<<  หน้าแรก  |  ประวัติวันการบินทหารบก   |   วันวีรกรรม   |   ประวัติย่อ ร.ท.ชูชาติ    >>

 


อนุสาวรีย์วีรกรรมของเจ้าหน้าที่การบิน


ความเป็นมาของวันการบินทหารบก
         
วันที่ 14 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวการบินทหารบก 
ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ทำการในอากาศและปฏิบัติงานบนอากาศยานเป็นประจำ จะต้องระลึก
ถึงวีรกรรมอันกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของ
ร้อยโท ชูชาติ วณีสอน ร.ท.ชูชาติฯ ได้เคย
ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงชีวิต เพื่อช่วยเหลือหน่วยทหารภาคพื้นดินเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว 
แต่ละครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอดซึ่งทหารภาคพื้นดินต่างก็ได้รับความปลอดภัย และ
สำเร็จภารกิจจากการเสี่ยงชีวิตของร.ท.ชูชาติฯ ทุกครั้ง นับว่าทหารเหล่านั้นเป็นหนี้
บุญคุณนักบิน ทบ.ผู้นี้อย่างประมาณค่ามิได้, การเสียสละชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรีแห่ง
ชายชาติทหารของ ร.ท.ชูชาติฯ ครั้งนี้นับเป็นเกียรติประวัติแก่การบินทหารบกอย่างยิ่ง 
จีงได้รับการพิจารณาความดีความชอบ และได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญเป็น
เกียรติแก่วงศ์ตระกูล เมื่อ 17 ก.ย. 19
         เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนความทรงจำของเจ้าหน้าที่การบินทหารบกทุกคน ในอันที่
จะยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไป ชาวการบินทหารบกจึงได้ลงความเห็นร่วมกันกำหนด
เอาวันสำคัญแห่งวีรกรรมของ ร.ท.ชูชาติ วณีสอน คือ วันที่ 14 มิถุนายน เป็น วันการ
บินทหารบก เพื่อจะได้ร่วมกันจัดงานบำเพ็ญกุศลและทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการรำลึกถึง
เจ้าหน้าที่การบินทหารบกผู้วายชนม์เป็นประจำทุกปี สืบต่อไป

วันวีรกรรม 
            เมื่อ 14 มิ.ย.12 พ.ต.ธีระ เล็กวิเชียร หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร้อย บ.ปีกหมุน ทภ.3 สน.ได้สั่งการให้ ร.ท.ชูชาติ วณีสอน นักบินที่ 1 กับ พ.ต.อ.รัตน์ พรหมโมบล นักบินที่ 2 นำอากาศยานแบบ ฮ.ท.1พร้อมด้วยพลประจำปืน 2นาย ออกปฏิบัติการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงและการส่งกลับสายแพทย์ให้กับ ผส.7 ร.พัน.3 ณ ฐานปฏิบัติการบริเวณบ้านผาแลเหนือ พิกัด พี.ซี.482028 อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ทหารในฐานปฏิบัติการดังกล่าว ถูก ผกค.จำนวนมากทำการโอบล้อม และเข้าโจมตีหลายครั้งหน่วยเหนือยังไม่สามารถจะส่งกำลังเข้าไปช่วยเหลือได้
ทำให้ทหารถูกกระสุนปืนข้าศึกได้รับบาดเจ็บและขาดแคลนอุปกรณ์ในการดำรงชีพ โดยเฉพาะกระสุนปืนที่จะยิงต่อสู้กับข้าศึกจน ผกค.เกือบจะเข้ายึดฐานฯ อยู่แล้ว ร.ท.ชูชาติฯ ได้นำ ฮ. และเจ้าหน้าที่ประจำ ฮ.ดังกล่าวลำเลียงกระสุนปืนมุ่งหน้าสู่ฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งสภาพของฐานฯ ในขณะนั้นเต็มไปด้วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกำลังส่งเสียงร้องครวญ
ครางรอคอยความช่วยเหลือ เมื่อฐานฯกำลังจะละลายเพราะขาดกระสุนปืนที่จะใช้ยิงต่อสู้กับข้าศึก
ทหารส่วนใหญ่ไม่สามารถจะเคลื่อนที่ออกจากที่กำลังได้ เนื่องจากถูกข้าศึกที่มีกำลังพลและอาวุธเหนือกว่าระดมยิงเข้าใส่ทุกทิศทางอย่างหนาแน่น

