เขาว่าผม.....บ้า

     ไม่รู้นะ ใครว่าผมบ้า จะว่าไปผมคิดไม่เหมือนคนอื่นตามปรกติที่เขาคิด ก็ไม่ใช่ ผมทำในสิ่งที่เขาทำก็ไม่เชิง มีหลายคนเตือนผมด้วยความหวังดีว่า คิดอย่างนี้ แถมพูดอีก จะอยู่ในองค์กรไม่ได ้ต้องออกไปทำธุรกิจส่วนตัว ผมบอกได้เลยว่าเสียใจ โนเวย์ ถ้าผมผิดในเรื่องที่ผมคิดไม่เหมือนท่าน
ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพื่อนผมอยู่ภาคเอกชนมั้ง ทำให้ผมคิดแบบเอกชนมากไป อยากได้ก็ซื้อ อยากมีก็หา อยากเป็นก็เรียน ก็ได้มาตั้งหลายอย่าง ซื้อมาแล้ว ใช้ที่บ้านบ้าง ที่ทำงานบ้าง ไม่เป็นไร ผมเป็นคนชัวร์อยู่แล้ว ยืมก็ให ้ใช้ไปเถอะ ไม่เป็นไร เปลี่ยนกันบ้าง ก็ไม่เป็นไร เพื่อนที่ผมคบเป็นแบบนี้
ชวนผมทำธุรกิจหลายครั้ง ผมบอกโนเวย มันก็บอกว่าบ้า ผมก็เข้าใจ เพื่อนมันหวังดี เอาแค่เศษเงินของมันมาช่วยเพราะสงสารเพื่อน โธ่!ลานบินมันคนละลานบิน ผมลานบินข้าราชการ เพื่อนเรามันลานบินธุรกิจส่งออก ผมไม่เคยไปเมืองนอก เพื่อนผมไปเป็นว่าเล่น การมองโลก
มันคนละเวอร์ชั่น เมื่อถูกกล่อมเกลาบ่อยๆ ถึงแม้ใจแข็ง แต่ความคิดก็ถูกซึมซาบไปตามสไตล์ของเอกชน วันเสาร์ผมหยุด เพื่อนผมไม่ได้หยุด
หยุดไม่ได้ มันก็เลียนแบบผมไม่ได้ วันหนึ่งเมื่อผมเอาแนวคิดในภาคเอกชนที่ถูกซึมซาบจาก เพื่อนมานานขึ้นมาใช้ มันเป็นเรื่องที่แปลกหรือไม่
ผมมีกล้อง ผมก็เอามาใช้ ผมมีคอมฯผมก็เอามาใช้ ใครเอาไป ใครใช้ ใครยืม ผมก็ให้ ตามสไตล์เดิมของผม ก็นึกไปว่าเพื่อนผม ไม่มีปัญหานี่
เพื่อนข้าราชการไม่เหมือนเพื่อนเอกชน เพื่อนหลายๆคน เริ่มเตือนผมว่าเอาของส่วนตัวมาใช้ทำไม เดี๋ยวก็กลายเป็นส่วนรวมอีก ผมไม่เชื่อ
มันมีแล้ว มันทำงานได้เร็ว ไม่เป็นไร เขาก็ว่าผมเริ่มบ้า บ้าเพราะประเพณีที่นี่เขาไม่ทำกัน ก็ไม่เป็นไร เมื่อมีภารกิจที่ต้องทำ ก็ไม่เป็นไร ผมก็ทำได้
ก็ด้วยความเผลอไปทำสไตล์เอกชน มันก็ทำให้ถูกมองว่าบ้าใหญ่ ไม่มีกรอบให้ทำนี่ ให้จัดเรื่องไอที ผมก็โหมตามสไตล์เอกชนเลยซิ
เซ็ตรูปแบบซะใหญ่โต ฝันถึงระบบมหาศาล เซ็ตเวลา แล้วดำเนินการ พรรคพวกก็ว่าผมบ้าอีก ทำไม่ได้หรอก มันผิดจากเอกชน
มันเริ่มต้นที่ได้และกำไรอย่างเดียวไม่งั้นตาย ผมก็บอกว่าได้ ไม่เป็นไร ก็เริ่มลุย บังเอิญงานที่รับมอบหมาย มันเป็นเรื่องที่มองไม่เห็นตัวเป็นๆ
