เครื่องแบบวงโยธวาทิต

ฉัตรชัย ผู้ปฏิเวธ

สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนสำคัญสำหรับวงโยธวาทิตก็คือ เครื่องแบบวงโยธวาทิต หมายถึงเสื้อ กางเกง รองเท้า หมวก รวมไปถึงเครื่องประดับต่างๆ เรียกรวมๆว่าเครื่องแบบวงโยธวาทิต การจัดทำเครื่องแบบสำหรับวงโยธวาทิตจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายๆอย่าง ตั้งแต่รูปแบบของเครื่องแต่งกาย ไปจนถึงงบประมาณที่มีอยู่

มีอยู่วันหนึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสไปถ่ายภาพวงโยธวาทิตที่สนามหลวง มีวงโยธวาทิตหลายวงมาร่วมบรรเลงในงานวันแม่ ๑๒ สิงหามหาราชินี (พ.ศ.๒๕๔๖) งานนี้เป็นงานใหญ่ผู้จัดคือมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และเอกชนหลายแห่ง วงโยธวาทิตกว่า ๒๐วง มารวมตัวกันแต่ละวงมาจากโรงเรียนมัธยมชั้นนำที่มีวงโยธวาทิตฝีมือดี รวมไปถึงวงโยธวาทิตที่มาจากกองดุริยางค์ทหาร วงที่มาจากทหารมีหน้าที่บรรเลงเพลงพิธีการ และบรรเลงรับส่งประธาน พอเสร็จพิธีการวงทหารก็เดินทางกลับ เครื่องแบบของวงดุริยางค์ทหารเป็นเครื่องแบบของทหารอยู่แล้วไม่มีการออกแบบแต่งเติม เหมือนกับเครื่องแบบวงโยธวาทิตจากโรงเรียนมัธยม พอเสร็จพิธีการก็เป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติวงโยธวาทิตจากโรงเรียนต่างๆก็เคลื่อนขบวนมารวมตัวกันบริเวณหน้าเวทีท้องสนามหลวงฝั่งวัดพระแก้ว แล้วนักดนตรีจากวงโย จากหลายโรงเรียนจำนวนรวมกันกว่าพันคนก็เริ่มบรรเลงบทเพลงเแลิมพระเกียรติ ได้แก่เพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสดุดีพระแม่เจ้า โดยมีผู้อำนวยเพลงคอยให้สัญญาณการบรรเลงอยู่บนเวที เสียงเพลงจากเครื่องดนตรีหลายร้อยชิ้น นักดนตรีหลายร้อยคน พร้อมใจบรรเลงกันอย่างเต็มที่ แต่เสียงเพลงที่ออกมา กลับไม่สร้างความประทับใจให้ผู้ฟังที่อยู่บริเวณรอบๆท้องสนามหลวงเลย ที่ว่าไม่น่าประทับใจก็เพราะว่าต่างวงก็ต่างบรรเลง น้อยวงนักที่จะมสามารถบรรเลงได้ตามคิวของผู้อำนวยเพลง ก็เพราะว่ามองไม่เห็นหรืออาจจะไม่ได้มอง กลุ่มเครื่องประกอบจังหวะแต่ละวงก็ตีไม่เท่ากัน ไม่พร้อมกัน บางวงก็ช้า บางวงก็เร็ว บางวงบรรเลงได้ครึ่งเพลงต้องหยุดบรรเลง เพราะไม่สามารถบรรเลงให้เท่ากับวงที่อยู่ข้างๆได้ วงด้านขวาก็เล่นเร็ว วงด้านซ้ายก็เล่นช้า ฟังออกมารวมๆคิดว่าเป็นบทเพลงร่วมสมัย (Contemporary music) ผู้เขียนไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าทำไมบรรเลงออกมาเป็นแบบนี้ แต่ถ้าจะให้เดา ก็เดาว่าคงเป็นเพราะ ไม่ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกันมาก่อน มีการแจกโน้ตให้แต่ละวงไปฝึกซ้อมล่วงหน้ามาแต่ไม่ได้มีการนัดหมาย หรือร่วมกันฝึกซ้อมก่อนที่จะมีการบรรเลงจริงๆ ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นเลย กว่าบทความนี้พิมพ์ งานเดียวกันนี้ก็คงจัดไปอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว ไม่มรู้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อบกพร่องในปีที่ผ่านมาให้ดีขึ้นหรือไม่ ที่ติก็เพื่อจะก่อ มิได้มีความประสงค์ร้ายใดๆ ในปีนี้(พ.ศ. ๒๕๔๗) ผู้เขียนจะไปร่วมติดตามงานนี้อีก คาดว่าจะมีเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟัง

