ย่อมาจาก world wide web อ่านว่า เวิลด์ไวด์เว็บ หมายถึงสถานที่รวมของกลุ่มคอมพิว เตอร์ที่มีข้อมูลเตรียมพร้อมไว้ให้ผู้คนอ่านผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Internet) โดยใช้ภาษา เอชทีทีพี (HTTP หรือ Hypertext Tranfer Protocol) ทุกหน้าจะมีทั้งเนื้อหาเรื่องราวต่าง ๆ มีเมนูพร้อมที่จะให้เราสั่งงาน มีคำหลายคำที่มีแถบสีซึ่งสามารถกดเมาส์ถามหารายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องนั้นต่อ ซึ่งอาจเป็นการเรียกหาจากแหล่งเดียวกัน หรือจากแหล่งคอมพิวเตอร์อื่นได้ทั่วโลกดู internet, HTML, ประกอบ

 

 

เว็บไซต์ คือสื่อนำเสนอข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือคือการรวบรวม หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ซึ่งต้องเปิดด้วยโปรแกรมเฉพาะทางที่เรียกว่า Web Browser โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ และเว็บไซต์นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยภาษาทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า HTML (Hyper Text Markup Language) และได้มีการพัฒนาและนำภาษาอื่นๆเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้มีความสามารถมากขึ้น เช่น PHP , SQL ,

Java ฯลฯ

เว็บไซต์ นั้นมีคำศัพท์เฉพาะทางหลายคำ เช่น เว็บเพจ (web page) และ โฮมเพจ (home page) เป็นต้น ปัจจุบันการออกแบบ เว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากมีเครื่องมือในการ ออกแบบ เว็บไซต์ ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป หรือแม้กระทั่ง CMS (Content Management System) อย่าง joomla, wordpress, drupal เป็นต้น

โดยเว็บไซต์นั้นมีไว้เพื่อแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ทำเว็บไซต์นั้นๆ เช่น แสดงข้อมูลข่าวสารต่างๆ , ข้อมูลบริษัท , ขายสินค้า เป็นต้น

 

 

 

เป็นโปรแกรมที่ทำให้เราสามารถอ่านไฮเปอร์เทกซ์ (hypertext) บนเวิลด์ไวด์เว็บได้ โปรแกรมที่มีชื่อที่เป็นที่นิยมในขณะนี้คือ Nestcape และ Microsoft Internet Explorer ดู world wide web ประกอบ เว็บเบราว์เซอร์ เป็นโปรแกรมไคลเอนต์ที่ใช้ HTTP  (Hypertext Transfer Protocol) เพื่อร้องขอหน้าเว็บไซต์จากเว็บเซิร์ฟเวอร์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในนามของผู้ใช้เบราว์เซอร์ เบราว์เซอร์ส่วนใหญ่รองรับอีเมลและ File Transfer Protocol ( FTP ) แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เว็บเบราว์เซอร์สำหรับโปรโตคอลอินเทอร์เน็ตเหล่านั้นและโปรแกรมไคลเอนต์เฉพาะด้านอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น
คุณสมบัติเว็บเบราเซอร์ทั่วไป
เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่แบ่งปันคุณสมบัติมาตรฐานเช่น :

  • ปุ่มโฮม ซึ่งเมื่อเลือกจะนำผู้ใช้ไปยังหน้าแรกที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
  • แถบที่อยู่เว็บซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ป้อนที่อยู่เว็บและเยี่ยมชมเว็บไซต์
  • ปุ่มย้อนกลับ และ ไปข้างหน้า – ซึ่งจะนำผู้ใช้ไปยังหน้าที่ก่อนหน้าหรือหน้าถัดไปที่พวกเขาอยู่
  • Refresh- ปุ่มซึ่งสามารถใช้เพื่อโหลดหน้าเว็บ
  • ปุ่มหยุด – ซึ่งทำให้เว็บหยุดสื่อสารกับเว็บเซิร์ฟเวอร์หยุดหน้าจากการโหลด
  • แท็บ – ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหลายเว็บไซต์์ในหน้าต่างเดียว
  • คั่นหน้า – ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกเว็บไซต์ที่เฉพาะเจาะจงและกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยผู้ใช้

เบราว์เซอร์จำนวนมากยังมีปลั๊กอินซึ่งขยายขีดความสามารถของเบราว์เซอร์ ปลั๊กอินเหล่านี้สามารถอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเช่นการเพิ่มคุณสมบัติความปลอดภัย  

 

 

