ในยุคไอที ยุคที่ทำให้โลกเล็กลง อยู่แค่ปลายนิ้วและคืบคลานเข้าสู่ชีวิตประจำวัน
ดังนั้นการปรับตัวขององค์กรเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีสารสนเทศโลกเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลได้กำหนดนโยบายหลายเรื่องในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศรวม
ไปถึงการพยายามผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านไอทีของเอเซีย ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วอันได้แก่
ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วอันได้แก่การปรับรูปแบบการบริหารราชการแบบบูรณาการเพื่อการพัฒนา (CEO)
ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยอำนวยการในการบริหารโดนเฉพาะด้านข้อมูลและการบริการ
การดำเนินงานตามแนวทาง
E-GOVERNMENT ซึ่งเกิดจาก
E-COMMERCE จึงเกิด
E-PARIIAMENT จึงเกิด
และอะไรอีกเยอะแยะ
ONE STOP SERVICE อย่างไรก็ดีเป็นเรื่องที่องค์กรต้องคิดและเร่งปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่
การผลักดันจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะระดับผู้บริหารที่เป็น CIO แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
ดังนั้นการดำเนินการเพียงจุดเล็กๆ จึงไม่เกิดผลอะไรมากมายกับการพัฒนาเทคโนโลยีกับองค์กรมากนัก
การดำเนินการทั้งระบบจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งดังนั้นแผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร
จึงเป็นเรื่องสำคัญและต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้
ดังจะยกตัวอย่างดังนี้
แผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
แผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
โดยเฉพาะตามนโยบายอีกอฟเวิร์นเม้นท์ (E-Government) ของรัฐบาล เพื่อที่จะทำให้บุคคลากรและองค์กร มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารให้อยู่ในระดับดี
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้มีบทบาทที่สำคัญกับองค์กร การจะนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการทำงาน ภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการจัดทำ IT Master Plan ซึ่งเปรียบเสมือนแผนแม่บท ที่จะช่วยให้มองเห็นภาพของกิจกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วยแผนต่างๆ ที่จำเป็นในการดําเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานตามกรอบ ระยะเวลาของแผนนี้ซึ่งจะอยู่ในระยะเวลา 3-5 ปี
องค์ประกอบของแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ
ต้องครบทั้งระบบประกอบด้วย
1 แผนการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
แผนการพัฒนาระบบสารสนเทศ
แผนการติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
แผนการติดตั้งระบบเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลและระบบปฏิบัติการเครือข่าย
2 แผนการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างหน่วยงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ประกอบด้วย
แผนการกําหนดและปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานด้านสารสนเทศ
แผนการการศึกษา/ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรในหน่วยงาน
แผนการดําเนินงานการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
3 แผนการลงทุน ประกอบด้วย
แผนการลงทุนด้านการพัฒนาระบบงานสารสนเทศ
แผนการลงทุนด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
แผนการลงทุนด้านระบบเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลและระบบปฏิบัติการ
4 แผนงบประมาณ ประกอบด้วย
งบประมาณด้านการพัฒนาระบบงานสารสนเทศ
งบประมาณด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ
งบประมาณด้านระบบเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลและระบบปฏิบัติการเครือข่าย
5 แผนปฏิบัติการ/แผนการดําเนินงานตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ
จากแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าวจะช่วยให้การพัฒนาระบบสารสนเทศในองค์กรเป็นไปอย่างมีขั้นตอน และช่วยให้การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณค่อนข้างมาก
แนวทางการดำเนินงาน
เพื่อให้การผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่เกิดขึ้นจริงๆ และเป็นไปได้จึงกำหนดแนวทางในการดำเนินงาน ดังนี้
1. ให้บริการข้อมูลผ่านทาง website ของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ (www.geocities.com/cddchiangmai)
อย่างรวดเร็วทั่วถึงครบถ้วนและถูกต้อง
2. จัดหา/พัฒนา Hardware , Software และ Peopleware ให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกระดับ ตั้งแต่ระดับจังหวัด
และอำเภอโดยเฉพาะระดับจังหวัดต้องเป็นศูนย์กลางที่สามารถรองรับการเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างจังหวัดกับอำเภอให้ได้
3. ส่งเสริมบุคลากรระดับจังหวัด และอำเภอให้มีความรู้ด้าน IT สามารถเข้าสู่ระบบ E-learning ,
E-report และใช้ข้อมูลสารสนเทศในการดำเนินงานมากขึ้น
4. ปรับปรุงและพัฒนาระบบฐานข้อมูลจปฐ. และ กชช.2 ค. ให้มีความน่าเชื่อถือและถูกต้องรวมทังฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชนอื่นๆ และนำไปใช้ประโยชน์สูงสุด
5. สนับสนุนให้มีระบบเครือข่ายทุกระดับ (จังหวัด,อำเภอ) ได้แก่ระบบ LAN, Intranet
และ Internet
ในที่นี้ใช้ระบบ Internet
เป็นหลัก
เป้าหมายที่ควรผลักดัน
1. website ของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ต้องมีความน่าเชื่อถือและอัพเดททุก 1- 2 วันและจัดอยู่ในลำดับ
ที่ไม่เกิน 10 เว็บไซด์เด่นจากทะเบียนกรมฯ
2.มีฐานข้อมูลสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่อย่างน้อย 6 ฐานข้อมูล
(ผู้นำ,กลุ่ม,องค์กร,เครือข่าย,ชุมชน,กข.คจ.,กทบ.,นตผ.,กลุ่มออมทรัพย์ฯ ฯลฯ)
3. บุคลากรของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด,สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอระดับผู้บริหาร (พจ. พอ.)