หลังจากเสร็จงานในครั้งนั้นผู้เขียนได้เข้าไปคุยกับอาจารย์ผู้ควบคุมวงโยธวาทิตแห่งหนึ่งที่มาร่วมงาน สาเหตุที่ไปคุยด้วยก็เพราะว่าอยากทราบว่าทำไมวงโยธวาทิตโรงเรียนนี้ถึงไม่มีเครื่องแบบวงโยธวาทิต นักเรียนวงโยธวาทิตที่มาร่วมงานแต่งชุดนักเรียนธรรมดา ในขณะที่โรงเรียนอื่นๆแต่งตัวเต็มยศ ได้รับคำตอบจากครูผู้ควบคุมวงว่า จะต้องมีงานเดินเฉลิมพระเกียรติอีกในวันพรุ่งนี้ หากนักเรียนแต่งชุดเต็มยศวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะไม่มีใส่ เพราะเครื่องแบบที่มีอยู่ ต้องใส่เสื้อเชิ้ตข้างใน ใส่เสื้อคลุมข้างนอก ต้องมีเครื่องประดับต่างๆค่อนข้างมาก หากต้องใส่จะต้องมีการเตรียมเครื่องแบบล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน และเครื่องแบบที่ผ่านการใส่มาแล้วจะต้องส่งซักก่อนจึงนำมาใส่ได้ใหม่ ไม่เช่นนั้นชุดจะเหม็นมากเพราะเหงื่อของนักเรียน

“ทำไมโรงเรียนอื่นๆถึงใส่ชุดติดต่อกันได้ถึงสองวัน” เกิดคำถามในใจผู้เขียน คำตอบที่คิดได้ก็คือ นักเรียนต้องทนเหม็นชุดที่ตัวเองใส่ ใครเหม็นมากก็ต้องทนมากหน่อย ที่สำคัญควรระวังเพื่อนวงโยฯที่อยู่ข้างๆจะทนไม่ไหว เป็นลมเพราะความเหม็นไปเสียก่อน

เรื่องของเครื่องแบบวงโยธวาทิต ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนสนใจวงโยธวาทิตมากขึ้น ถือเป็นหน้าตาของโรงเรียน การจัดทำเครื่องแบบวงโยธวาทิต ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างมาก สำหรับชุดในราคาปานกลางประมาณ ๒,๐๐๐ - ๓,๐๐๐ บาท ในหนึ่งวงต้องตัดเผื่อไว้ประมาณ ๖๐ - ๘๐ ชุด ต้องใช้เงินประมาณ ๑๒๐,๐๐๐ -๒๔๐,๐๐๐ บาท ราคาอาจถูกกว่านี้หากลดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น ลดคุณภาพของวัสดุต่างๆ ราคาอาจจะแพงกว่านี้หากต้องการชุดที่ครบสูตรสมบูรณ์แบบตั้งแต่รองเท้าไปจนถึงขนนกที่ประดับหมวก ในครั้งนี้จะกล่าวถึงเฉพาะเครื่องแบบมาร์ชชิ่งแบนด์

ส่วนประกอบของเครื่องแบบวงโยธวาทิตมีดังนี้

๑. รองเท้า รองเท้าสำหรับวงโยธวาทิตมีอยู่หลายแบบ ตั้งแต่รองเท้าผ้าใบ รองเท้ายาง ไปจนถึงรองเท้าหนัง ราคาประหยัดสุดคือรองเท้าผ้าใบ มีตั้งแต่ราคาไม่ถึงร้อย ประมาณ ๘๐ บาทขึ้นไป หากซื้อจำนวนมากสามารถต่อรองราคาได้อีก ส่วนรองเท้าหนังจะมีราคาค่อนข้างแพง อย่างถูกประมาณ ๑๙๙ บาท ไปจนถึงคู่ละพัน รองเท้าจะมีแบบผูกเชือกกับไม่ต้องผูก แบบที่ไม่ต้องผูกเชือก หากเป็นผ้าใบจะมีราคาถูก และสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องกังวลว่าเชือกรองเท้าจะหลุด แต่รองเท้าแบบนี้ต้องมีขนาดพอดีกับเท้า หรือคับสักนิดจะไม่เกิดปัญหารองเท้าหลุด สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือพื้นของรองเท้าจะต้องป้องการการลื่นไถลได้ดีพอสมควร ในกรณีที่วงโยธวาทิตต้องแปรขบวนบนสนามหญ้าที่เปียก หากรองเท้ามีพื้นไม่ดีอาจทำให้ลื่นได้ การใช้รองเท้าหนังในการเดินมาร์ชชิ่งเป็นระยะทางที่ค่อนข้างยาวก่อให้เกิดอันตรายกับเท้าได้