เป็นรูปแบบของการให้บริการที่ให้ผู้ใช้งานนำเว็บไซต์หรือโฮมเพจของตนเองออนไลน์บนโลกอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฏต่อสายตาคนทั้งโลกง่ายๆ เพียงแค่พิมพ์ชื่อเว็บไซต์(Domain Name) ในเว็บบราวเซอร์ทุกเว็บไซต์ที่ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตจะต้องฝากไฟล์เว็บ ฐานข้อมูล และไฟล์อื่นๆ ไว้กับเว็บเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ดีควรใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิ์ภาพสูงและเชื่อมต่อกับ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้รวดเร็วจากทุกมุมโลก

การบริการ: ผู้ให้บริการ เว็บโฮสติ้ง ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ในด้าน เว็บโฮสติ้ง โดยเฉพาะ อีกทั้งต้องคอยดูแลเซิฟเวอร์และคอยบริการแก้ไขปัญหาของผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้ปัญหาค้างคาจนธุรกิจของลูกค้าเสียหาย

Server: เซิฟเวอร์ต้องมีประสิทธิภาพ เสถียร ไม่ล่ม ต้องมี Uptime เกิน 99.9% ไม่ใช้ PC มาแอบอ้าง และต้องมีหน่วยประมวลผลที่รวดเร็ว เพื่อให้เข้าเว็บไซต์ได้แบบไม่ต้องรอโหลดนาน เช่น DELL PowerEdge R210-II Server เป็นต้น

Location: เซิฟเวอร์ต้องตั้งอยู่ใน Data Center ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทั่วโลกตลอด 24 ชม. ด้วยความเร็วสูงสุด พร้อมต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยในด้านต่างๆ เช่น CAT-IDC ที่อาคาร กสท. เป็นต้น

 

 

 

 

ย่อมาจากคำว่า Uniform Resource Locator เรียกโดยย่อว่า ยูอาร์แอล
คือตัวระบุแหล่งทรัพยากรสากล (URI) ประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับระบุแหล่งที่อยู่ของทรัพยากรที่ต้องการและมีกลไกบางอย่างสำหรับดึงข้อมูลทรัพยากรนั้นมา ในการใช้ในเอกสารทางเทคนิคและการอภิปราย อาจหมายถึงที่อยู่บนเว็บ หรือ ที่อยู่อินเทอร์เน็ต ก็ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ย่อมาจาก File Transfer Protocol (โปรโตคอลการโอนย้ายไฟล์) “โปรโตคอล” คือชุดของขั้นตอนหรือกฎที่อนุญาตให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สื่อสารกันได้ FTP เป็นชุดของกฎที่อุปกรณ์บนเครือข่าย TCP / IP (อินเทอร์เน็ต) ใช้เพื่อถ่ายโอนไฟล์ เมื่อใช้อินเทอร์เน็ต และกำลังใช้โปรโตคอลที่แตกต่างกัน

FTP ทำงานอย่างไร

FTP เป็นโปรโตคอลไคลเอนท์-เซิร์ฟเวอร์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไคลเอนท์จะร้องขอไฟล์ และเซิร์ฟเวอร์จะจัดเตรียมไฟล์ ด้วยเหตุนี้ FTP จึงต้องใช้ช่องทางพื้นฐาน 2 ช่องเพื่อสร้างการเชื่อมต่อ ได้แก่ ช่องคำสั่ง (เริ่มต้นคำสั่ง เก็บข้อมูลพื้นฐาน กล่าวคือ ไฟล์ใดที่จะเข้าถึง) และช่องข้อมูล (ถ่ายโอนข้อมูลไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองเครื่อง) ในการสร้างการเชื่อมต่อ ผู้ใช้จะต้องระบุข้อมูลประจำตัวให้กับเซิร์ฟเวอร์ FTP ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้พอร์ตหมายเลข 21 เป็นโหมดการสื่อสารตามค่าเริ่มต้น สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือมีโหมดการเชื่อมต่อ FTP ที่แตกต่างกัน 2 โหมด ได้แก่ แอกทีฟและพาสซีฟ