จะต้องมี E-mail address ครบ 100% ของจำนวนผู้บริหารทั้งหมด
4. จังหวัด และอำเภอจะต้องมีwebsite และ web master อย่างน้อยหน่วยงานละ 1 เว็บไซด์
และ webmaster อย่างน้อย 1 คน/เว็บไซด์
5. จังหวัดจะต้องมีระบบ E-report อย่างน้อย 12 เรื่องรวมไปถึงเป็นศูนย์กลางการรับ-ส่ง
E-report จากอำเภอถึงจังหวัด
6. ทุกอำเภอจะต้องมีตำบลต้นแบบในการพัฒนาระบบข้อมูลจปฐ./กชช.2คอย่างน้อย 1 ตำบล
7. จังหวัดต้องสามารถ online ข้อมูลกับ ศพช.เขต และ กรมฯ อาจจะรวมถึงความสามารถ online
ข้อมูลระหว่างจังหวัดกับอำเภอ
8. สร้างระบบข้อมูลจปฐ./กชช.2คสามารถ online ได้ตั้งแต่ระดับตำบล-อำเภอ-จังหวัด
9. บุคลากรของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ
อย่างน้อย 90% สามารถใช้ Internet ได้
10. จังหวัด/อำเภอ มีและใช้ระบบข้อมูลสารสนเทศในการบริหารจัดการงานพัฒนาชุมชนอย่างน้อย 70% ของหน่วยงาน
11. มี E-learning อย่างน้อย 2 หลักสูตรต่อปี
จากแผนการดำเนินงานข้างต้นที่กล่าวมา เป็นเรื่องที่ยากมากในการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม
การที่นำมาเล่าให้ฟังก็เพื่อ
ผลักดันให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด
ช่วยกันสร้าง
มีอยู่หลายเรื่องที่ต้องใช้การผลักดันขั้นสูง ผมไม่อยากเห็นบุคลากรและองค์กรของเราต้องตกขอบ แต่ทุกเรื่องใช่ว่าผมจะ
ทำได้หมด แต่ถ้าทุกคนเริ่มจากการเข้าใจว่ามันคืออะไร แล้วช่วยกันผลักดันทั้งระบบ มันก็เกิดขึ้นได้
ถึงแม้ไม่หมดทั้งหมดที่เขียนมา
แต่การผลักดันเพียงแค่ 2 มือเปล่าๆ โดยลำพัง ก็เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่รับผิดชอบ
ตามแผนข้างต้นแค่เรื่องเดียวก็ไม่ไหวแล้ว แต่งตั้งให้คนหนึ่งรับผิดชอบหัวข้อหนึ่งในแผนนั้นๆก็ไม่ไหวแล้ว
แต่เทคโนโลยีมันเป็นเรื่องการอำนวยการบริหาร มันฝังอยู่ในทุกส่วนขององค์กร คนต้องเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
เข้าไปปรับใช้เอาเอง ไม่ได้ให้เป็นภาระ
ให้เกิดระบบนี้ และทุกคนต้องผลักดันให้เกิดระบบนี้ทุกที่
อะไรมากมาย
เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่ง อันที่จริงผมอยากเห็นความคิดเห็นเชิงระบบ
ผมก็ใช่ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่าความคิดนี้ว่าจะถูกต้องที่สุด และที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือแนวทางการพัฒนาไอที
แล้วก็กล้าบอกได้ว่าเอาไปเป็นแนวสอบ นพก.ได้เลยด้วยซ้ำ ผมอยากเห็นความคิดเห็นที่หลากหลายกว่านี้
และก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นภาระ ไม่อยากเห็นความคิดเห็น
หรือใครคนใดคนหนึ่งก็ม้วนเสื่อเร็วเท่านั้น ถ้ามองภาพทั้งระบบเจอไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงาน
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเลยก็ได้ อย่างไรก็ดีแผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องใหญ่มาก
ระยะยาว
ว่าทั้งระบบถ้าดำเนินการเฉพาะแผนฯ
ที่
อันไหนบุคลากรทำเองได้ก็ทำ อันไหนอำเภอทำได้ก็ทำ และอันไหนจังหวัดทำได้ก็รีบทำ อันไหนที่ต้องรอระดับ
หน่วยเหนือก็รอ อย่ามัวรอว่าผมจะทำอะไรให้ เพราะผมมีแค่ 2 มือ บางวันยังไม่มีตังค์ ซื้อการ์ดอินเตอร์เน็ตด้วยซ้ำไป
โทรศัพท์บางเดือนก็โดนตัดก็มี อันที่จริงผมยังคงค้างตามใจที่ผมคิดว่าต้องไปเรียนเพิ่มเติมบางเรื่องในหลักสูตร
ระยะสั้นๆอีก 2 เรื่อง ที่พอจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ผมขออนุญาตจบลงเท่านี้ก็แล้วกัน
อันที่จริงก็มีเรื่องเล่าตามแนวคิดของตนเองที่คิดว่าน่าจะประยุกต์ใช้ได้ โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการตาม
แนวทาง
E-GOVERNMENT อยู่ค่อนข้างเยอะ อาจจะนำมาเล่า
ก็ไม่เป็นไร วันนี้คิดได้เท่านี้ก็บุญโขแล้ว รีบจบเดี๋ยวนอกจากโดนข้อหาพูดจาจาบจ้วงแล้วยังจะโดน
โดนข้อหาว่าเป็นเว็บไซด์ส่วนตัวอีกกระทงหนึ่ง สวัสดี
5/03/47
นายเล็ก
ดอทคอม