จากไม่เห็นตัวก็ทำให้เห็นตัว ขนอุปกรณ์ที่บ้านมาบ้าง กลับไปทำที่บ้านบ้าง ให้เพื่อนช่วยบ้าง ผลก็ออกมาเยอะหน่อย ก็งานมันไม่เหมือนชาวบ้าน
มันก็เลยแปลก เขาก็ว่าบ้า แหกคอก งานเก่าไม่ทำ เจอเพื่อน เพื่อนมันก็ด่าผมว่าเวลาชวนมาทำกับมันไม่ยอมทำ สงสัยมันบ้าคนเดียวมั้ง
ไอ้ที่มันลำบากวุ่นวายกลับทำ ป่านนี้นั่งกระดิกเท้าสบายแล้ว มึงนะบ้า! ใช่ครับก็ของเขามันภาคเอกชนนี่ครับ อุปกรณ์เพียบ ลูกจ้างเป็นร้อย
งานของมัน เมื่อผมไม่ช่วยมัน มันก็จ้างหลายตังค์เหมือนกัน จบมาดๆวิศวะคอมพิวเตอร์ มาวางระบบทั้งหมด ก็มีโอกาสนั่งดูเผลอ3เดือน
เรียบร้อยหมดสอยธุรกิจไปต่างประเทศแล้ว ไอ้เรา 6 เดือนยังไม่ไปถึงไหนเมื่อเทียบกับของมัน เขาทำให้เร็วที่สุดเพื่อลดต้นทุน เท่าที่ผมเฝ้าดูก็ได้อะไรหลายอย่าง ก็ต้องยอมรับว่าแตกต่างกันมากมาย เขาเซ็ตระบบให้เร็ว แล้วค่อยมาเก็บรายละเอียด
มันก็ต่างจากของเราตั้งแต่ตอนเริ่มแล้ว ภาคข้าราชการเมื่อไม่มีกำไร-ขาดทุนมาเกี่ยวข้อง การลงทุนย่อม ไม่มีเลย เป็นธรรมดา แต่ก็หวังกำไรเหมือนภาคเอกชน ความคล่องตัวมันจึงต่างจากเอกชนมากมาย ไม่ว่าอุปกรณ์ คน การจัดการ เงิน มันก็อืด จากทำทั้งระบบจึงไม่เกิด
มันจึงหันไปงานเล็กๆ จ๊อบกระจอกๆ งานที่เคยนึกว่ายิ่งใหญ่ ก็กลายเป็นงานเล็กๆ กลายเป็นช่าง ซ่อมตรงนี้ทีซ่อมตรงนี้ที อำนวยความสะดวกทีนั่นที่นี่
อุปกรณ์ก็เริ่มแปรไปช่วยงานเก่า ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร บุคลากรที่เคยนึกเซ็ตระบบตามสไตล์เอกชน เจอแบบราชการก็อึ้ง ไอ้ที่ใหญ่ๆมันก็เริ่มลีบลงๆ
เหลือจ๊อบเล็กๆ เก็บตกนั้นที เก็บตรงนี้ที ไปดูที่เพื่อนเอกชนผม ที่โหมวางระบบทั้งหมดให้เสร็จเร็วที่สุด เดี๋ยวนี้นั่งเก็บกำไร
มันต่างกับของเราที่ต้องมานั่งเก็บงานเล็กๆ เศษของงานบางงานด้วยซ้ำ วิศวะคอมพิวเตอร์ที่เพื่อนผมจ้างมามันนั่งกระดิกขา เฝ้าดูแลระบบเฉยๆ แต่เพื่อนของเพื่อนที่จ้างวิศวะคอมพิวเตอร์ยังต้องมาเก็บงานจ๊อบเล็กๆ เริ่มไม่ค่อยเอาอุปกรณ์ส่วนตัวไป เริ่มปัดความสามารถของตน
ทำไม่ได้ ทำไม่ได้ จากสไตล์ที่เคยชัวร์อยู่แล้วเริ่มขัดข้อง อุปกรณ์เริ่มเสีย เริ่มทำอะไรต่ออะไรไม่เป็น เมื่อความใฝ่ฝันมันลีบ พลังในตัวก็ลีบ