๒. กางเกง กางเกงสำหรับวงโยธวาทิตโดยเฉพาะจะไม่เหมือนกับกางเกงทั่วไป กระเป๋าต่างๆจะถูกตัดออกไป เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้กระเป๋า ถึงจำเป็นก็ไม่ควรให้มีกระเป๋า เพราะกระเป๋าจะทำให้นักเรียนเอาของต่างๆมาใส่จำทำให้กระเป๋าตุง มองดูแล้วไม่เรียบร้อย ไม่เป็นระเบียบ สิ่งที่นักเรียนมักจะนำใส่กระเป๋ากางเกง ได้แก่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ พวงกุญแจ เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับครูผู้ควบคุมวง จะต้องรวบรวมสิ่งของดังกล่าว เก็บไว้ที่ครูจนการจะออกงานเสร็จ กางเกงสำหรับวงโยธวาทิตส่วนใหญ่จะออกแบบให้มีแถบข้าง ซึ่งมักจะเป็นแถบเดี่ยว วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้เป็น Visual effect แถบที่กางเกงจะทำให้เห็นภาพเวลาที่เดินแถวหรือแปรขบวน เป็น เส้นที่มีการเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน ทำให้เกิดจุดสนใจน่าติดตาม สาเหตุที่นิยมใช้แถบเส้นเดียวเพราะไม่ทำให้ลายตา ดูสวยงามกว่าแถบสองเส้น ราคาสำหรับตัดกางเกงประมาณ ๔๐๐ - ๘๐๐ บาทขึ้นอยู่กับทรงและวัสดุที่ใช้ บางชุดบริเวณเอวที่เป็นยางยืด เผื่อไว้ใช้ได้นานๆ

๓. เสื้อใน เสื้อในไม่ใช่เสื้อชั้นใน หมายถึงเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดทีใส่เพื่อซับเหงื่อ หรือเพิ่มความสวยงามของเครื่องแบบ เครื่องแบบบางชุดอาจไม่จำเป็นต้องมีเสื้อในก็ได้ แต่การมีเสื้อในจะช่วยให้เสื้อนอก มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น เป็นที่ทราบกันดีว่านักเรียนวงโยธวาทิตไปออกงานนักเรียนจะต้องเหนื่อย เหงื่อไหลไคลย้อยกันทุกคน เสื้อในจะซับสิ่งเหล่านี้ไว้ทำให้ไม่โดนเหงื่อจากร่างกายมากนัก ทำให้ผ้าไม่หมองไวใช้ไปได้นาน เสื้อในการเป็นเสื้อยืดคอกลมทีราคาตั้งแต่ ๕๐ บาทขึ้นไป ควรเลือกผ้าที่มีคุณสมบัติซับเหงื่อได้ดี และสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีด้วย

๔. เสื้อนอก , เสื้อคุลม สำหรับเครื่องแบบที่ไม่มีเสื้อในอาจเรียกว่า เสื้อเฉยๆก็ได้ เสื้อวงโยธวาทิตมักจะเป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ผ้าที่ใช้ตัดเสื้อต้องเป็นผ้าที่มีความทนทาน มีการตัดเย็บที่ประณีตไม่ต่างจากชุดสูทในเรื่องของรายระเอียดในการตัดเย็บ ที่ต่างจากสูทก็คือรูปแบบของเสื้อที่มุ่งเน้นให้เห็นความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสถาบัน ลักษณะเสื้อวงโยธวาทิตที่ดีควรจะต้องออกแบบให้นักดนตรีสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างไม่ติดขัด สามารถยกแขนจับเครื่องดนตรีได้อย่างสบาย สวมใส่แล้วรู้สึกสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป การใช้กระดุมจะระบายอากาศได้ดีกว่าการใช้ซิบ กระดุมที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดความยุ่งยากในการสวมใส่ กระดุมโลหะแบบถอดออกจากเสื้อได้นอกจากจะทำให้เพิ่มความสวยงามแล้วยังชาวยลดปัญหากระดุมขาดหรือหลุดได้ในกรณีที่เป็นกระดุมตายตัว เสื้อวงโยธวาทิตไม่ควรมีที่สำหรับติดอุปกรณ์ต่างๆมากจนเกินไป เช่น ป้ายชื่อ อินธนู แถบยศต่างๆ ควรพิจารณาให้เหมาะสมหากติดเครื่องประดับมากเกินจะดูรกไม่สวยงาม เสื้อวงโยธวาทิตอาจมีราคาตั้งแต่ ๑,๐๐๐ บาท ขึ้นไป