ในโหมดแอกทีฟ เซิร์ฟเวอร์จะมีบทบาทแอกทีฟโดยการอนุมัติการร้องขอข้อมูล อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง โหมดแอกทีฟอาจมีปัญหากับไฟร์วอลล์ ซึ่งจะบล็อกเซสชันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลที่สาม นั่นคือเมื่อโหมดพาสซีฟเข้ามามีบทบาท ในโหมดพาสซีฟ เซิร์ฟเวอร์จะไม่รักษาการเชื่อมต่อไว้ ทำให้ผู้ใช้สร้างทั้งช่องข้อมูลและช่องคำสั่ง โดยพื้นฐานแล้ว เซิร์ฟเวอร์จะ “รับฟัง” แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น ทำให้อุปกรณ์อีกเครื่องจัดการงานจำนวนมากได้

FTP แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

FTP มักใช้เพื่อจัดการไฟล์จำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมักมีประโยชน์ในการพัฒนาเว็บ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ คุณสามารถจัดการการถ่ายโอนไฟล์ด้วยเซสชัน FTP ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ในการอัพโหลดไฟล์ที่เฉพาะเจาะจง เพิ่มไฟล์รูปภาพ ย้ายเทมเพลตเว็บ และอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีอาจใช้ File Transfer Protocol เพื่อถ่ายโอนไฟล์เซิร์ฟเวอร์จำนวนมากภายในระบบปิด

ข้อดีข้อเสียของ FTP คืออะไร

FTP มีประโยชน์สองสามประการที่สำคัญที่ต้องกล่าวถึง เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นเวลานาน ผู้คนส่วนใหญ่จึงคุ้นเคยกับโปรโตคอลและมีเครื่องมือเดสก์ท็อปมากมาย เช่น FileZilla, WinSCP, Cyberduck และอื่นๆ ซึ่งทำให้การใช้ FTP เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า FTP มีคุณสมบัติที่มีประโยชน์หลายประการ เช่น ความสามารถในการถ่ายโอนไฟล์หลายไฟล์พร้อมกัน ความสามารถในการถ่ายโอนต่อในกรณีที่ขาดการเชื่อมต่อ และความสามารถในการกำหนดเวลาการถ่ายโอน

อย่างไรก็ตาม FTP มีข้อเสียที่สำคัญอย่างหนึ่ง นั่นคือการขาดการรักษาความปลอดภัย FTP ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1970 และด้วยเหตุนี้ จึงมีมาก่อนมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์หลายอย่างที่เราต้องพึ่งพาในโลกสมัยใหม่ FTP ไม่ได้รับการออกแบบมาให้เป็นโปรโตคอลที่ปลอดภัยและไม่มีการเข้ารหัสการถ่ายโอน FTP ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถอ่านรหัสผ่าน ชื่อผู้ใช้ และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ ของคุณได้ค่อนข้างง่ายโดยการบันทึกแพ็กเก็ตข้อมูลของคุณ (กล่าวคือ ผ่านการโจมตีโดยการบันทึกแพ็กเก็ต)

 

 

 

กลุ่มคำ, วลี หรือประโยคที่มีลิงก์ (URL) แนบอยู่ในตัวอักษร วลีหรือประโยคที่เกี่ยวข้องกับหน้าเว็บไซต์ปลายทาง โดยส่วนมากการทำ SEO จะต้องมีการใส่ Anchor Text เอาไว้ เพื่อให้มีโอกาสในการให้คนได้คลิกเข้าไปเพื่อศึกษาหรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากสิ่งที่กำลังอ่านอยู่ หรือถ้าบทความในเว็บไซต์อื่นๆ มี Anchor Text ที่ใส่ลิงก์เว็บไซต์เอาไว้ เมื่อมีคนคลิกคุณก็จะได้ Backlink กลับมาด้วย ดังนั้นโดยปกติแล้วหากมีการทำ Outreach (ส่งคอนเทนต์บทความเพื่อไปโพสต์ลงหน้าเว็บอื่นๆ) ก็มักจะมีการใส่ Anchor Text เอาไว้ในคำคีย์เวิร์ดเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้ามายังหน้าเว็บฯ ของเราได้

 

 

ย่อมาจาก (Domain Name System หรือ Domain Name Server) คือระบบการจัดการชื่อเว็ปไซต์ (เช่น www.ชื่อเว็ปไซต์.com) โดย DNS จะทำหน้าที่แปลงชื่อโดเมนไปเป็นตัวเลขหรือที่เรียกว่า IP Adress…  ระบบบริหารจัดการชื่อเว็บไซต์หรือชื่อโดเมน (ตัวอย่าง www.ชื่อเว็บไซต์.com) โดย DNS จะทำหน้าที่แปลงชื่อโดเมนไปเป็นตัวเลขหรือที่เรียกว่า IP Address ซึ่งหมายเลขนี้จะใช้สำหรับการติดต่อไปยัง Server อื่นๆ ที่ต้องการเชื่อมโยงเช่น Web Hosting เป็นต้น