อุปกรณ์อีกหลายตัวที่บ้านก็ต้องกบดานที่บ้าน เองอย่าโผล่มานะ เดี๋ยวเดือดร้อน มันต้องจ้าง....จ้างอย่างเดียว ทุกอย่างที่ต้องการกำไรต้องจ้าง
ย้อนกลับไปบรรทัดแรก ผมคิดไม่เหมือนคนปรกติหรือ เปล่า! ที่ผมคิดเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่ง ของเพื่อนเอกชนของผมเท่านั้น แค่ปลายนิ้วก้อย
แล้วทำในสิ่งที่เขาไม่ทำหรือ ก็ไม่ใช่อีกภาคเอกชนเขาทำกันจนเป็นเทคนิคโบราณแล้วด้วยซ้ำ ผมเคยนำคอลัมน์มาลงน่าจะชื่อ "ทำไมต้องทำเว็บ"
ในช่องเคล็ดไม่ลับเรื่องคอมฯ ว่าอนุบาลลำปางชนะเลิศแข่งขันทำเว็บอะไรทำนองนี้แหละ แล้วก็อีกหลายอย่างที่เก็บข้อมูลได้ องค์กรภาครัฐหลายแห่งเริ่มปรับตัว ทำอย่างไรก็ไม่เหมือนภาคเอกชน มันต่างกันอยู่หลายช่วงตัว จากความยิ่งใหญ่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์เสริม
ครั้นจะก็อปปี้โปรเจ็คของเอกชน ที่ยิ่งใหญ่มาใช้ ไม่นานก็ลีบเล็กบางจ็อบเท่านั้น แทนที่จ็อบจะเสริมโปรเจ็ค ไม่มีการลงทุน ไม่มีทางที่จะได้
นั่งกระดิกเท้าเฝ้าดูแลผลกำไร บีบให้คิดในระบบ หันไปขวาก็ตัน ซ้ายก็ตัน กลับหลังหันก็ไม่ได้ ไอ้ที่เคยคิดดังก็แผ่ว แผ่วไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไร
สัจธรรมย่อมเป็นจริง ยอมรับสภาพ เมื่อมันต้องลงทุน ก็ต้องลงทุน โปรแกรมอบรมมีอยู่หลายแห่งจัด ไม่ต้องรอจังหวัดหรอก ตันตั้งแต่คิดแล้ว
ไม่ต้องรองบประมาณหรอก ไม่มีในระบบ กนภ.ต่อให้อีกซักยี่สิบปีก็ไม่มีงบประเภทนี้ จัดให้ก็ได้ประเภทนิดๆหน่อยๆ แค่วันเดียวหรือสองวัน ก็ยุ่งวุ่นวายตั้งแต่ต้นจนปลายแล้ว ปีหนึ่งเขาเปิดตั้งหลายรุ่น ไปหาเอง ลงทุนเอง ถ้าไม่ทราบข่าว ก็ผิดตั้งแต่ไม่ทราบแล้ว ไม่ได้ผิดที่ข่าว
แนะนำว่าให้ศึกษาและเตรียมก่อนเข้าอบรมนะ งั้นไม่มีทางทัน งงตั้งแต่ภาษา ที่เขาใช้สอนแล้ว แต่ก็เห็นใจ กรมฯจ้างและสร้างเรามาอีกแบบหนึ่ง แต่ผมแนะนำไปอีกอย่างหนึ่ง อย่ามายืนถ่างสองขาเหมือนผม ท่านก็คงลำบาก ครั้นไม่แนะนำเลยก็ไม่ได้ นโยบายยังตามไม่ทันเลยครับไวมาก
เปลี่ยนปรุ๊บปรั๊บ เดี๋ยวก็เปลี่ยนอีก ไอ้ความจริงก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากหรอก เขาเปลี่ยนแค่คน เปลี่ยนแค่วิธีการ ไปตามเหตุการณ์