ร.ท.ชูชาติฯ ได้ตัดสินใจเสี่ยงชีวิตนำ ฮ.ฝ่าห่ากระสุนปืนของข้าศึกร่อนลงสู่
พื้นที่ว่างซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวในฐานฯ อย่างรวดเร็ว เมื่อ ฮ.ลงถึงพื้น ทหารส่วนหนึ่ง
ได้วิ่งฝ่าห่ากระสุนไปขนหีบกระสุนปืนลงจาก ฮ.อย่างทุลักทุเล ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง
นำทหารบาดเจ็บลำเลียงไปขึ้น ฮ. ผกค.ได้ถือโอกาสนั้นระดมยิงไปยัง ฮ.อย่างหนาแน่น
กระสุนปืนถูก ฮ.ทะลุพรุนทั่วทั้งลำ และ 2 นัดในจำนวนนั้นพุ่งเข้าสู่ร่างของ ร.ท.ชูชาติฯ
ในขณะที่มือกำลังกุมคันบังคับคอยจ้องดูการลำเลียงทหารบาดเจ็บขึ้น ฮ. และพร้อมที่
จะวิ่งขึ้นทุกขณะเมื่อการบรรทุกคนเจ็บเสร็จเรียบร้อย นัดที่ 1 ถูกที่แขนขวาทะลุ
ลูกกระสุนตัดเส้นโลหิตใหญ่เฉียดกระดูกแขนท่อนล่างไปไม่ถึงเซนติเมตรโลหิตทะลัก
สาดทั่วห้องนักบิน เมื่อเห็นว่า ทหารบาดเจ็บถูกนำขึ้น ฮ.เรียบร้อยแล้ว ร.ท.ชูชาติฯ 
ก็ตัดสินใจนำ ฮ.วิ่งขึ้นทันทีโดยมิได้คำนึงถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลเลยขณะที่ ฮ.
กำลังลอยตัวพ้นพื้นนัดที่ 2 ก็พุ่งเข้าสู่ราวนมด้านซ้ายฉีกกล้ามเนื้อหัวใจทะลุออกทาง
ด้านหลังโลหิตไหลอาบนองตักและที่นั่ง ร.ท.ชูชาติฯ รู้ตัวว่าถูกกระสุนปืนข้าศึกที่
หน้าอกก็กัดฟันต่อสู้กับความเจ็บปวด พยายามบังคับ ฮ.บินขึ้นสู่อากาศหลบหลีกวิถี
กระสุนของข้าศึกที่รุมกินโต๊ะอย่างบ้าคลั่ง มุ่งกลับที่ตั้งหน่วยทันที แม้บาดแผลที่ได้รับ
จะสาหัสเพียงใด ร.ท.ชูชาติฯ ก็ใช้ความเข้มแข็งและทรหดอดทนเยี่ยงชายชาติทหาร 
ด้วยวิญญาณที่สำนึกในความรับผิดชอบนำ ฮ.คู่ชีพซึ่งถูกกระสุนข้าศึกพรุนทั้งลำ
กลับไปลง ณ ที่ตั้งหน่วยได้อย่างเรียบร้อย แต่เนื่องจากบาดแผลที่ราวนมด้านซ้าย
ฉกรรจ์มากถึงกับกล้ามเนื้อหัวใจทะลุ พอ ฮ.ร่อนลงแตะพื้นเรียบร้อย ร.ท.ชูชาติฯ ก็
สิ้นลมหายใจ ไม่มีโอกาสได้ดับเครื่องยนต์ตามปกติ พ.ต.อ.รัตน์ฯ นักบินที่ 2 ได้ให้
การช่วยเหลือในการบินตลอดเวลา และได้ช่วยประคองร่างไร้วิญญาณของ 
ร.ท.ชูชาติฯ ออกจากที่นั่งนักบินเพื่อส่งโรงพยาบาลต่อไป

 ร.ท.ชูชาติฯ ได้เคยปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงชีวิต เพื่อช่วยเหลือหน่วยทหารภาค
พื้นดินเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ละครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอดซึ่งทหารภาคพื้นดิน
ต่างก็ได้รับความปลอดภัย และสำเร็จภารกิจจากการเสี่ยงชีวิตของร.ท.ชูชาติฯ 
ทุกครั้ง นับว่าทหารเหล่านั้นเป็นหนี้บุญคุณนักบิน ทบ.ผู้นี้อย่างประมาณค่ามิได้,
การเสียสละชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรีแห่งชายชาติทหารของ ร.ท.ชูชาติฯ ครั้งนี้นับเป็น
เกียรติประวัติแก่การบินทหารบกอย่างยิ่ง จีงได้รับการพิจารณาความดีความชอบ
และได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล เมื่อ 17 ก.ย. 19
เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนความทรงจำของเจ้าหน้าที่การบินทหารบกทุกคน ในอันที่
จะยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไป ชาวการบินทหารบกจึงได้ลงความเห็นร่วมกัน
กำหนดเอาวันสำคัญแห่งวีรกรรมของ ร.ท.ชูชาติ วณีสอน คือ วันที่ 14 มิถุนายน 
เป็น วันการบินทหารบก เพื่อจะได้ร่วมกันจัดงานบำเพ็ญกุศลและทำกิจกรรม
ต่าง ๆ เป็นการรำลึกถึงเจ้าหน้าที่การบินทหารบกผู้วายชนม์เป็นประจำทุกปี
สืบต่อไป


ชีวประวัติย่อ ร.ท.ชูชาติ วณีสอน

ร.ท.ชูชาติ  วณีสอน


ร.ท.ชูชาติ วณีสอน ยืนขวาสุดถ่ายพร้อมกับเพื่อนนักบิน ในสมรภูมิเวียตนามใต้ พ.ศ.2512

  • เกิด 2 มีนาคม 2482
  • บิดาชื่อ ร.ท.ชาญชัย วณีสอน
  • มารดาชื่อ นางประพาส วณีสอน
  • ภรรยาชื่อ นางทัศนีย์ วณีสอน
  • สำเร็จ รร.เตรียมนายร้อยรุ่นที่ 17 และ รร.จปร. รุ่นที่ 10 เมื่อ พ.ศ.2506
  • สู่สมรภูมิ
    • คำสั่ง มทภ.3 สน.ที่ 35/2511 ลง 11 ต.ค.11 ให้ ร.ท.ชูชาติ วณีสอน ผบ.ตอนส่งทางอากาศ ร้อย บ.ปีกหมุน รร.การบิน ทบ. ปฏิบัติหน้าที่นักบินปีกหมุน สังกัด บ.ปีกหมุน ทภ.3 สน. ตั้งแต่ 7 ต.ค. 11 เป็นต้นไป

 

[Click for top]


[ Home ]  [ History ]  [ Organization ]  [ Commander ]  [ Aircraft ]  [  Flying Safety  ]


Suggestions: mailto:[email protected]

Hosted by www.Geocities.ws

1