๓. หมวกวงโยธวาทิต หมวกวงโยธวาทิตมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ทรงหม้อตาล หมวกทรงสูง หมวกคาวบอย หมวกปีกกว้าง หมวกลูกเสือ ฯลฯ สารพัดแบบ แหล่งที่ทำหมวกขายอยู่แถวๆเสาชิงช้า ใกล้ๆวัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ หนึ่งในนั้นคือร้านภูษาภรณ์ มีถึงสองสาขา แต่เดิมทีร้านทำหมวกเหล่านี้ รับทำหมวกราชการ ทหาร ตำรวจ และรับทำ ป้ายชื่อ เครื่องหมายยศต่างๆของข้าราชการทั้งหลาย แต่ต่อมากิจกรรมวงโยธวาทิตในประเทศไทยได้เติบโตขึ้นมากความต้องการ เครื่องแบบต่างๆก็มากขึ้นด้วย จำนวนร้านทำหมวกที่มีอยู่ไม่กี่ร้านก็ได้รับอานิสงค์นี้ไปด้วย ยอดสั่งทำหมวกสำหรับวงโยธวาทิตแต่ละปีไม่ใช้จำนวนเงินน้อยๆ หมวกที่ราคาประหยัดสุดคือหมวกคาวบอยทรงปีกกว้างราคาประมาณใบละ ๘๐ บาท ขึ้นไป สำหรับหมวกทรงสูง และหมวกหม้อตาล จะมีราคาหลักร้อยขึ้นไป หมวกทรงสูง และหม้อตาล สามารถสั่งทำลายโลหะสัญลักษณ์ของแต่ละสถาบันได้ รูปทรงสีสรร มีหลากหลายสุดแต่จะเลือกตามใจชอบ ส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้หมวกวงโยธวาทิตดูดีขึ้นมาก ก็คือขนนก หากเป็นขนนกในเมืองไทยก็จะไม่แพงมาก แต่หากเป็นขนนกนำเข้าจะมีราคาหลายร้อยบาท การเก็บรักษาก็ต้องแยกออกจากหมวกเวลาออกงานจึงนำออกมาติด ไม่เช่นนั้นขนนกจะเสื่อมสภาพ

๔. เครื่องประดับต่างๆ ได้แก่อินธนู ป้ายชื่อ แถบยศ สายสะพาย ผ้ารัดเอว เข็มขัดหนัง ปลอกแขน สนับขา ผ้าพันคอ ผ้าสะพายเฉียง ฯลฯ สิ่งเหล่าหากใช้มากเกินไปก็จะดูเหมือนไปเล่นลิเกและทำให้เสียเวลาในการแต่งตัวมาก แต่ถ้าเลือกใช้ให้เหมาะสมไม่มากจนเกินไป ก็จะทำให้เครื่องแบบวงโยธวาทิตดูดีขึ้นมาก เครื่องแบบวงโยธวาทิตที่ออกแบบมาดีแล้วแทบไม่ต้องใช้เครื่องประดับใดๆก็สวยอยู่แล้ว

เราลองมาคิดราคาเครื่องแบบวงโยธวาทิตแบบประหยัดสุดๆดู จะมีรายการดังนี้ รองเท้า ๘๐ บาท , กางเกงขายาว ๔๐๐ บาท , เสื้อ(เสื้อนอก) ๑,๐๐๐ บาท ,หมวก ๘๐ บาท เครื่องประดับต่างๆไม่ต้องใช้ รวมราคาประมาฯ ๑,๕๖๐ บาท หากต้องการตัดสำหรับนักเรียน ๖๐ คน จะต้องใช้เงิน ๙๓,๖๐๐ บาท

มีหลายๆโรงเรียนสามารถใช้เงินน้อยกว่านี้ เช่นบางโรงเรียนใช้ชุดลูกเสือ บางโรงเรียนนุ่งผ้าม่วงใส่เสื้อราชปะแตน บางโรงเรียนก็แต่งชุดพื้นเมืองก็มี บุคคลในโรงเรียนที่สามารถช่วยครูวงโยธวาทิตออกแบบชุดวงโยธวาทิต ได้แก่ครูนาฏศิลป์ ครูศิลปะ ในเรื่องของการตัดเย็บอาจให้ครูการงานพื้นฐานอาชีพช่วยได้ แต่ความเป็นจริงแล้วครูวงโยฯส่วนใหญ่มักชอบทำเอง

หัวใจสำคัญของวงโยธวาทิตคือการบรรเลงดนตรีที่ดี น่าฟังน่าประทับใจ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการฝึกซ้อมอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เครื่องแบบที่สวยงามเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น ชุดสวยแต่หากบรรเลงไม่ดีก็ไม่ต่างจากคำที่ว่า “สวยแต่รูปจูบไม่หอม”

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

Hosted by www.Geocities.ws

1