เพราะเขาตามข่าวสารข้อมูลของโลกที่เปลี่ยนไวมาก ครั้นไม่เปลี่ยนตามก็ไม่ทัน ผมบอกว่าการไม่ลงทุน ทำให้ไปไหนไม่รอด ตามไม่ทัน รับไม่ได้ ้และว่าผมบ้า ไม่ลงทุนจ้างวิศวะคอมพิวเตอร์ เหมือนเพื่อนผม แล้วจะวางโปรเจ็คได้อย่างไร คนของเราถูกสร้างมา เพื่ออีกแบบหนึ่ง
ครั้นจะฝึกคนของเรา ก็ยืนขาฉีกเหมือนผม คิดโปรเจ็คก็ไม่รอด คิดได้แค่เศษจ็อบ พัฒนาอะไรก็รอไอ้ที่เหลือจากเศษจ็อบ ไม่เป็นไร
แม้จะยืนขาถ่างแบบผม ก็มองเห็นอะไรหลายอย่าง ทั้งที่ทำได้และก็ทำไม่ได้ ดีกว่ายืนกระต่ายขาเดียว เวลาเขาก็โดดไปทางขวา
ผมก็แค่เอาขาซ้ายย้ายมาข้างขวา ก็เท่านั้น กระต่ายขาเดียว ก็ต้องโดดไกลหน่อย มายืนถ่างขาแบบผมก่อน ถึงจะไปอีกขยักหนึ่ง
ทั้งหมดที่เล่ามาทั้งหมด มันก็ยังเป็นเรื่องเล่าเท่านั้น ผมไม่ได้เป็นผู้วิเศษ ผมรู้ว่าผมเป็นใคร เพียงแต่ผมคิดดังไปหน่อย
ใช้ให้ผมทำอะไรก็ขัดขืนไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าลีบตั้งแต่ความคิดก็ไม่ไหว อาจจะบ้าเพราะคิดดังไป ก็ไม่เป็นไร มันก็ลีบบ้าง โตบ้าง
ดังบ้าง เงียบบ้าง
วันเสาร์ผมมีโอกาสไปดูอะไรต่อมิอะไรในงานไอทีที่ มช. มันก็ทำให้ความรู้สึกหลายๆอย่างที่เราไม่เคยมี ที่เราไม่เคยสน
มันทำไมมากมายขนาดนี้ มันไกลขนาดนี้เลยหรือ อย่างไรก็ตามผมก็ยังยืนยันว่าให้ท่านยืนกระต่ายขาเดียว แต่พร้อมที่กระโดดให้ทัน เป็นกระต่ายที่กระโดดได้ไกลกว่าเดิม หน่อยก็แล้วกัน และไม่แนะนำอย่างยิ่ง ที่จะมายืนขาถ่างแบบผมทั้งเมื่อย ถึงลีบครับ
ท่านคงแปลกใจว่าผมมานั่งเขียนทำไม ไม่กลัวเขาเกลียดกันหรือ หรือว่ามันบ้าอย่างที่เขาพูดจริงๆ เห็นไหมครับว่า
ช่วงหลังผมออกมาเขียนบ่อยแล้วก็ออกแนวก้าวร้าวด้วย ท่านเคยเข้าไปตลาดหุ้นไหม ทำไมเขามีโบรกเกอร์ ก็เอาไว้เคาะกระดานหุ้นไงครับ
ผมกำลังจะทำธุรกิจบนเว็บ ก็ต้องเคาะหุ้นเป็นธรรมดา เคาะให้มันขึ้น ขยันเขียนหน่อยแนวนี้แหละ แนวหวาน เคาะไม่ขึ้น...ชัวร์ เสียเวลาเคาะ
ปิดท้ายด้วยโลโก้โฆษณา เขาด่าบ้าง เกลียดบ้าง ก็ไม่เป็นไร บ้าเป็นโบรกเกอร์ เคาะอย่างไรก็เข้าทางคนบ้า ก็ปล่อยเขาว่าไป บ้าก็บ้าได้ ซื้อหุ้นหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวก็หลงทางคนบ้าไปเอง......แฮ่ๆ เล่นกับคนบ้าดีนัก

ตัวอย่างเทคนิคเว็บโฆษณา

15/11/46

Hosted by www.Geocities.ws

1