 

 

 

 

หน้าแรกของเอกสารที่มีอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต ที่จะเป็นตัวแนะนำให้รู้จักหน่วยงานหรือสถาบันต่าง ๆ ในเวิร์ลด์ไวด์เว็บ (world wide web)

   ในหน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ มักประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้ 
1.โลโก้ (logo) คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถจดจำเว็บไซต์ของเราได้ นอกจากนี้แล้วโลโก้ยังช่วยให้เว็บไซต์ของเราดูมีเอกลักษณ์อีกด้วย
2. เมนูหลัก (link menu) เป็นจุดที่เชื่อมโยงข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งรวบรวมไว้ในรูปแบบของปุ่มเมนู หรือข้อความที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถรับรู้เรื่องราวที่น่าสนใจของเว็บไซต์ได้ ควรมีข่าวใหม่ๆ เนื้อหาใหม่ๆมาตลอด
3. โฆษณา (Banner) เป็นส่วนที่สำคัญอีกเช่นเดียวกัน  เพราะเว็บไซต์ที่มีโฆษณาจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และช่วยกระตุ้นความสนใจเพราะมักใช้ภาพเคลื่อนไหว (Gif Animation)  ประกอบซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของเราดูตื่นตาตื่นใจมากขึ้น จากการวิจัยพบว่าภาพเคลื่อนไหวยังช่วยให้เว็บไซต์ของเราดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นถึง 30%  แต่ไม่ควรมีโฆษณามากเกินไปและควรจัดวางตำแหน่งให้เหมาะสมอีกด้วย 
4. ภาพประกอบและเนื้อหา (content)  เป็นส่วนที่ให้สาระความรู้กับผู้เข้าชม ซึ่งเนื้อหาที่ให้จะต้องมีขนาดพอเหมาะไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป  ควรมีการปรับเนื้อหาให้ใหม่ทันกับปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา จัดวางเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้ที่เข้ามาชมเนื้อหา และการมีภาพที่เกี่ยวข้องประกอบอยู่ยิ่งจะทำให้เว็บไซต์เป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น 
5. การใช้สีให้เหมาะสมกับหน้าโฮมเพจ (color)เพราะสีแต่ละสีจะให้ความรู้สึกที่มีผลด้านอารมณ์กับผู้เข้าชมในลักษณะที่แตกต่างกันไป

การสร้างโฮมเพจ สามารถทำได้หลายวิธีเช่น
1. ใช้ Web Hosting ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูล โดยบางเว็บไซต์ให้บริการในการสร้างโฮมเพจสำเร็จรูปกับผู้ต้องการในการมีโฮมเพจ ซึ่งจะมีรูปแบบของโฮมเพจให้เลือกได้ตามที่ต้องการ หรือต้องการให้ออกแบบตามความประสงค์ของผู้ใช้บริการก็ได้ 
2. ใช้โปรแกรมสร้างเว็บเพจ เป็นการสร้างโฮมเพจโดยการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการสร้าง ทำให้สามารถสร้างตาราง จัดวางตำแหน่งข้อความหรือรูปภาพได้สะดวก ตลอดจนการปรับแต่งแก้ไขจะทำได้ง่าย ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่โปรแกรม Dreamweaver, FrontPage, Go Live หรือ Home Site เป็นต้น 
3.โปรแกรมภาษา HTML และ JavaScript การสร้างโฮมเพจโดยใช้โปรแกรมภาษา HTML และ JavaScript นั้น ผู้สร้างโฮมเพจจะต้องมีความสามารถและความชำนาญในการเขียนโปรแกรมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการสร้างโฮมเพจด้วยวิธีนี้ เป็นการพิมพ์คำสั่งและข้อมูลที่ต้องการแสดงบนโฮมเพจพร้อมกัน 

นิยมเรียกโดยย่อว่า ลิงก์ (link) คือคำหรือวลีต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในเอกสารข้อความ ใช้สำหรับเปิดเอกสารอื่นที่เชื่อมโยงด้วยวิธีการคลิกลงบนคำหรือวลีนั้น โดยเฉพาะกับเว็บเพจซึ่งจะทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ ข้อความที่เป็นลิงก์มักจะปรากฏเป็นสีหรือรูปแบบที่โดดเด่นกว่าข้อความรอบข้าง ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถคลิกบนลิงก์เพื่อเปลี่ยนหน้าไปยังเว็บเพจที่กำหนดไว้ แทนที่จะพิมพ์ในแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์โดยตรง ไฮเปอร์ลิงก์สามารถใช้เป็นการอ้างอิงภายในเอกสารข้อความหลายมิติ นอกจากนี้การคลิกบนลิงก์อาจเป็นการเรียกใช้งานสคริปต์ที่เขียนไว้โดยผู้พัฒนาเว็บก็ได้

