชมฝากข้อคิดอะไรมากมายเจ้าของเว็บก็เฉย ฝากอีกก็เฉยอีก ต่อไปเขาก็ไม่มาแล้ว เราต้องสร้างความรู้สึกร่วม เว็บไซด์ที่ไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมย่อมจบเร็ว จินตนาการที่ว่าต้องเน้นทางบวกเสมอ

    6.เราต้องมีองค์ประกอบรอบข้างที่เอื้อต่อการจัดทำเว็บไซด์ ได้แก่

         6.1 อุปกรณ์ซึ่งดังที่กล่าวมาข้อที่ 2 ราคาค่อนข้างแพง อุปกรณ์หลักได้แก่เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็มเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และคู่สายโทรศัพท์ นอกนั้นก็เป็นอุปกรณ์เสริมเช่นกล้องดิจิตอล เครื่องสแกนเนอร์ และชอร์ฟแวร์ที่เกี่ยวข้องในข้อ 2 และต้องอัพเดทเป็นประจำ

         6.2 เวลา เราต้องมีเวลาเพราะขั้นตอนตามที่บอกขั้นต้นมันเยอะมาก และการทำแค่เรื่องเดียวใช้เวลาในการทำค่อนข้างเยอะเช่นแต่งภาพ เป็นต้น แต่เว็บไซด์ที่ดีควรต้องอัพเดททุกวัน บางเว็บอัพเดททุก 5 นาที ด้วยซ้ำ

         6.3 บุคลากรร่วมหรือเว็บมาสเตอร์ร่วม ข้อนี้สำคัญมากเว็บไซด์ที่ดีควรจะมีการอัพเดททุกวัน นั่นหมายถึงต้องทำอะไรตั้งแต่ต้นจนจบทุกวัน บุคลากรกรร่วมจึงสำคัญ ไม่ว่าการส่งข้อมูลทั้งข้อมูล database ข้อมูลภาพ วีดีโอ หรืออะไรก็ตามที่อยากนำเสนอ ถ้าถึงขั้นหาเอง ทำเอง นำเสนอเอง ก็ยากมากๆ ทำไม่ทันและก็เป็นข้อมูลที่ล้าสมัย ไม่ทันกับเวลา

         6.4 อื่นๆ มันมีอื่นๆอีกเยอะมาก เช่นสถานที่ การสนับสนุน ค่าตอบแทน และที่คิดไม่ออกอีกก็เยอะ

    7.เราต้องไม่ขังตัวเอง หมายความว่าเราต้องแสวงหาความรู้อยู่เสมอ เราจับงานในลักษณะนี้ นั่นก็คือเราต้องพยายามเทียบเคียงก็ เว็บไซด์รอบข้างเราด้วย เทคนิค อุปกรณ์ หรือวิธีการนำเสนอ ต้องดูว่าความก้าวหน้าไปถึงไหน เขาใช้เทคนิคอะไรเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ตกยุค ตกสมัย หรือว่าอุปกรณ์ของเราล้าสมัย เปิดไปดูแล้วไม่สามารถแปลผลได้ เอาปัญหาแล้วนำมาประยุกต์ อัพเดทของเรา

    8.เพื่อน หัวใจสำคัญอีกอันหนึ่งคือเพื่อน คนไม่มีเพื่อนจะทำอะไรได้ไม่มาก รู้ก็ไม่มาก เพื่อนที่ดีดีสักคน เพื่อนที่ช่วยเหลือกัน งานเครือข่ายต้องมี
เพื่อน   เรารู้เพื่อนรู้ช่วยกันได้ ทั้งแนวดิ่ง แนวราบ และแนวตั้ง เราไม่มีเพื่อนรอบทิศทางก็ลำบาก ไม่มีแม้แต่ข้อมูลที่จะทำ ไม่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ไม่มีแม้แต่การให้กำลังใจ ทีมเวริกที่ดีสักทีม เพื่อนต่างแดน ต่างหน่วยงาน เราจะรู้อะไรอีกมาก เทคนิคอะไรอีกเยอะ หาเพื่อนที่จริงใจสักคน อย่าทำคน เดียว กำลังใจท่านจะหมดเร็วมาก ไม่มีแม้แต่การแลกลิงค์กัน ถ้าเราชัวร์เพื่อนเราก็ชัวร์เช่นกัน

ทั้งหมดเป็นเพียงการนำเสนอว่าการทำเว็บไซด์ให้เห็นว่าเราต้องเตรียมอะไรบ้าง ผมเอ่ยถึงตัวบุคลากรค่อนข้างเยอะแทบจะ 100 % เลยก็ว่าได้ และผมค่อนข้างคลายความกังวลใจลงไปบ้างเพราะผมเห็นหลายท่านทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ซื้อคอมฯกันหลายคน หลายคนก็ลงทุนไปเรียนเพิ่มเติม หลายคนก็เข้ามาไถ่ถาม สำหรับแนวคิดข้างบนอาจจะดูเหมือนยากไปหน่อยก็ไม่เป็นไร ผมอยากจะให้ท่านทดลองโปรแกรมอะไรก็ได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้ มีขายทั้งเป็นแผ่นโปรแกรมและวิธีการสอน ลองซื้อและลองทำ ทักษะเกิดจากการทดลองทำเท่านั้น ท่องจำไม่ได้ สอนก็เข้าหูเท่านั้น ทดลองทำ ไม่เข้าใจก็ลองถามคนที่รู้ ผมก็ไม่ใช่ว่าจะรู้ทั้งหมด เพียงแต่มีประสบการณ์บางเรื่องเท่านั้นโดยเฉพาะการจัดทำเว็บไซด์ ก็พอแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ และผมคงต้องฝากข้อคิดสักหนึ่งเรื่องว่าทำไมเราไม่ช่วยกันดูเว็บไซด์ของเราเอง ทำไมเราไม่ส่งเสริมให้องค์กรของเรารู้ว่าเรามีเว็บไซด์เพื่อบริการ ทำไมไปดูเว็บไซด์ของคนอื่นที่เขามีลูกเล่นที่หลอกให้เราเขาไปดูเพื่อประโยชน์อะไรไม่ทราบเหมือนกัน เช่นโหลดเพลง โลโก้มือถือ และปี 2004 หรือ 2547 ผมเขียนไว้ที่หน้าเว็บไซด์ว่าขอเชิญชวนให้เราช่วยกันกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ในสิ่งที่ดีดี ถ้าเราไม่กล้าทั้ง 3 กล้า ก็ไม่มีความหมายในการพัฒนา เว็บไซด์ของเราเลย และผมเคยบอกว่าประชาชนหรือผู้ใช้บริการเว็บไซด์ เขาก็คือผู้ที่ต้องการหรือกระหายข้อมูลอย่างยิ่ง และเขาก็ต้องการอีกว่าขอใช้ บริการแบบสะดวกที่สุดได้ไหม องค์การช่วยทำให้หน่อยได้ไหม เว็บไซด์เป็นคำตอบนี้ได้ครับ ช่วยกันหน่อยครับ