สมอ การเชื่อมโยงหลายมิติของสมอคือลิงก์ที่ผูกไว้กับส่วนหนึ่งของเอกสารโดยทั่วไปจะเป็นข้อความ แม้ว่าจะไม่จำเป็นก็ตาม ตัวอย่างเช่น อาจเป็นพื้นที่ร้อนในรูปภาพ ( แผนผังรูปภาพใน HTML) ซึ่งเป็นส่วนที่กำหนดซึ่งมักจะไม่ปกติของรูปภาพ วิธีหนึ่งที่จะกำหนดได้คือการใช้รายการพิกัดที่ระบุขอบเขต ตัวอย่างเช่นแผนที่การเมืองของแอฟริกาอาจมีแต่ละประเทศเชื่อมโยงไปยังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศนั้น ส่วนต่อประสานพื้นที่ร้อนที่มองไม่เห็นแยกต่างหากช่วยให้สามารถสลับสกินหรือป้ายกำกับภายในพื้นที่ร้อนที่เชื่อมโยงโดยไม่ต้องฝังลิงก์ซ้ำ ๆ ในองค์ประกอบสกินต่างๆ

XLink: ไฮเปอร์ลิงก์

W3C คำแนะนำที่เรียกว่าXLinkอธิบายเชื่อมโยงหลายมิติที่มีการศึกษาระดับปริญญาไกลมากขึ้นของการทำงานมากกว่าผู้ที่นำเสนอในรูปแบบ HTML ลิงก์แบบขยายเหล่านี้สามารถเป็นแบบหลายทิศทางเชื่อมโยงจาก ภายใน และระหว่างเอกสาร XML นอกจากนี้ยังสามารถอธิบายลิงก์อย่างง่ายซึ่งเป็นทิศทางเดียว ดังนั้นจึงไม่มีฟังก์ชันการทำงานใดมากไปกว่าไฮเปอร์ลิงก์ใน HTML

Wikis

ในขณะที่วิกิอาจจะใช้ HTML ชนิดเชื่อมโยงหลายมิติการใช้งานของวิกิพีเดียมาร์กอัป , ชุดของภาษามาร์กอัปที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษสำหรับวิกิให้ไวยากรณ์ง่ายสำหรับการเชื่อมโยงหน้าเว็บในสภาพแวดล้อมที่วิกิพีเดีย - ในคำอื่น ๆ สำหรับการสร้างwikilinks

ไวยากรณ์และลักษณะที่ปรากฏของวิกิลิงก์อาจแตกต่างกันไป วอร์ดคันนิงแฮม 's เดิมซอฟต์แวร์วิกิพีเดียที่WikiWikiWebใช้CamelCaseเพื่อวัตถุประสงค์นี้ CamelCase ยังถูกนำมาใช้ในรุ่นแรก ๆ ของวิกิพีเดียและยังคงใช้ในวิกิบางอย่างเช่นTiddlyWiki , TracและPmWiki ไวยากรณ์มาร์กอัปทั่วไปคือการใช้วงเล็บเหลี่ยมคู่รอบคำที่ต้องการสร้างลิงก์วิกิ ตัวอย่างเช่น อินพุต "[[zebras]]" ถูกแปลงโดยซอฟต์แวร์ wiki โดยใช้ไวยากรณ์มาร์กอัปนี้ไปยังลิงก์ไปยังบทความม้าลาย ไฮเปอร์ลิงก์ที่ใช้ในวิกิมีการแบ่งประเภทโดยทั่วไปดังนี้:

  • วิกิลิงก์ภายในหรือลิงก์อินทราวิกินำไปสู่หน้าภายในเว็บไซต์วิกิเดียวกัน
  • ลิงก์ระหว่างวิกิเป็นไฮเปอร์ลิงก์มาร์กอัปแบบง่ายที่นำไปสู่หน้าของวิกิอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับอันแรก
  • ลิงก์ภายนอกนำไปสู่หน้าเว็บอื่น (ที่ไม่ครอบคลุมในสองกรณีข้างต้น wiki หรือไม่ใช่ wiki)